“วันของ ‘เอ๋’
จริงๆ” อย่างวาสนา (นาน่วม) ว่า ไม่ใช่เรื่องที่ได้กอดนายกฯ
อย่างสุดซึ้ง ในฐานที่ตลอดมาทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์ตู่ได้แสบสัน ระหว่างลุงทู้บไปซ่านซ่าแถวราชบุรี
คายคำ ‘ขม’ เป็นคุ้ง
เลือกตั้งท้องถิ่นอย่ารีบเดี๋ยวมาเอง
“มันจะเป็นจะตายกันให้ได้
ผมไม่เข้าใจ” งี้ “ผมเป็นนายกฯ จากการเลือกตั้ง” นะ “สว.ยังไม่ทันเลือก
ผมก็ได้แล้ว ใช่หรือไม่ ปารีณา” จ้ะ พอตอนนี้ละอ้างเสียงเปี่ยม (กะลา)
แต่ตอนก่อนตั้งรัฐบาลนั้นวิ่งวุ่น ดูดนั่น บีบนี่ กระหึ่มสามสี่สิบล้าน
“ที่พูดเต็มปากมานี่หน้าไม่อาย”
สฤณี อาชวานันทกุล @Fringer จัดให้ “ถ้าไม่มีเสียง
ส.ว. ๒๕๐ ตุนไว้ล่วงหน้า ไม่มี ส.ส. ปัดเศษ โอกาสที่พรรคต่างๆ
จะอยากมาเป็นแนวร่วมจะน้อยกว่านี้” แน่ และที่อ้างช่วงนี้กำลังเปลี่ยนแปลง ต้องให้
Safety ฮี่โธ่ ‘เซฟตี้’ มา ๕-๖ ปีไม่พอเรอะ
ข้าง ‘อี๊’ ก็ริกรี้ชักรูปให้ฟู่ฟ่ากลบเรื่องใหญ่ที่นักรบไซเบอร์
Noppakow Kongsuwan
เรียกว่า ‘บูมเมอแรง’ ซึ่งคุณหล่อนเขวี้ยงใส่ ‘แม่ธนาธร’ หมายจะ “ให้ร้าวไปถึงลูก” กรณีที่ดินเขตป่า ๕๐๐ ไร่
อ้างชาวบ้านร้องเรียนขอคืน
กลับเจอคนจริง นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
ตอบทันใจ “ว่ายินดีคืนที่ทั้งหมด เอาไปเลย ไม่ติดใจที่จะเอาเก็บไว้
แต่ขอจัดการเอกสารให้เสร็จก่อน” แทนที่เรื่องจะแผ่วหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
คลื่นเจอกำแพงเลยกระแทกกลับ
เมื่อ เรืองไกร
ลีกิจวัฒนะ ‘นักฟ้อง’
พวกฝ่ายแม้ว ยื่นถาม ปปช.ว่าที่ดินของป่าไม้ (ภบท.๕) ๕๘ แปลง ๑,๗๐๖
ไร่ ในอำเภอจอมบึง ราชบุรี มี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ครอบครอง ตั้งโรงเลี้ยงไก่ฟาร์มเขาสน
เคยเป็นป่าสงวนป่าไม้มอบให้ สปก.
เมื่อ ๑๑ พ.ย. สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
จ.ราชบุรี ตรวจสอบแปลงที่ดินฟาร์มไก่เขาสน ที่อี๊เอ๋ว่า “ได้สิทธิเข้าทำกินมากว่า
๑๐ ปี โดยเสียภาษีบำรุงท้องที่” ภบท.๕ ชาวบ้านเรียกว่า ‘ภาษีดอกหญ้า’ นั้น “นายทวี ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี เป็นบิดาของ น.ส.ปารีณา
มีชื่อเป็นผู้ถือครองจากปี
๕๔ จนถึงปัจจุบันยังไม่ยอมส่งมอบคืนพื้นที่ให้ ส.ป.ก.” ทั้งที่ไม่มีสิทธิเพราะนายทวี
“ไม่มีคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรและคนยากจน จะต้องยึดคืนทั้งหมดทันที ตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่
๓๖/๖๐”
เจ้าหน้าที่
สปก.พบว่าที่ดังกล่าวกว่า ๑ พันไร่ เป็นของ สปก. แล้วบริเวณฟาร์มไก่ “ยังมีภูเขาในเขตป่าสงวนอีกด้วย”
จึงเป็นการถือครองโดย ‘มิชอบ’ ด้วยกฎหมาย “ต้องยึดคืนตามมาตรา ๔๔”
ทั้งนี้ตามนโยบายของ
รมช.เกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า (พปชร.เหมือนกัน) สั่งไว้แล้วแจ้งชัดว่าที่ใดของ สปก.ถ้ามีผู้ถือครองโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
(ดังเช่นนายทวีไม่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกร) ให้ยึดคืนหลวงไว้ก่อนทุกแปลง
ทำให้
รมว.ทรัพยากรฯ วราวุธ ศิลปอาชา ต้องพูด “มีคนส่งคลิปทั้งเสียงและภาพที่
น.ส.ปารีณาให้สัมภาษณ์มาให้ตนเยอะมาก...หากบุกรุกป่าจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
กรมป่าไม้ไม่รอช้า อธิบดี “สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ตรวจสอบ” ทันที
รายการเจาะลึกทั่วไทยเมื่อวาน (๑๑ พ.ย.) เอ๋ยืนกรานว่า
“ที่ดินดังกล่าวได้มานานมากแล้ว
เป็นที่ดินที่รัฐบาลโดยกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้ และเสียภาษีดอกหญ้ามามากกว่า
๑๐ ปี”
แต่อธิบดี อรรถพล เจริญชันษา ชี้ว่า “การครอบครองที่ดิน
ภทบ.๕ ถือเป็นการครอบครองที่ดินมือเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ รองรับ
ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ (๓๐)...อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น”
“กรณีครอบครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา
เหมือนกรณีในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา (กามองเต้) และกรณีเขายายเที่ยงของพล.อ.สุรยุทธ์
จุลานนท์ อดีตนายกฯ ที่ครอบครองที่ดินมือเปล่า ไร้เอกสารสิทธิ์”
(https://www.khaosod.co.th/politics/news_3047404,
https://www.facebook.com/dadchak/photos/a.116515633067717/152076276178319
และ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=686147725126993&set=a.124630191278752&type=3)
ทั้งสองกรณี ไม่ว่าจะ ‘เส้น’ หรือ ‘ใหญ่’ ขนาดนั้น มันจบลงที่ต้อง ‘คืน’ หรือยอม ‘รื้อ’ แต่สำหรับปารีณาที่เป็นหนังหน้าไฟให้
‘ตู่.๒’ จะพยายามพูดโดยนัย ‘ระงับใช้ -Overrides’ กฎหมาย
อีกทั้งเลี่ยงความผิดด้วยการไพล่ไปถึงแม่ธนาธร
จะปลอดรอดไปได้แค่ไหน
ย่อมบ่งบอกถึงการใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งไม่ว่าจะทำเนียนตีกินว่าฉันก็มาจากการเลือกตั้ง
ไม่ใช่แย่งเขามาเหมือนก่อนนะอย่างไร ผู้คนย่อมเห็นว่าเล่นตบตาหน้าด้านๆ จนได้
