วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2562
"ผมไม่ได้สงสารธนาธรเลยนะเอาจริงๆ... ธนาธรไม่ได้น่าสงสาร เขาคิดแล้ว ตัดสินใจดีแล้ว เขาเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะทำและพร้อมเผชิญผลที่จะตามมา เราต้องสงสารตัวเอง ..."
ผมไม่ได้สงสารธนาธรเลยนะเอาจริงๆ
พูดอย่างซื่อตรง คนอย่างธนาธรมีอะไรให้น่าสงสารเหรอครับ ฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่ามนุษย์เดินดินกินข้าวแกงระดับเราๆ ไม่เห็นฝุ่น เขาไม่มีความยากลำบากเป็นพื้นฐานของชีวิตจึงพร้อมเสียสละ เมื่อเขาตั้งใจแน่วแน่มาเล่นการเมืองในห้วงยามนี้ เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอกับอะไร ธนาธรคงคิดดีแล้วว่าเขาพร้อมสุดๆ และเขาคงเห็นด้วยกับผมว่าไม่จำเป็นต้องสงสารเขาหรอก
แต่ผมสงสารคนที่เลือกเขา และเทความฝันไปให้กับธนาธร ที่ต่อให้เลือกนักการเมืองกี่คนต่อกี่คนไปต่อสู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เขาก็พยายามหาทางทำลายอยู่ร่ำไป
เหมือนต้นไม้ที่เริ่มแตกยอดจะถูกสับทิ้งไม่ใยดี
ธนาธรเหมือนยอดๆ หนึ่งของพันธุ์ไม้ที่แคระเกร็น นานๆ จะแตกออกสักใบ
ในยามที่มืดมนที่สุด
คนที่มองเห็นประเทศนี้อยู่ในภาวะป่วยไข้มานับทศวรรษ มูลเหตุจากการปะทะขัดแย้งระหว่างคนกับคนที่ถือความเชื่อทางการเมืองคนละรูปแบบ โลกทัศน์คนละอย่าง นิยมคนละแนวทาง ถ้ายังมีฝัน ความหวังและโอกาสที่ทางในประเทศนี้ ระบอบประชาธิปไตยมันบังคับให้ต้องหาตัวแทนที่ผู้คนเชื่อมั่นไปสู้กับอีกฝ่ายที่ใช้วิธีสืบทอดหัวขบวนรุ่นต่อรุ่น มันก็ยากอยู่แล้ว
พวกเขาไม่ได้พยายามทำลายแค่ธนาธร แต่เขาต้องการทำลายความหวังของผู้คนที่กระด้างกระเดื่องไม่ศิโรราบให้อำนาจเผด็จการ นั่นแหละคือประเด็น
ไม่อยากให้มีใบใหม่ๆ แตกออกมาอีก
ยาวก็บั่น แตกกิ่งเติบโตก็สับยอดทิ้งไปเรื่อยๆ และกระเหี้ยนกระหือจะขุดรากไปเผาไฟอยู่เสมอ
หากเราอยู่ในโลกยุคก่อนอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียเฟื่องฟูคงโดนไปแล้ว
นี่ขนาดโลกสมัยใหม่พัฒนาไปถึงไหนต่อไหน เขายังแบกหน้ากล้าใช้เครื่องมือล้าหลังจากทศวรรษก่อนเล่นงานผ่านถ่ายทอดสด
ฉะนั้นธนาธรไม่ได้น่าสงสาร เขาคิดแล้ว ตัดสินใจดีแล้ว เขาเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างแรงกล้าที่จะทำและพร้อมเผชิญผลที่จะตามมา
เราต้องสงสารตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และช่วยกันรักษารากตัวเองไว้ให้ดีๆ เพื่อดูสารอาหารหล่อเลี้ยงลำต้น รอวันให้ใบใหม่ๆ แตกยอดและผลิบาน.
--------------
ขอบคุณภาพประกอบจาก voiceonline
Nattharavut Kunishe Muangsuk
(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10157759400688582&set=a.443550553581&type=3&theater)