วันจันทร์, พฤศจิกายน 18, 2562

อยากอยู่นาน แต่ทำงานไม่เป็น... น่ากลัวที่สุด !!!



.


ทำงาน • ไม่ • เป็น

อุตส่าห์เขย่งโกงสูตรคำนวณ ส.ส. เข้ามาเป็นรัฐบาลในสมัยที่ 2 แล้ว แต่ความอ่อนเดียงสาทางการบริหารบ้านเมืองก็ยังคงอยู่ เพราะว่าเป็นรัฐบาลที่ทำงานไม่เป็น คิดว่าประเทศชาติจะเหมือนการออกคำสั่งในกองทัพที่สั่งอย่างไหน ก็จะเป็นอย่างนั้นได้ดังใจ และเพราะการบริหารประเทศไม่ใช่การลองผิดลองถูก เพราะการบริหารงานผิดพลาดหมายถึงคนไทยจะจนลง และความจนนั้นฆ่าคนให้ตายได้

ในขณะที่ปากก็เที่ยวป่าวประกาศไปว่าเศรษฐกิจไทยนั้นดี โตวันโตคืน แต่ก็ยังใช้เงินไปกับการหว่านโปรยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายที่เอางบกลางมาใช้อย่าง #ชิมช้อปใช้ ที่เอาเงิน 1,000 บาทมาเป็นตัวล่อใส่ไว้ในกระเป๋าใบที่ 1 เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้เงินจะได้กระตุ้นภาคเศรษฐกิจให้คึกคัก โดยเป้าหมายจริงๆนั้นหวังเอาไว้ว่าประชาชนจะเพลิดเพลินกับการใช้เงินจนหันไปใช้ในกระเป๋าใบที่ 2 บ้าง แต่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ เพราะจากที่รัฐบาลคาดการเอาไว้ว่าโครงการนี้จะมีเงินสะพัดในตลาดกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท ผ่านไปได้ครึ่งทาง ปรากฏว่าผลที่ได้นั้นเกินคาด คือน้อยเกินคาด เพราะเงินที่ประชาชนใช้เองจริงๆนั้นอยู่ที่ 4-5 ร้อยล้านบาทเท่านั้น เรียกได้ว่าหายไปกว่า 100 เท่า หรือหายไปกว่าที่คาดเอาไว้ (มติชน, 2562) เรียกได้ว่าหายนะกันเห็นๆ เพราะไม่ว่าจะเข็นเฟส 2 ออกมา หรือขยายเวลาก็แทบไม่กระเตื้องขึ้นมาสักนิด สาเหตุของความล้มเหลวก็เป็นเพราะการทำงานไม่เป็น ไม่คำนึงถึงว่าเงินในกระเป๋าคนไทยที่จนอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยว เห็นได้จากเมื่อได้ 1,000 บาทมา คนจำนวนไม่น้อยก็เอาไปซื้อข้าวสาร น้ำปลา ผงซักฟอก ของอุปโภคบริโภคกันจนห้างแทบแตก เงินที่จะเอาไปเที่ยวหรอ ? อย่าหวังว่าจะมีคนไปใช้กันมากนักเลย

นโยบายเศรษฐกิจที่อุตส่าห์เปลี่ยนหัวหน้าทีมเป็น "ตัวเอง" ก็พาคนไทยย่อยยับ เพราะรัฐหันไปอุดหนุนเจ้าสัว ทุนใหญ่ ทุนข้ามชาติ ที่แม้ว่าจะช่วยดันตัวเลข GDP ให้เติบโตได้มากขึ้นบ้าง แต่ในขณะเดียวกัน คนไทยพากันตกงาน โรงงานขนาดใหญ่ทยอยปิดลงเรื่อยๆ (the momentum, 2018) ทำให้ผลงานพลังประชารัฐอันโดดเด่นนั้นยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะเป็นรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนอยากลงทะเบียนบัตรคนจนมากขึ้นทุกวินาที (ไทยรัฐ, 2561) แถมการแก้ปัญหาซึ่งนายกมีปัญญาเพียงแค่ให้คนไทยไปเรียนอ๊อกเหล็ก หรือตัดเย็บ สะท้อนสติปัญญาอันน้อยนิด แสดงให้เห็นว่านอกจากเศรษฐกิจฐานรากภาคประชาชนนั้น ก็มีเรื่องสติปัญญาของนายกนี่เอง ที่ถดถอยไปไม่แพ้กัน

นอกจากนโยบายทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ทางด้านการบริหารก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี หรือคนในรัฐบาลล้วนมีแต่ปัญหาการทุจริต หรือความไม่โปร่งใสทั้งนั้น ตั้งแต่รัฐมนตรีค้ายา, รองนายกยืมนาฬิกา, ส.ส. 1,700 ไร่, หรือแม้แต่ ส.ส. ปัดเศษที่ประชาชนต้องเบือนหน้าหนี นี่ยังไม่ได้นับรวม ส.ว. แต่งตั้ง และองค์กรอิสระที่มาอยู่เหนือ ส.ส. อีกมากมายหลายองค์กร สะท้อนปัญหาในรัฐธรรมนูญที่เขียนมาเพื่อ "พวกเขา" โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนนี้เองที่เป็นการประกาศให้ประชาชนรู้ว่ารัฐธรรมนูญ 2560 เป็นรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ บกพร่องจนใช้การ (ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน) ไม่ได้ เพราะเมื่อใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว ประชาชนได้สิ่งที่ไม่ต้องการมาแทน

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่สะท้อนการ #ทำงานไม่เป็น ของรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งหากให้สาธยายทั้งวันก็ไม่หมด เพราะสะสมมากว่า 5 ปี สิ่งเหล่านี้พัวพันกับการไม่เป็นประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับ คสช. และกองทัพ ที่พูดถึงความเป็นอยู่อันเกี่ยวพันกับปากท้องประชาชนน้อยมาก ฉะนั้นจึงควรมีการร่างกฎกติกา หรือรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ให้ประชาชนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักร่วมออกแบบ เพื่อคัดเลือกคนที่ทำงานเป็นเข้ามาบริหารบ้านเมืองต่อไป

https://www.matichon.co.th/economy/news_1740528
https://themomentum.co/beyond-gdp/
https://themomentum.co/whats-wrong-with-gdp/
https://www.thairath.co.th/news/business/1422936
https://www.thaipost.net/main/detail/25219


กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG
.