สมเด็จพระจักรพรรดินะรุฮิโตะ ทรงประกอบพระราชพิธี ไดโจไซ (大嘗祭) เป็นขั้นตอนลึกลับที่สุดในงานราชาภิเษก เป็นพระราชพิธีขอบคุณการเก็บเกี่ยวพืชผลครั้งแรกที่กระทำขึ้นภายหลังการประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกของจักรพรรดิญี่ปุ่นที่มีมาแต่สมัยโบราณ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศสงบสุข เป็นพิธีที่เชื่อมโยงระหว่างจักรพรรดิกับอะมะเตะระสุ โอะมิกะมิ เทพีแห่งสุริยะ (เทพเจ้าในศาสนาชินโต) เชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของจักรพรรดิญี่ปุ่น
ขั้นตอนนี้ใช้งบประมาณไปทั้งหมด 2700 ล้านเยน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่ใช้ภาษีของประชาชนญี่ปุ่นมาใช้ นอกจากนี้หลังจากที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลก มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจักรพรรดิไม่ได้เป็นเทพ จักรพรรดิคือมนุษย์ปุถุชน การประกอบพระราชพิธีนี้จึงขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญกลายๆ
ในพระราชพิธีขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดินะรุฮิโตะมีผู้คนชื่นชมดีใจก็จริง และอีกด้านก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่น้อย
คืนเมื่อวานนี้(14พ.ย.) มีกลุ่มต่อต้านพิธีไดโจไซ รวมกลุ่มกันที่ข้างพระราชวังอิมพีเรียล ถือป้ายที่มีความหมายต่อต้านพระราชพิธีดังกล่าว ผู้ชุมนุมมีการใช้ไมโครโฟน และถือป้ายที่เขียนต่อต้านดังนี้
👤"เราไม่เอาพระราชพิธีไดโจไซ"
👤"เอาภาษีของเราคืนมา"
👤"ระบอบจักรพรรดิไม่มีความจำเป็นกับสังคมญี่ปุ่น"
👤"จักรพรรดิได้โปรดหยุด"
👤"เราไม่เอาระบอบจักรพรรดิ"
👤"ในขณะที่ประชาชนมากมายกำลังทุกข์ทรมานจากภัยธรรมชาติญี่ปุ่น แทนที่จะเอาภาษีไปช่วยคน แต่กลับเอาไปใช้ในพระราชพิธีโบราณที่ใช้เงินมากมายไปเพื่ออะไร?"
"มันแปลกมากที่คนเราแค่เกิดมาก็ไม่เท่ากันแล้ว"
.
กระแสการต่อต้านพระราชพิธีรวมทั้งต่อต้านกษัตริย์ในการชุมนุมเมื่อคืนเป็นข่าวใหญ่ในเช้าวันนี้ ความเห็นของชาวเน็ตก็มีวิพากษ์วิจารย์ที่หลากหลายทั้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม และต่อพระราชพิธี เป็นต้นว่า
👤 ถ้ารังเกียจนักก็ออกจากประเทศนี้ไป ! (ประโยคนี้คุ้นๆแฮะ ต้นฉบับญี่ปุ่นมาแบบนี้จริงๆนะそんなに嫌なら国外に退去してください！)
👤 ผมไม่ได้ไปประท้วง แต่ก็เห็นด้วยเหมือนกันที่ว่าท่านเอาภาษีของเราไปใช้ในการพิธีที่จบในคืนเดียวมากมายขนาดนี้ ก็รู้สึไม่โอเคเหมือนกัน
👤 พูดยากนะ จักรพรรดิก็เหมือนศูนย์รวมจิตใจชาวญี่ปุ่น อยู่ในฐานะของสัญลักษณ์ของประเทศเรา
และพิธีนี้ก็นานๆที อาจจะไม่ได้เห็นอีกแล้วก็ได้ เราคิดว่าเราโอเคนะที่ใช้ภาษีของเรา
👤 ส่วนตัวผมมีความชื่ชมยินดีกับพระราชพิธี แต่คนที่ชุมนุมเค้าก็มีสิทธิ์ในการออกความเห็นเพราะนั่นคือภาษีของพวกเค้าเหล่านั้นเช่นกัน
แต่ละประเทศก็มีบริบทที่ต่างกัน ที่สำคัญคือการยอมรับความเห็นอีกฝ่ายและการแสดงออกได้อย่างเสรี อ่านไว้เป็นความรู้นะ
CR
https://www.asahi.com/articles/photo/AS20191114004072.html
https://headlines.yahoo.co.jp/hl?a=20191114-00000162-kyodonews-soci
https://twitter.com/YahooNewsTopics/status/1194946942230360065
ใครที่อยากอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับพระราชพิธีไดโจไซ Posttoday เขียนไว้ละเอียดมาก ศึกษาต่อได้ที่ https://www.posttoday.com/world/606392
Shavaritth Unyotha
