วันศุกร์, พฤศจิกายน 15, 2562

สิระ เจนจาคะ "ไปภูเก็ตเที่ยวนี้เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการคอนโดมิเนี่ยมกะรนหลุดข้อหา"


บทบาทของนายสิระ เจนจาคะ และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สอง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ ทั้ง แส่ และ ป่วน ชวนให้หวนรำลึกความหลังครั้งสภา ผัว-เมียร้อยพ่อพันแม่ สมัยที่มีการจู่โจมดึงเก้าอี้นั่งของประธานสภา

ต่างแต่ว่าครั้งนั้นฝ่ายค้านป่วนรัฐบาล แต่คราวนี้เป็นพวกรัฐบาลป่วนฝ่ายค้าน ด้วยการส่งสิระและเอ๋เข้าไปนั่งร่วมเป็นกรรมาธิการปราบคอรัปชั่น ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส พรรคเสรีรวมไทยเป็นประธาน

ทั้งสองคนตีบทแตกเป็นเสี่ยงสมค่าจ้าง คำอภิปรายของปารีณาทำเอาประธานฯ ฉุนได้ ด้วยข้อความส่อเสียดว่าถ้าประธานฯ ดึงดันจะให้นายกฯ และรองฯ ไปชี้แจงด้วยตนเอง “กรณีการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๓

“ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน” แล้วละก็ ถือว่าประธานฯ “ใช้อำนาจเกินขอบเขตบังคับบุคคล (ให้มาชี้แจง) อาจผิดกฎหมายได้ประธาน กมธ.อาจต้องติดคุก” ทำให้เสรีพิศุทธ์สวนทันทีว่า “ขู่ผมเหรอ ผมเรียนกฎหมายมา”
 
เรื่องของเรื่องอยู่ที่รัฐบาลประยุทธ์ ๒ นี่เล่นการเมืองแบบ ข่ม ฝ่ายนิติบัญญัติ ใช้พลพรรคของพวกตนในสภาสำหรับคอยยกมือสนับสนุนอย่างเดียว กับตั้งองครักษ์พิทักษ์หัวหน้าไว้ค้านดะต่อฝ่ายค้าน

โดย น.ส.ปารีณา กำลังมีคดีร้อนครอบครองพื้นที่ สปก.ในเขตอุทยานแห่งชาติทำฟาร์มเลี้ยงไก่มานานนับสิบปี แต่ดูจะไม่สะทกสะท้าน เพราะทั้งรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตร ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกโรงปกป้อง

มิใยที่รัฐมนตรีรุ่นพี่ อย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แห่งกระทรวงมหาดไทย ออกไปในทางที่ให้ “ตรวจสอบกัน เป็นอย่างไรก็ว่าไปตามกฎหมาย” โดยที่เห็นชัดว่ากฎหมายนี้ถูกละเลยไม่ใยดีโดยคนในรัฐบาลประยุทธ์ ๒ ทั้งสิ้น

เป็นความไม่เสมอภาคแม้ในทางกระบวนยุติธรรม ที่ สุวลี โพธิ์งาม ชาวบ้านในเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง “ถูกตัดสินจำคุก ๕ เดือน ๑๐ วัน ต้องจ่ายชดใช้ค่าเสียหาย ๑๖๐,๐๐๐ บาท ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ อช.ไทรทอง เนื้อที่ ๖ ไร่ ๓ งาน ๓๑ ตารางวา”
 
กับการใช้ประโยชน์ที่ดินตีนเขาเขตอุทยานของปารีณาอย่างผิดกฎหมาย กลับทำท่าว่าจะ รอดแน่ แล้วยังไปเข้าประชุมกรรมาธิการ ปปช.จับคู่ สิระปักหลักป่วน โดยเฉพาะนายสิระนี่พยายามเสนอให้สมาชิกกรรมาฯ ปลดประธานเสียนี่

“การประชุม กมธ.ครั้งต่อไปในวันที่ ๒๐ พ.ย. ตนจะเสนอให้เปลี่ยนตัวประธาน กมธ. และมั่นใจว่ามีเสียงจาก กมธ.เกินครึ่งที่จะสนับสนุน...เมื่อถามว่าจะเสนอใครเป็นประธาน กมธ.แทน นายสิระตอบว่าจะเสนอตนเองเป็นประธานแทน”


นอกจากป่วนแล้ว ส.ส.สิระคนนี้ยังเที่ยวแส่ ไปสั่งการนอกพื้นที่ ทำตัวเป็นรัฐมนตรีเจ้ากี้เจ้าการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกเป็นข่าวอื้อซ่าว่าเที่ยวบริภาษณ์ตำรวจท้องที่ไม่จัดคนไปต้อนรับและคอยให้บริการ

คราวนี้ (๑๔ พ.ย.) อ้างว่าไปติดตามความคืบหน้ากรณีการร้องเรียนว่ามีเอกชนสร้างคอนโดในพื้นที่ป่าตำบลกะรน หลังจากฟังรายงานของกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็สั่งให้รองผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นประธานทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเสนอตน

แถมกร่างอีกครั้ง ข่าวบอกว่าสิระอ้างต้องมีรายงานตัวจริงให้เห็น “จะได้รู้ว่า ใครอุ้มใคร ใครทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อยากเรียนว่าผมไม่ใช่เพื่อนเล่น อย่ามาล้อเล่นกับผม ผมมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของข้าราชการ”
 
แต่กระนั้นปรากฏว่ามีชาวบ้านจากอำเภอกะรนจำนวนหนึ่งรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลาง พร้อมด้วยผืนป้ายข้อความ “ทวงคืนคลองบางรัก” เนื่องจากคลองสาธารณะบริเวณหาดกะตะน้อยแห่งนี้หายไป

“รวมถึงถนนสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากถูกนายทุนเจ้าของโรงแรมยึดไปครอบครอง แล้วทำมาหากินจนร่ำรวย ชาวบ้านเดือดร้อน” นายอิทธิพร สังข์แก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลกะรน แกนนำร้อง

“ไม่เห็นมีใครไปดำเนินการกับนายทุนคนนี้ แถมมีนักการเมืองใหญ่มาปกป้องนายทุนคนนี้ มาแล้วมาอีก ทำให้วุ่นวายกันหมดทั้งจังหวัด แล้วมาถึงปั๊บก็กลับ”

เขาเจาะจงถึงนายสิระที่ไปภูเก็ตเที่ยวนี้เพื่อให้แน่ใจว่าโครงการคอนโดมิเนี่ยมกะรนหลุดข้อหา ทั้งที่ชาวบ้านดักรอร้องเรียน นายสิระไม่ยอมเปิดประตูรถสั่งให้คนขับออกไป