สุ่มคุยกับคน "อยู่ไม่เป็น" ในงานพรรคอนาคตใหม่
@@@@@@@@@@
1.มนตรี ร้อยกรอง อายุ 77 ปี
มาจาก กทม. อาชีพ ที่ปรึกษาบริษัทด้านพลังงาน
........................
พรรคนี้เหรอ ทีแรกเฉยๆ คิดว่าไม่น่ารอด ยังไม่รู้จักปิยบุตร-ธนาธร พอดูๆ ไปรู้สึกว่าทำไมอายุ 40 กว่าเก่งกว่าเราหลายเรื่อง ทั้งที่เราก็จัดว่าเก่งแล้วนะ (หัวเราะ)
เช่นเขาพูดเรื่อง BOI สิทธิพิเศษต่างๆ ที่เราให้ต่างชาติ ทำให้เราสูญเสีย 2 แสนล้านบาทต่อปี สิ่งนี้คิดในสมัยสฤษดิ์ วันนั้นใช่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว
แล้วเขาก็พูดเรื่องความไม่เป็นธรรมของกฎหมาย โดยเฉพาะพวกองค์กรอิสระทั้งหลาย กลายเป็นว่ารัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้มีองกรอิสระนึกว่าจะ Balance แต่กลับดูดเลือดยิ่งกว่ายุง อีกประเด็นที่สำคัญคือราชการไทยใหญ่เทอะทะมาก ภาษีที่เราเก็บได้เกือบ 3 ล้านล้านต้องเอามาใช้จ่ายเรื่องนี้ ดูเหมือนผมจะอภิปรายเยอะ เมื่อกี้ถามว่าอะไรนะ (หัวราะ)
40 ปีที่แล้วผมเป็นสมาชิกพรรคพลังใหม่ เพราะมองว่าต้องแก้การครอบงำของทหารด้วยแนวคิดใหม่ๆ ตอนนั้นพรรคดูเป็นตัวอันตราย มีการแต่งเรื่องป้ายสีว่าเป็นคอมมิวนิสต์ สุดท้ายพรรคโดนทำลาย ผมก็เศร้า ต่อมาก็สนใจมหาจำลอง แต่ Vision ของแกมันระดับดูแลความสะอาดเมือง แต่ระดับประเทศไปไม่ถึง และแกไม่ซื้อเสียง สุดท้ายก็พ่ายแพ้ มาถึงคุณทักษิณ ดูเข้าท่า แต่มีผลประโยชน์ตามมาด้วยในการพัฒนาประเทศ ประเทศก็ได้ เขาก็ได้ เขายังเป็นอันตรายต่อกลุ่มทุนบางกลุ่ม อำมาตย์บางคน จึงมีการสร้างนิยายทำลายล้าง
เอาจริงๆ ที่ชอบพรรคนี้ นอกจากเรื่องอุดมการณ์แล้วก็เพราะมันถูกรังแก ผมชอบมวยรอง (หัวเราะ)
ถามว่าคราววนี้จะรอดไหมหรอ ถ้าตามตัวบทมันไม่น่าโดน แต่ส่วนใหญ่ตัดสินกันตามอารมณ์ ถึงที่สุดก็คงจะยกซักกรณีร่ายมนต์ให้โดนยุบพรรค
คุณเข้าใจไหมเผด็จการมันรับไม้ต่อกันได้ดี คนนี้ลงคนนั้นขึ้น ที่นี้ก็ต้องดูฝั่งประชาธิปไตยว่าถ้าโดนเด็ดหัวแล้วจะทำยังไง ใครจะขึ้นมารับไม้ต่อ ไอ้เรื่องแรงสู้นั้นมันมีแน่
=============
2.เพชร อายุ 28 ปี
มาจาก กทม. อาชีพ โปรแกรมเมอร์
..........................
ที่ชอบก็เพราะดูเป็นพรรคเดียวที่กล้าขัดทหาร จุดยืนหนักแน่น จริงๆ เพิ่งสนใจการเมืองไม่นานมานี้ช่วงก่อนรัฐประหาร 2557 นิดหน่อย เหตุที่สนใจก็เพราะอาจารย์ที่ปรึกษาแม้จะสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แต่ก็สนใจการเมืองมากเลยพลอยสนใจไปด้วย
ผมไม่ชอบทหารชัดเจน เพราะเขาเล่นนอกเกม เรามีระบบรัฐสภาอยู่ก็ควรจะทำอะไรในระบบ ที่ผ่านมาผมไม่เคยไปร่วมชุมนุมกับฝ่ายไหนเลย แต่ดูสื่อทั้งสองฝั่ง แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยโอเคกับทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการปิดสนามบินหรือการขู่เผาบ้านเผาเมือง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ความรุนแรง
บรรยากาศในออฟฟิศเราก็คุยกันได้เรื่องการเมือง แต่คนก็ไม่ได้ตื่นตัวกันมากนัก คนรอบตัวส่วนใหญ่ไม่เอารัฐประหารแหละ แต่ไม่ได้เชียร์อนาคตใหม่ทุกคน บางคนบอกว่าอนาคตใหม่ไม่ค่อยพูดเรื่องเศรษฐกิจก็เลยไปเลือกเศรษฐกิจใหม่
ผมก็ไม่รู้นะ ถ้ามีการยุบพรรค ยังไม่ได้คิดว่าจะทำยังไงแต่ทีมงานเขาก็อาจตั้งพรรคใหม่หรืออะไรก็ว่ากันไป คงไม่อยู่นิ่ง
มางานนี้เพราะชื่องานมันดึงดูด ผมก็แค่อยากลองมาฟัง ถามว่าอยู่เป็นไหมเหรอ (หัวเราะ) ผมว่าผมค่อนข้างอยู่เป็นนะ ตอนใครเขาชุมนุมก็ไม่ได้ออก ติดตามการเมืองก็ติดตามห่างๆ เพราะผมระแวง อย่างในทวิตเตอร์ก็มีการล่ากัน มีการข่มขู่ มีคนที่อ้างตัวเป็นทหารบุกถึงโรงเรียน เลยคิดว่าอยู่นิ่งๆ แล้วเก็บตังค์ไปต่างประเทศน่าจะดีกว่า
===========
3.บุ๋ม อายุ 48 ปี
มาจากสมุทรปราการ อาชีพรับจ้าง
......................
มางานนี้ครั้งแรกอยากมาดูผลงานของเขา ที่ชอบก็เพราะชอบนโยบายของเขาที่เกี่ยวกับประชาชน โดยเฉพาะแรงงานเกษตรกรคนยากจน
สนใจการเมืองอยู่แล้วแต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ชอบพรรคไหนเพราะนโยบายไม่ค่อยได้ช่วยคนจน อ้อ แต่พรรคเพื่อไทยก็พอได้อยู่
เรื่องคดีเราก็ไม่รู้มากแต่ที่สังเกตได้คือเขาพยายามทำดีทำไมถึงโดนหนักขนาดนี้ แล้วก็โดนอยู่พรรคเดียวด้วย พรรคอื่นมีกรณีเหมือนกันก็ไม่โดน
==============
4.รุ่งอรุณ แซ่บุญ อายุ 75 ปี
มาจาก กทม. อาชีพแม่บ้าน
.......................
เป็นคนชั้นกลางระดับกลาง ที่ตอนนี้จะกลายเป็นคนชั้นกลางระดับล่างแล้ว (หัวเราะ)
ชอบมากพรรคอนาคตใหม่ เพราะเขามีอุดมการณ์ที่ยึดมั่นประชาธิปไตยและมีความมั่นคงในเรื่องนี้มาก คนอาจวิจารณ์ว่าเขาแรง เขาแข็ง เพราะสังคมไทยไม่เคยเจอพรรคแบบนี้มาก่อน จริงๆ แล้วไม่แรงเลยเป็นพรรคประชาธิปไตยทั่วไปที่ทั่วโลกมี
เมื่อก่อนเลือกพรรคไทยรักไทย เพื่อไทย ตอนปี 53 หรือตอนเรียกร้องเลือกตั้งก็ออกมาชุมนุมด้วย อาจารย์ปิยบุตรก็รู้จักมาก่อนบ้างเพราะติดตามผลงานวิชาการ เสวนาก็เคยไปฟัง แต่ธนาธรเพิ่งรู้จักตอนตั้งพรรค
รัฐประหารทำให้ประเทศไม่ก้าวหน้าไปไหน อยู่มาจนขนาดนี้เห็นการเมืองไทยมาเยอะเพิ่งได้เจอพรรคอนาคตใหม่ที่โดนใจจริงๆ อยากมีพรรคที่มีอุดมการณ์หนักแน่นและให้ประชาชนช่วยสนับสนุนอุดหนุน อยู่ได้เพราะประชาชนจริงๆ แบบนี้ นี่ก็เป็นสมาชิกนะ แล้วก็สนับสนุนทุกอย่างที่ทำได้ ที่จริงพรรคเพื่อไทยก็ชอบ แต่ชอบอนาคตใหม่มากกว่าเพราะมีแนวคิดที่ถึงแก่นกว่า
รู้สิ รู้ว่ามันยากมากตอนเขาก่อตั้งใหม่ๆ แต่คิดว่ามันต้องเป็นไปได้ ถ้ามีคนต้องการความเปลี่ยนแปลงมากพอมันก็จะเปลี่ยนแปลง เราแค่ไม่อยากให้ทหารสืบทอดอำนาจ เราไม่อยากอยู่แบบนี้ ไม่ใช่ว่าคนมีอำนาจทำอะไรก็ได้ คนจนก็ยอมจำนนอยู่อย่างนี้ต่อไป
เรื่องคดีทั้งหลายมันก็คล้ายๆ เดิม ถูกกลั่นแกล้งครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงที่สุดก็พร้อมจะออกไปบนถนนนะ ถึงเวลาออกก็ต้องออก ทุกอย่างถ้าเราไม่สู้ไม่ทำอะไรก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนเรามีความอดทนจำกัดเหมือนกัน ธนาธรเขาไม่อยากให้ถึงจุดนั้น เขาต้องการสู้ในระบบแต่ประชาชนเองแหละมันจะทนไม่ไหว
===========
5.ปัทมาวรรณ อยู่พิทักษ์ อายุ 59 ปี
มาจาก กทม. อาชีพ ลูกจ้างโรงงาน
..................
พรรคนี้เป็นพรรคแห่งความหวัง พี่หวังมากนะ อยากเห็นประเทศพัฒนาไปในทางแบบนี้ ที่สำคัญ รู้สึกว่าเข้าถึงมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ผ่านมาแม้แต่พรรคเพื่อไทย เรารู้สึกมีส่วนร่วมได้มากกว่าติดตามทางโซเชียลไง รู้หมดว่าเขาจะทำอะไร
เรื่องคดีประชาชนก็ต้องช่วยกันสิ คิดว่ามันไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย มันไม่ใช่ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าประชาชนไม่ช่วยพรรคของตัวเอง ก็จะถูกทำลายกระบอกเสียงของตัวเอง
ไม่เคยไปชุมนุมเลย ไม่เคยไปร่วมงาน Event ก่อนหน้านี้ด้วย เพราะว่าต้องทำงาน แต่ติดตามตลอดทางโซเชียลให้ลูกทำคอมพิวเตอร์ให้เลยทั้งที่ไม่เคยทำ ตอนนี้ก็สมัครสมาชิกแล้ว
โรงงานที่ทำงานเป็นโรงงานใหญ่ คนงาน 1700 กว่าคน คนงานไม่ค่อยกระตือรือร้นทางการเมืองนัก แต่มันก็ไม่ใช่แค่คนงาน คนไทยเราสนใจการเมืองน้อย เขาคิดว่าตัวเองต้องทำมาหากินการเมืองจะเป็นยังไงก็ช่างมัน เราพยายามบอกเขาว่ามันเกี่ยวกัน ถ้าพรรคไหนทำให้ประเทศเจริญเราก็จะทำมาหากินคล่อง
อธิบายตลอดนะกับเพื่อนในโรงงาน ทำเท่าที่ทำได้ ก่อนเลือกตั้งมีเพื่อนจำนวนหนึ่งบอกจะเลือกประยุทธเพราะทำให้บ้านเมืองสงบดี พี่ก็ตั้งคำถามว่าสงบจริงไหม แล้วเพราะอะไรถึงสงบ มีการจับคนต่อต้านยังไงบ้าง สุดท้ายมีเพื่อน 10 กว่าคนเปลี่ยนใจมาเลือกอนาคตใหม่
มันย่ำแย่จริงๆ นะ และมันจะแย่ไปเรื่อยๆ ออเดอร์ปีนี้ จาก 70,000 เหลือ 20,000 ชิ้น ต้นปีหน้าหมดสัญญา รู้เรื่องแน่ว่าจะเป็นยังไง
==========
6.เกี้ย อายุ 36 ปี มาจาก กทม. อาชีพ ล่ามภาษาญี่ปุ่น
.....................
พรรคนี้เป็นพรรคเดียวที่กล้าสู้เพื่อประชาชน ประชุมสภาเห็นชัดเจน มีพรรคเดียวที่กล้าสวน พรก.โยกย้ายกำลังพล
สนใจการเมืองตั้งแต่สมัยเรียนศิลปศาสตร์ธรรมศาสตร์ เพราะมีเพื่อนรัฐศาสตร์เยอะ กินเหล้าก็คุยกันเรื่องการเมืองเยอะ
เมื่อก่อนเคยอ่านหนังสือ 'รู้ทันทักษิณ' สมัยที่สนธ ิลิ้มทองกุล ทำกิจกรรมใหม่ๆ ข้อมูลตอนนั้นมีไม่มาก อินเทอร์เน็ตไม่กว้างเหมือนทุกวันนี้ เราอ่านข้อมูลด้านเดียวแล้วก็เลยเชื่อ ไม่ได้ดูด้านอื่น เห็นว่าทักษิณเป็นนายทุนที่เห็นแก่ตัว กอบโกยแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง สนธิเคลื่อนไหวจนเกิดรัฐประหาร 2549 ทักษิณต้องออกนอกประเทศแต่ออกไปแล้วบ้านเมืองก็ไม่ดีขึ้นแถมแย่กว่าเดิม ผมเริ่มตั้งคำถามตั้งแต่ตอนนั้น และตั้งมาเรื่อยๆ
ดูจากสถานการณ์การเมืองและเรื่องคดีความทั้งหลายผมก็พยายามจะมีความหวังนะครับ ผมอยากฟังเหตุผลของอีกฝ่ายมากกว่าว่าจะอ้างอะไรอาจจะมีการยุบพรรค
ดูจากผลงานที่ผ่านมาในสภาโดยเฉพาะอันที่โหวตสวน คนเก่งไม่ได้มีแค่ธนาธร มีหลายคนที่มีความเก่งและมีความกล้า ดังนั้นต่อให้ไม่มีธนาธร ผมก็คิดว่ายังจะเลือกอนาคตใหม่
ลงถนนหรอดูสถานการณ์ตอนนั้นก่อน แต่ผมว่าเราใช้วิธีการเดิมไม่ได้ เขาจะมีข้ออ้างการรักษาความมั่นคง เอาปืนมาจ่อ ก่อรัฐประหาร เรามีบทเรียน 2-3 รอบแล้วผมเลยคิดว่าต้องใช้วิธีการที่ฉลาดกว่านี้ ... ซึ่งผมก็ยังนึกไม่ออก (หัวเราะ)
==========
7.วรรณกิจ ทองสุข อายุ 62 ปี
มาจากโคราช
...................
ผมเดินทางมาจากโคราชฟังเสร็จเดี๋ยวก็จะกลับ
เราสนับสนุนมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทยแล้ว แต่พวกเขามีข้อจำกัดในการเดินทางต่อเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศ พรรคอนาคตใหม่เขาจะเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานของประเทศให้ประชาชนส่วนใหญ่มีสิทธิ์มีเสียงแท้จริง เป็นผู้กำหนดทิศทางประเทศแท้จริง
นโยบายที่ชอบก็เช่นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารเพราะเราเสียกำลังคนในวัยทำงานไปมากเหลือเกินกับกรณีนี้ รวมถึงนโยบายกระจายอํานาจสู่ท้องถิ่น ทุกพรรคพูดแต่ไม่มีรูปธรรมเท่าอนาคตใหม่
อนาคตใหม่มีนโยบายหลายอย่างที่แหลมคม แต่เพราะมันแหลมคม ดังนั้นจึงต้องรักษามวลชนให้เป็นฐานสนับสนุนพรรคให้ชัดเจน ที่ผ่านมาพรรคใหม่มากและโตเร็วมาก ช่วงแรกอาจยังมีอุปสรรคเยอะ แต่ผมเชื่อว่าอีกสักระยะหนึ่งจะได้สมาชิกที่มุ่งมั่นแท้จริงมาร่วมกันทำงาน
เรื่องคดีทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นผมมองว่าพรรคอนาคตใหม่เป็นเสื้อที่ผู้คนแนวคิดเดียวกันสวมใส่ ถ้าเกิดมียุบพรรคมันก็เหมือนเขาบังคับให้เราถอดเสื้อ แต่ความคิดจิตใจเรายังคงอยู่ ถ้าบทบาทในสภาไม่มีมันก็จะมีการเมืองบนท้องถนนแน่นอน และผมจะเป็นคนหนึ่งที่จะลงถนนแน่นอน
อยู่ไม่เป็น ความหมายของมันก็คือ ถ้าจะอยู่เป็นในประเทศนี้เราต้องก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง ซึ่งผมไม่เอา
============
8.ศิริลักษณ์ อายุ 26 ปี
มาจาก กทม. อาชีพ พนักงานบริษัท
.......................
มางานนี้เพราะคิดว่าน่าสนใจ อยากรู้ว่าในงานจะมีอะไรบ้าง ติดตามพรรคมาตั้งแต่แรก ชอบเพราะเขาพูดในสิ่งที่คนอื่นไม่พูด พูดในสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมแต่คนส่วนใหญ่มองข้ามหรือเคยชินทั้งที่ไม่ควรชิน
เช่น เรื่องขยะ เรื่องคนทำงานดูแลความสะอาด เราอยู่บนแท็กซี่ก็จะมองเห็นคนพวกนี้แล้วผ่านเลยไปเรามีโอกาสไปต่างประเทศด้วย เห็นที่นั่นมันเป็นคนละแบบกันเลย ในเกาหลี ในญี่ปุ่น คนทำงานทำความสะอาดถนนมีความสุขกับงานของเขา เป็นprofessional แต่ของเราคนทำงานได้โอกาสน้อยมากๆ
แม่เราทำงาน กทม.เราเลยรู้ว่าคนเหล่านี้ถูกมองข้ามและโดนเอาเปรียบมาก พอมีพรรคที่มาพูดเรื่องแรงงานเรื่องการดูแลคนกลุ่มอื่นๆ ก็เลยคิดว่าน่าสนใจ
ไม่นะ ไม่ถึงกับเป็นแฟนคลับ แต่สำหรับตอนนี้ เราคิดว่านี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เอาแบบนี้แล้วกัน ถ้าในอนาคตมันไม่ตรงกัน เราก็เปลี่ยน
คนที่วิจารณ์อนาคตใหม่แรงๆ เราไม่ได้รู้สึกอะไรคนเราเกิดมาต่างกัน เติบโตต่างกันก็ย่อมมีความคิดต่างกัน แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นคน สังคม กฎหมายให้เกียรติกัน
ถ้ามียุบพรรค คนที่อยู่ในพรรคเขาคงมีทางออกแหละ ถึงขนาดมาตั้งพรรคแบบนี้แล้วเขาต้องมีทางออก มันไม่มีทางตันหรอก ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคนขับเคลื่อน
เรื่องการเมืองบนท้องถนน เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีทางออกเดียว ถ้ามันมีจริงๆ ก็ต้องดูว่ามันมีประโยชน์ไหม และมีเบื้องหลังที่เราไม่รู้หรือเปล่าถ้ามีประโยชน์ สร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง ไม่มีเงาของใคร ก็อาจจะลองดู
=========
ฉบับเวป
