วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 14, 2562

ซัดกันนัว รัฐบาล ‘ผสมเทียม’ ประยุทธ์ ๒ แลกหมัด ภูมิใจไทย-เนชั่น



 
ชักจะพัลวันกันใหญ่นะรัฐบาล ผสมเทียม๑๙ พรรคของประยุทธ์ ๒ โดยเฉพาะที่กำลัง ขยี้ กันพัลเกระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับค่ายเนชั่น อันกระเทือนซางไปถึง พลังประชารัฐและนายกฯ ที่บอกให้เด็กดูดนมจากวัว

เรื่องมันมาจากพิธีกรข่าวเนชั่นสุดสัปดาห์รุมยำพรรคภูมิใจไทยอย่างผิดปกติ แคะคุ้ยประเด็นฝ่ายค้านล็อคเป้า รมว.คมนาคม พรรคภูมิใจไทย “มีบางข้อมูลที่เกี่ยวกับการทุจริต...

แถมยังแซะด้วยการประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนทั่วประเทศ ที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้แทนพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายแทรกแซงหรือสั่งการโดยไม่ชอบ ให้ร้องเรียนมายังรายการโดยตรง” นี่ตามคำเล่าของ Noppakow Kongsuwan

ทางภูมิใจไทยก็แสบใช่ย่อย สั่ง ส.ส.เขตทั้ง ๓๙ คน ไปแจ้งความเนชั่นทุกเขตทั่วประเทศ มิวาย ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก ๑๒ คน ก็จะไปแจ้งความเรื่องนี้ทั่วประเทศเหมือนกัน”

อีกด้าน กรุงเทพธุรกิจหัวหนึ่งของเครือเนชั่น ซึ่ง นิวส์เน็ตเวิร์ค เข้าไปครอบครองได้พักใหญ่แล้ว แจงปัญหาในการบินไทยยุคกำลังเจ๊ง (ล่าสุดเพิ่งประกาศงดจัดจ้างพนักงานต้อนรับ ๒๐๐ คนที่เพิ่งเปิดรับสมัครไปหยกๆ โยยอมคืนค่าสมัครคนละ ๑,๒๐๐บาท)
 
เจาะจงถึง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ว่า ๒ สิงหาคม ๒๕๖๒ “ส่งสัญญานให้บอร์ดรัฐวิสาหกิจชุดเดิมลาออก” พอวันต่อมามีข่าว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ดยื่นหนังสือลาออก และ คมนาคมเสนอให้ ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงเข้าสวมแทน

แต่ทางกระทรวงการคลัง (หุ้นใหญ่) ไม่ยอม รมว.อุตตม สาวนายน ทำหนังสือด่วน (ที่สุด) แถลงแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ แล้ววันรุ่งขึ้น สมคิ จาตุศรีพิทีกษ์ เรียกศักดิ์สยามเข้าพบ ศักดิ์สยามยินยอม ไม่เปลี่ยนบอร์ด

พอ ๑๕ ตุลา ๖๒ การบินไทยแต่งตั้งกรรมการบอร์ดใหม่ ๓ คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ดแทนเอกนิติ ในวันที่ ๑ พ.ย. ถึงอย่างนั้นศึกภุมิใจไทย-เนชั่นก็ยังไม่จบง่าย

เมื่อ ศุภชัย ใจสมุทร ของภูมิใจไทยอภิปรายในสภา หารือประธานฯ ชวน หลีกภัย เรื่องที่ผู้บริหารเนชั่นบ่นถูกการเมืองเบียดจนหุ้นขายไม่ออก พูดพาดพิง “ส.ส.ท่านหนึ่งในสภาแห่งนี้ก็เคยเป็นประธาน (เนชั่น) แล้วตอนนี้สามีก็เป็นประธานแทนท่าน”

วงการรู้ดีว่า ฉาย บุนนาค นอกจากอยู่กินกับ วทันยา วงศ์โอภาสี ส.ส.ปัดเศษพรรคพลังประชารัฐฉันสามีภรรยา แล้วยังเป็นวุฒิสมาชิกสำรองรอ ตู่ตั้ง ด้วย ฉายนี่แหละที่บริหารเนชั่น ปั่นคมชัดลึก และทำให้กรุงเทพธุรกิจ อยู่เป็นยิ่งกว่าก่อน ร่วมกับ สนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม

คำปรึกษากลางสภาของศุภชัยว่าด้วย “นักการเมืองถือหุ้นสื่อ ศาลกำลังจะมีคำวินิจฉัยออกมา แล้วกรณีคู่สมรสเป็นผู้บริหาร มีอำนาจอิทธิพลในสื่อ เราจะสร้างมาตรฐานกันอย่างไร” (@tanawatofficial)

ทีหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ขายหุ้นโรงพิมพ์นิตยสารไฮโซที่ปิดกิจการไปตั้งนานแล้ว จะเอาเป็นเอาตายกันให้ได้ อันนี้ศุภชัยไม่ได้พูดและไม่แคร์ แต่พรรคอนาคตใหม่แฉให้เห็นมาตรฐานการเมืองยุค คสช.๒ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
 
อย่างเมื่อวาน (๑๓ พ.ย.) อภิปรายในสภาเช่นกัน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ตั้งกระทู้สดถามหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล (ถามตู่) แต่กลับจัดให้ เต่าตอบเรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

เขาแจงข้อมูลกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่า ๑๐ เดือนมานี้มีโรงงานต้องปิดกิจการเกือบ ๒ พันแห่ง คนตกงานอย่างน้อยๆ ๕ หมื่น “หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ส่งออกไม่ดี ท่องเที่ยวไม่ได้ผล” รัฐบาลเตรียมการอะไรแก้ไขบ้าง บอกหน่อย

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อ้างว่าโรงงานปิดมากแต่ที่เปิดใหม่มากกว่า คนตกงานเดือนเดียวก็หางานใหม่ได้ ส่วนอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ ๖๕% น่าดีใจแล้ว “เป็นปกติ เป็นอัตราที่กำลังพอดีพอเหมาะแล้ว”

ทั่นหัวหน้าพรรค เทือกตั้งมักน้อยเสียจริง ถึงได้ถูก วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ย้อนให้ “ท่านเห็นอัตราการใช้กำลังการผลิต ๖๕ เปอร์เซ็นแล้วท่านยิ้ม แต่ประชาชนที่นั่งฟังอยู่ตอนนี้ร้องไห้ เพราะระดับ ๖๕ เปอร์เซ็นนั้นหมายความว่า

จะไม่มี โอทีและหลายโรงงานอาจจะต้องหยุดงานเป็นบางวัน” ทั้งจ่ายค่าจ้างได้แค่บางส่วน แต่หม่อมเต่าก็ไม่ยอมลดละ บอกว่า “ภายในสัก ๑-๒ ปีเงินจะเริ่มออกมา หมุนเวียนในเศรษฐกิจเป็น ๑.๗ เท่า...ตอนนี้เริ่มเดินแล้ว กรุณารออีกสักปีหรือสองปีจะเดินดีกว่านี้”


อุแม่จ้าว ตอนรัฐบาลตู่ ๑ บอกให้รอปีหน้า ๕ หน มาคราวนี้ ตู่ ๒ จะให้รอคราวละสองปี กี่หนล่ะฮับทั่น