วันอังคาร, พฤศจิกายน 19, 2562

ก่อนที่ศึก 'เนชั่น-อนาคตใหม่' จะถึงศาล 'ธนาธร' ฟ้อง ๗ กกต.แล้ว คดีหุ้นสื่อ

มีคนชี้แนะให้ดู Anutin Charnvirakul แชร์เฟชบุ๊ค ‘Ringsideการเมืองโพสต์เรื่อง ช่อ อนาคตใหม่ เปิดฉากฟัดกับ เนชั่นว่า “ทำการอันเป็นคุณแก่พรรคการเมืองบางพรรค และเป็นโทษแก่พรรคการเมืองบางพรรค อย่างเป็นระบบ”

เป็นที่น่าสังเกตุว่าพรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เองก็มีปัญหากับเครือเนชั่นอยู่หมาดๆ เรื่องที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ถูกกลุ่มเนชั่นทั้งแซะและงัด จากการที่ค่าย ซิ-โนไทยพยายามเข้าไปสอดแทรกในโครงการ อีอีซีของพลังประชารัฐ

พร้อมกันไปทันท่วงทีกับสถานการณ์ ฟัน กันระหว่างสื่อฝ่ายสืบทอดอำนาจตู่ กับฝ่ายค้าน ตัวแสบสำหรับรัฐบาล คสช.๒ เสียงสอดแทรกจากปีกประชาธิปัตย์ที่ไม่ค่อย กปปส. พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล สะกิด ผสมโรงบ้าง (เบื้องหลังที่ ปชป.เป็นน้ำใต้ศอก ชนิดกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วยังจะสำลัก)

“วันนี้นักการเมืองจำนวนหนึ่งพยายามเปิดศึกกับสื่อ และสื่อจำนวนหนึ่งก็หมั่นเปิดศึกกับนักการเมือง เข้าลักษณะต่างฝ่ายต่าง #อยู่ไม่เป็น” ดูเหมือนจะ คม แต่ก็เหมือนแค่ คายเช่นกัน ในเมื่อการจัดลำดับก่อนหลังผิดไปหน่อย

ที่จริงต้องว่าสื่อพวกหนึ่งตอด แตะ แซะ จิก พรรคการเมืองที่กำลังโดดเด่นพรรคหนึ่งมาพักใหญ่แล้ว จนพรรคการเมืองนั้นเหลืออด เพื่อไม่ให้ถูกทับถมจมดินก็ฮึดสู้ ฝ่ายสื่อนั้นน่ะพวกอยู่เป็นแน่ๆ แต่ฝ่ายพรรคการเมืองน่าจะ อยู่ได้ไม่เป็นมากกว่า

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค อนค.แถลงโจ่งแจ้งไม่อ้อมค้อมเมื่อวาน (๑๘ พ.ย.) ตอบโต้สื่อเครือเนชั่นที่เล่นงานพรรคอนาคตใหม่ “เฉลี่ยวันละ ๙ ข่าว ๓๖ นาที เฉลี่ยเป็นเบรกเช้า เที่ยง เย็น ช่วงละประมาณ ๑๒ นาที”

ทั้ง คมชัดลึก (ปกติและสุดสัปดาห์) เนชั่นสุดสัปดาห์ “จะมีข่าวอนาคตใหม่ ๑ เบรกเต็มๆ ในทุกช่องข่าวหลักของเนชั่น” ในอัตรา ๔๔% ๔๘% และ ๕๔% “พวกเขาหยิบยกเอาข้อมูลในเพจข่าวปลอม อาทิ ตบดิ้น ห่วยตูน ปราชญ์สามสี เดรัจฉานแฉ เป็นต้น มาแผยแพร่”

ช่อ ยกตัวอย่างด้วยรูปธรรม “เช่น ชำแหละแถลงการณ์ ธนาธร โอนหุ้น ส่อนิติกรรมอำพราง ธนาธรอันตรายคล้ายฮิตเลอร์ หรือ ธนาธรสารภาพคิดการใหญ่ หรือวิจารณ์ยับกินอาหารหรู” ล้วนเป็นบทโจมตีมากกว่าวิพากษ์วิจารณ์


ทางด้านเนชั่น โดย สมชาย มีเสน (ตำแหน่ง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารออกมาตีกลับว่า “ทางเครือเนชั่น กำลังพิจารณาในการดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการ์และพรรคอนาคตใหม่ ต่อไป” โดยให้รายละเอียดข้อโจมตีของตนซ้ำ ว่าเป็น “ประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานที่เจาะลึก”

ทำนองเดียวกันกับก่อนหน้านี้ มาดามเดียร์ซึ่งถูกช่อพาดพิงว่า “มีกรณีที่นักการเมืองมีความเกี่ยวพันเป็นเจ้าของสื่อชัดเจน แต่ไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้” ร่ำๆ จะฟ้อง ช่อ และ อนค.เหมือนกัน อ้างว่าเธอนั้นลาออกจากเนชั่นก่อนลงสมัครเลือกตั้ง

ทั้งที่ ช่อ ก็ย้ำว่า “กรณีของ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ได้ลาออกจากผู้บริหารเครือเนชั่น ก่อนให้สามี คือ นายฉาย บุนนาค ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของเนชั่นแทน” ซึ่งถ้าคนทั่วไปใส่ใจเสาะดูจะพบว่า หลังจากที่ นิวเน็ตเวิร์คเข้าไปครองเนชั่น
 
คนสำคัญที่กำกับควบคุมเครือข่าย อันมีกรุงเทพธุกิจ คมชัดลึก ทีนิวส์ ฐานเศรษฐกิจ และสปริงนิวส์ แถมด้วย ทิศทางไทยอ้างชื่อเป็น สถาบันแท้จริงเป็นหน่วยงานปฏิบัติการ กปปส. ยุค คสช.๒ คือฉาย บุนนาค และสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม

ว่าไปแล้วตั้งแต่สองคนนี้เข้าไป คุม เนชั่น นอกจากทั้งเครือแปลงสภาพไปเป็น ทีนิวส์กว่าครึ่งตัว เที่ยวเกะกะระรานฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ แล้วคุณภาพของเนื้อหาต่ำตมลงไปอย่างฮวบฮาบ

(ขอบคุณ) Noppakow Kongsuwan ที่เก็บเอาคำบ่นของ สุทธิชัย หยุ่น อดีตผู้ก่อตั้งและหัวเรือหลักเครือเนชั่นยุคยัง ดังมาเล่าต่อสู่กัน กรณีที่ กนก รัตน์วงศ์สกุล เอาคลิปเสียงแต่งปลอมว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คุยกับ ทักษิณ ชินวัตร

ธนาธรนั้นเปรย “ไม่คิดว่าเนชั่นจะตกต่ำ ชนิดเตี้ยเรี่ยดินได้ถึงขนาดนี้” ส่วนสุทธิชัยให้ความเห็นว่า “มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด และเป็นเรื่องที่คนที่เกี่ยวข้องควรจะต้องทบทวน ฟื้นความน่าเชื่อถือของคนทำสื่อ ไม่ใช่เฉพาะเนชั่น”

เจ้าของนามแฝง กาแฟดำวิจารณ์เนชั่นยุคฉาย-สนธิญานว่าเหมือน คนเฝ้าประตู ที่ปล่อยให้อะไรต่ออะไรผ่านเข้าไปได้โดยไม่ตรวจสอบ ไม่สะท้อนความจริง เหมือน “กระจกมัวๆ กระจกแตก กระจกร้าว ไม่สามารถทำหน้าที่ที่ถูกต้องได้”

 
ไม่ว่า เดียร์ พปชร.และ/หรือ สมชาย เนชั่นจะ ฟ้องช่อกับ อนค.อย่างไร ทางฝ่ายนั้นเขาเปิดฉากฟ้องแล้ว ฟ้ององค์กรสำคัญที่ให้คุณให้โทษแก่พวกเขา โดยเก็บเอาข้อมูล ชง จากฝ่ายตรงข้ามจำเลยไปใช้เป็นหลักฐาน แทนที่จะสืบสวนสอบสวนด้วยตนเอง

ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดการพิจารณาคดีหุ้นสื่อวี-ลัคของธนาธร วันพรุ่งนี้ (๒๐ พ.ย.) “ธนาธรยื่นฟ้อง ๗ กกต. ปมประพฤติมิชอบ รวบรัด ไม่รวบรวมข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนตามขั้นตอนก่อนส่งเรื่อง วีลัคให้ศาลรัฐธรรมนูญ”

เขาอ้าง พรป.การเลือกตั้ง “มาตรา ๔๑ ประกอบมาตรา ๖๙ วรรคหนึ่ง” และ กม.แพ่ง-พาณิชย์ มาตรา ๑๑๔๑ ยื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โทษฐาน “เร่งรัดมีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ยังแสวงหาข้อเท็จจริงไม่เสร็จสิ้น”

(https://www.facebook.com/FWPthailand/photos/a.1657824830959771/2587041074704804/)