สถาบันทิศทางไทย จัดเสวนา ‘อยู่ เย็น เป็นสุข’
กรุงเทพธุรกิจ
17 พฤศจิกายน 2562
สถาบันทิศทางไทย ได้จัดเสวนาในหัวข้อ ประเทศไทย อยู่อย่างไรให้ “อยู่ เย็น เป็นสุข” โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ วทันยา วงษ์โอภาสี เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ศรีสุวรรณ จรรยา ศิลปิน อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ภูวดล วงษ์โสภณากุล และนักเศรษฐศาสตร์อิสระ วิทิต สัจจพงษ์ ซึ่งดำเนินรายการโดย ดร.เวทิน ชาติกุล
โดย น.ส.วทันยา อธิบายว่า ส่วนตัวชอบคำว่าอยู่เย็นเป็นสุข เพราะไม่ใช่อยู่ไม่เป็น หรือ อยู่เป็น แต่เป็นเพราะประชาชนจะอยู่ร่วมกันอย่างไร ให้อยู่เย็นเป็นสุข และการที่เราจะคิดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ก็คงอยู่ร่วมกันไม่อยู่เย็นเป็นสุข ขณะเดียวกัน น.ส.วทันยา ยังบอกว่า ปัจจุบันการเข้ามาของเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก และในประเทศไทย จะเห็นได้ว่า มีพฤติกรรมเสพข้อมูลที่คิดว่า เราชอบ และจะอยู่ในสังคมที่อยู่แล้วสบายใจ จนอาจคิดว่า คือความถูกต้อง ทั้งที่ความจริง ข้อมูลข่าวสารมีข้อมูลเท็จจำนวนมาก ดังนั้น สิ่งที่เราต้องตั้งคำถามคือ เรื่องความเห็นต่าง อายุ ทัศนคติ เราจะหาจุดลงตัวบนความเห็นแตกต่างได้อย่างไร ซึ่งมองว่า สำคัญมากกว่า การที่จะมาถกเรื่อง อยู่เป็น หรือ อยู่ไม่เป็น
นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังเน้นย้ำว่า ความคิดที่เราอยู่ในสังคมนั้นสบายใจ หลายครั้งก่อให้เกิดความคิดบิดเบี้ยว และท้ายสุดความคิดนั้น จะเป็นภัยกลับมาทำร้ายประเทศ อย่าง ฮองกง ที่คิดต่าง ต่อสู้ทางความคิด ที่ไม่ลดละ และใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ สุดท้ายคือ ประเทศที่เสียหาย
ขณะที่ อุ๊ หฤทัย มองว่า คำว่าอยู่เป็น เป็นสิ่งที่ดีงาม เพราะคำว่า อยู่เป็น ไม่ได้ล้อเลียน หรือ แง่ลบ แต่อาจหมายถึงความอยู่รอดของประเทศ ซึ่งถ้าคำว่า อยู่เป็น มองว่า เป็นสิ่งที่ดี ประเทศมีความสงบ สามารถพัฒนาประเทศได้ ก็อยากฝากบอกคนที่คิดว่า มนุษย์ต้องมีสัญชาตญาณความเป็นกบฎ โดยส่วนตัว ไม่เห็นด้วนกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เพราะถ้าคนในประเทศ ไม่สามัคคี แล้วจะอยู่รอดได้อย่างไร
อุ๊ หฤทัย ยังบอกว่า นายปิยบุตร นั้นหลงยุค เป็นไดโนเสาร์ เพราะยังวนอยู่กับความขัดแย้งระบอบการปกครอง ซึ่งส่วนตัวอยากตั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่ออกแบบระบบการปกครองของเราเอง เพื่ออยู่รอด ไม่ใช่ออกมาฆ่ากันโดยไร้เหตุผล พร้อมย้ำว่า ระบอบการปกครองแต่ละประเทศมีรายละเอียดต่างกัน ทำไมเราไม่ออกแบบเอง ซึ่งไม่ใช่ต้องเดินตามตะวันตกเป๊ะๆ ขณะเดียวกัน ฝากความห่วงใยว่า การที่จะออกมาเดินถนน ต้องมีเหตุผล โดยไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ผิดพลาด แล้วอ้างว่า ชนชั้นปกครองรังแก ซึ่งมีความพยายามบิดเบือนวาทะกรรม อยู่ไม่เป็น
.
17 พฤศจิกายน 2562
สถาบันทิศทางไทย ได้จัดเสวนาในหัวข้อ ประเทศไทย อยู่อย่างไรให้ “อยู่ เย็น เป็นสุข” โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนา ประกอบด้วย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ วทันยา วงษ์โอภาสี เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ศรีสุวรรณ จรรยา ศิลปิน อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ภูวดล วงษ์โสภณากุล และนักเศรษฐศาสตร์อิสระ วิทิต สัจจพงษ์ ซึ่งดำเนินรายการโดย ดร.เวทิน ชาติกุล
โดย น.ส.วทันยา อธิบายว่า ส่วนตัวชอบคำว่าอยู่เย็นเป็นสุข เพราะไม่ใช่อยู่ไม่เป็น หรือ อยู่เป็น แต่เป็นเพราะประชาชนจะอยู่ร่วมกันอย่างไร ให้อยู่เย็นเป็นสุข และการที่เราจะคิดเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ก็คงอยู่ร่วมกันไม่อยู่เย็นเป็นสุข ขณะเดียวกัน น.ส.วทันยา ยังบอกว่า ปัจจุบันการเข้ามาของเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก และในประเทศไทย จะเห็นได้ว่า มีพฤติกรรมเสพข้อมูลที่คิดว่า เราชอบ และจะอยู่ในสังคมที่อยู่แล้วสบายใจ จนอาจคิดว่า คือความถูกต้อง ทั้งที่ความจริง ข้อมูลข่าวสารมีข้อมูลเท็จจำนวนมาก ดังนั้น สิ่งที่เราต้องตั้งคำถามคือ เรื่องความเห็นต่าง อายุ ทัศนคติ เราจะหาจุดลงตัวบนความเห็นแตกต่างได้อย่างไร ซึ่งมองว่า สำคัญมากกว่า การที่จะมาถกเรื่อง อยู่เป็น หรือ อยู่ไม่เป็น
นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังเน้นย้ำว่า ความคิดที่เราอยู่ในสังคมนั้นสบายใจ หลายครั้งก่อให้เกิดความคิดบิดเบี้ยว และท้ายสุดความคิดนั้น จะเป็นภัยกลับมาทำร้ายประเทศ อย่าง ฮองกง ที่คิดต่าง ต่อสู้ทางความคิด ที่ไม่ลดละ และใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ สุดท้ายคือ ประเทศที่เสียหาย
ขณะที่ อุ๊ หฤทัย มองว่า คำว่าอยู่เป็น เป็นสิ่งที่ดีงาม เพราะคำว่า อยู่เป็น ไม่ได้ล้อเลียน หรือ แง่ลบ แต่อาจหมายถึงความอยู่รอดของประเทศ ซึ่งถ้าคำว่า อยู่เป็น มองว่า เป็นสิ่งที่ดี ประเทศมีความสงบ สามารถพัฒนาประเทศได้ ก็อยากฝากบอกคนที่คิดว่า มนุษย์ต้องมีสัญชาตญาณความเป็นกบฎ โดยส่วนตัว ไม่เห็นด้วนกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เพราะถ้าคนในประเทศ ไม่สามัคคี แล้วจะอยู่รอดได้อย่างไร
อุ๊ หฤทัย ยังบอกว่า นายปิยบุตร นั้นหลงยุค เป็นไดโนเสาร์ เพราะยังวนอยู่กับความขัดแย้งระบอบการปกครอง ซึ่งส่วนตัวอยากตั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่ออกแบบระบบการปกครองของเราเอง เพื่ออยู่รอด ไม่ใช่ออกมาฆ่ากันโดยไร้เหตุผล พร้อมย้ำว่า ระบอบการปกครองแต่ละประเทศมีรายละเอียดต่างกัน ทำไมเราไม่ออกแบบเอง ซึ่งไม่ใช่ต้องเดินตามตะวันตกเป๊ะๆ ขณะเดียวกัน ฝากความห่วงใยว่า การที่จะออกมาเดินถนน ต้องมีเหตุผล โดยไม่ใช่เรื่องส่วนตัวที่ผิดพลาด แล้วอ้างว่า ชนชั้นปกครองรังแก ซึ่งมีความพยายามบิดเบือนวาทะกรรม อยู่ไม่เป็น
.
หลงทิศผิดทาง
%%%
ได้กลิ่นความเกลียดชังคลั่งคละคลุ้ง
ยี่สิบคนนั่งมุงมโนด่า
สุขในฝันอยู่เป็นแช่เย็นมา
เล่านิทานปิดตามาบังทุกข์
เล่านิทานปิดหูของตูเอง
ร้องเหมือนท่องเนื้อเพลงกึ่งดิบสุก
สาธยายเรื่องเล่าเก่าย้อนยุค
ปลุกยังไงไม่ลุกเพราะหลงทิศ
https://www.bbc.com/thai/thailand-50444069
