ใครๆ ก็ฟันธงว่าคดี ‘หุ้นวี-ลัค’ ของ ‘ธนาธร’ ต่อหน้าศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ (๒๐ พ.ย.) ‘เสร็จแน่’ นั่นคือ ‘ต้อง’ ผิดฐานถือหุ้นสื่อ
ไม่ว่าจะมีหลักฐานว่า ‘โอน’
หุ้นไปแล้วก่อนเลือกตั้ง ไม่เหมือนหุ้นมาดามเดียร์ที่โอนให้ ‘ผัว’
(ขออภัยใช้ภาษาชาวบ้านเอ่ยถึงคนที่ อยู่กินร่วมกันและมีสัมพันธุ์ทางเพศเป็นชีวิตประจำวันปกติ
แต่ไม่มีการจดทะเบียนสมรส ที่จะทำให้ใช้ภาษากฎหมายเรียกว่า ‘สามี’ อย่างเพราะพริ้งได้)
แม้จะพยายามเบี่ยงเบนประเด็น ‘คนเนชั่น’ เมียพูดอย่าง “ลาออกแล้ว” ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น-บริหาร
แต่ผัวประกาศเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เป็น ‘แสงเทียนกลางพายุ’
ด้วยบทกลอน ‘คำมั่นสัญญา’ ที่บอกว่ามี “ศัตรูแทรกแซงจากมุมมืด” ของ “นักการเมืองพวกอุบาทว์คนไม่ดี”
Thanapol Eawsakul คนหนึ่งละที่ ‘ฟันธง’ ว่า “ไม่ต้องคาดเดา
เพราะเหมือนเปิดฝาถ้วยแทงไฮโล...ว่าทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ธนาธรได้ปฏิบัติหน้าที่
ส.ส.” เพราะ “ทั้งหมดเป็นเพียงแค่เครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายอำมาตย์ ที่จะสกัดกั้นพลังทางการเมืองจากการเลือกตั้งเท่านั้น”
เนื่องจากเป็นคดีที่สนใจของคนทั่วไปจำนวนมาก
เพราะคาดหมายกันว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มี “ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น
ส.ส.” ตามที่ กกต.ร้อง จะเป็นสะพานต่อเนื่องไปถึงการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
และยุบพรรคการเมืองต่อไป
แม้กระทั่งสหภาพยุโรปมอบหมายให้นายโคลิน
สไตน์บัค เป็นตัวแทนเข้าสังเกตุการณ์
และสถานทูตสหรัฐก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วย
จึงได้มีการเตรียมการจัดกำลังตำรวจท้องที่ทุ่งสองห้องและจากนครบาล
๒ รวม ๑ กองร้อย พร้อมแผงกั้นเหล็กตั้งตรงบริเวณทางเข้าออกศาล ด้วยข้ออ้าง “มีรายงานว่าจะมีกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่
เดินทางมาให้กำลังใจนายธนาธร”
ขนาดที่มีการ #ปิดปากสื่อ บางแห่ง โดย กสทช.
องค์กรกำกับสื่อสั่งให้ ‘ว้อยซ์ทีวี’ ระงับการออกอากาศชั่วคราว เพื่อจะไม่ได้รายงานการพิจารณาคดีนี้ ยิ่งเป็นการกระพือไฟให้ลุกโชนขึ้นไปอีก
“พวกมันต้องการปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชนผู้สนับสนุนอนาคตใหม่
แต่ไฟเขียวให้ช่อง NationTV โจมตีธนาธรเต็มที่!
ขอเชิญทุกคนร่วมแสดงพลังและให้กำลังใจคุณธนาธร” พฤทธิกร สาระกุล นักรบไซเบอร์รายหนึ่งประกาศ
ย้อนไปที่ข้อวิพากษ์ของ ‘ธนาพล’ เรื่องว่า “มากที่สุดคือตัดสิทธิ
ส.ส. ธนาธร เท่านั้น แล้วเลื่อนผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อลำดับถัดจากคนสุดท้ายขึ้นมา”
และ “ส่วนถ้าใครต้องการที่จะให้ธนาธรโดนตัดสิทธิทางการเมือง ๑๐ ปี ยุบพรรคอนาตใหม่
และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคแบบพรรคไทยรักษาชาติ...
ต้องไปลุ้น คดีอิลลูมินาติ” ดังที่ ปิยบุตร
แสงกนกกุล เคยวิเคราะห์ชะตากรรมของพรรคตนไว้ “เว้นแต่จะมีปาฎิหารย์ทางกฎหมาย ที่ศาลสามารถตัดสินได้เกินกว่าคำร้อง”
พรรคอนาคตใหม่น่าจะอ่านออกลวดลายวิชามารของเครือข่ายอำนาจรัฐประหารได้ดี
เมื่อวานซืนนี้จึงได้ยื่นฟ้องกรรมการเลือกตั้งทั้งเจ็ดคนเอาไว้ ในข้อหาเร่งรีบวินิจฉัยคดีธนาธรถือหุ้นสื่อ
โดยไม่รับฟังข้อโต้แย้งของผู้ถูกกล่าวหา ชงเรื่องภายใน ๗ วันส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน
กกต.ก็ใช่ย่อย สวนกลับด้วยคำสั่งให้พรรค
อนค.ส่งหลักฐานเกี่ยวข้องกับอีกข้อกล่าวหา (โดยศรีสุวรรณ จรรยา เจ้าประจำ)
ว่าธนาธรให้พรรคกู้เงินของตนเองมูลค่าเกินกว่า ๑๐ ล้านบาท เป็นความผิดตาม
พรป.พรรคการเมือง มาตรา ๖๖
ไม่เท่านั้น แทนที่ กกต.จะรอต่อสู้คดีที่ถูก
อนค.ฟ้องในศาลรัฐธรรมนูญ กลับร่อนเอกสารตอบโต้เสียเองว่า
ได้ทำตามระเบียบกฎหมายแล้ว
คือแม้ไม่มีข้อกฎหมายให้อำนาจรวบรัดส่งคดีหุ้นสื่อของธนาธรไปศาลรัฐธรรมนูญระบุใน
พรป. อื่นใด ก็นำเอารัฐธรรมนูญมาตรา ๘๒ วรรค ๔ เรื่องการพ้นจากสมาชิกภาพของสมาชิกรัฐสภา
มาปรับใช้จัดการได้
ประดุจดังสุนัขจิ้งจอกเสาะหาข้ออ้างต่างๆ
นานาเพื่อที่จะขย้ำลูกแกะให้จงได้