แถลงการณ์มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559 ที่ถามว่า “เมื่อคสช.หมดอำนาจจะกลายสภาพไปเป็นส.ว.สรรหาด้วยหรือไม่? ” พลเอกประวิตรตอบว่า “ก็ไม่แน่ ทำไมล่ะ มันผิดตรงไหน....” นี่เป็นการแสดงท่าทีชัดเจนว่า คสช.จะทำการ “แปลงร่างเป็นสว.” แม้การตอบคำถามฟังดูราวกับว่า “ก็ไม่แน่” ก็ตาม
มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย ขอแสดงการคัดค้านการดำรงอยู่ต่อไปของ คสช.ในรูปของสว.สรรหาซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารนั่นเอง
ประวัติศาสตร์การเมืองไทยเมืองปีพ.ศ.2535 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประชาชนไทยไม่ต้องการให้คณะรัฐประหารดำรงอยู่ต่อไปอย่างยาวนาน เหตุการณ์ “พฤษภา35” เกิดขึ้นก็เนื่องจากคณะรัฐประหารในเวลานั้นซึ่งใช้ชื่อว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(รสช.) ดำเนินการสืบทอดอำนาจของพวกตน ทั้งๆที่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนแล้วว่า “ไม่”
ในครั้งนี้ก็เดินไปตามเส้นทางเดิม คือ คสช.เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า “จะไม่สืบทอดอำนาจ” ดังนั้นการที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณแสดงท่าทีชัดเจนเช่นนี้ ย่อมจะได้รับการต่อต้านจากประชาชนจำนวนมากอย่างแน่นอน และจะนำไปสู่การเผชิญหน้าจนเป็นวิกฤตทางการเมืองอย่างร้ายแรงเช่นเมื่อพฤษภาคม ปี 2535
การต่อสู้ของประชาชนเมื่อ ปี 2535 ทำให้ได้มาซึ่งหลักการประชาธิปไตยอันหนึ่งคือ “สว.ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน”ดังนั้นมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยจึงขอยืนยันหลักการทางการเมืองที่ได้มาด้วยการเสียสละชีวิตของประชาชนจำนวนมากสองประการดังต่อไปนี้คือ
1.สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่มาจากการสรรหา
2.คณะรัฐประหารต้องวางมือจากอำนาจเมื่อมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว
3.นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.)
นายแพทย์เหวง โตจิราการ
รักษาการรองประธานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย
10 มีนาคม 2559
...
"บิ๊กป้อม"ยันทหารเดินตามนักการเมืองไม่มีแล้ว อนาคตทำ"เอ็มโอยู" ลั่น"คสช."เป็นส.ว.ได้
https://www.youtube.com/watch?v=oYLGEWM_0eU