ที่มา Voice TVby Sathit M.
24 มีนาคม 2559
นิวยอร์กไทมส์ตีพิมพ์บทความนักสังเกตการณ์ แนะรัฐบาลโอบามาจับมืออียู ลงโทษคณะรัฐประหารไทย ทั้งเหล่านายพลและบรรดาพลเรือนในสภาตรายาง ด้วยการอายัดทรัพย์สิน งดออกวีซ่า
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ นิวยอร์กไทมส์ เผยแพร่บทความของนักสังเกตการณ์การเมืองไทย ทอม เฟลิกซ์ เจนค์นักเขียนของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ กับอิลยา จาร์เกอร์ ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยธุรกิจ แคปิตอล โปรไฟล์ ในฮ่องกง เรียกร้องให้สหรัฐฯ ร่วมมือกับประเทศพันธมิตร กดดันคณะรัฐประหารไทยให้นำพาประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย
บทความระบุว่า เวลานี้ คณะรัฐประหารไทย นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ปกครองประเทศแบบเผด็จการ ไร้ความสามารถ และผิดพลาด เศรษฐกิจหยุดชะงัก สังคมเสี่ยงเกิดความไม่สงบ ร่างรัฐธรรมนูญมุ่งรักษาอำนาจที่แท้จริงไว้ในมือของกองทัพ
ผู้เขียนชี้ว่า สหรัฐฯมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยนับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง บรรดาแกนนำคณะรัฐประหารปี 2557 ซึ่งผ่านยุคพันธมิตรไทย-อเมริกันในช่วงสงครามเย็น มองประชาธิปไตยด้วยสายตาแบบเดียวกับที่มองคอมมิวนิสต์ นั่นคือ เป็นอุดมการณ์ต่างด้าวที่คุกคามเครือข่ายชนชั้นนำในกรุงเทพฯ ซึ่งพวกตนถูกฝึกสอนให้ต้องพิทักษ์ปกป้อง
เหล่านายพลต่างชิงชังอีกเครือข่ายอำนาจหนึ่งที่มีนายทักษิณ ชินวัตรเป็นแกนกลาง นับแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2544 นายทักษิณจัดทำโครงการหลายอย่างตอบสนองความต้องการของคนยากจนในชนบท ทำให้เขาได้รับคะแนนนิยมอย่างสูง นายทักษิณจึงไม่จำเป็นต้องขึ้นต่อกองทัพและเครือข่ายอุปถัมภ์ของชนชั้นนำ ข้อนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่กองทัพลงมือขับเขาออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2549 และขับนางสาวยิ่งลักษณ์ น้องสาวของเขาเมื่อปี 2557
ทุกวันนี้ ทหารไทยใช้ทั้งองค์กรและกลยุทธ์จากยุคสงครามเย็น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เล่นงานผู้วิพากษ์วิจารณ์ ขณะที่สงครามจิตวิทยาถูกนำมาใช้ในการโฆษณา “คืนความสุขแก่ประชาชน” รวมทั้ง “ปรับทัศนคติ”
ที่ผ่านมา สหรัฐฯแทบไม่ได้ทำอะไรที่จะขัดขวางการใช้อำนาจเกินขอบเขตเหล่านี้ หรือกดดันคณะรัฐประหารให้สละอำนาจ นอกเหนือไปจากการออกแถลงการณ์เป็นบางครั้ง กับระงับความช่วยเหลือทางทหาร ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังถ่ายรูปคู่กับพล.อ.ประยุทธ์ระหว่างการประชุมสหรัฐ-อาเซียนอีกด้วย
ผู้เขียนเสนอว่า รัฐบาลวอชิงตันควรโดดเดี่ยวทหารไทย โดยร่วมมือกับสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และชาติพันธมิตรอื่นๆ งดการอนุญาตเข้าประเทศ และอายัดทรัพย์ ไม่แต่เฉพาะพวกนายพลที่ยึดอำนาจเมื่อปี 2557 เท่านั้น แต่รวมถึงพลเรือนที่เข้าไปนั่งในสภาตรายางของรัฐบาลทหารด้วย.
Source: The Opinion Pages, International New York Times
Photo: AFP