มีชัยนี่แม่-โคตรเก๋า เซียนสนุ้กเรียกพ่อ ข่าวนี้อ่านเผินๆ เหมือน กรธ.ยอม คสช. แต่สาระสำคัญจริงๆ คสช.ไม่ได้อะไร ไม่ถึงขนาด "พบกันครึ่งทาง" ซ้ำยังไปต่อยากส์
กรธ.เคาะแล้ว! เอาด้วย250ส.ว.สรรหา-เปิดทางผบ.เหล่าทัพนั่ง ให้2สภาเว้นกฎเลือกนายกฯได้
http://www.matichon.co.th/news/79620
ข้อแรก สว.สรรหา ยอมให้ 200 คน อีก 50 คนทดลองสาขาอาชีพ แต่ข้อสำคัญที่สุด ไม่ให้อำนาจลงมติไว้วางใจรัฐบาล ไม่สามารถเป็นฐานเสียงรัฐบาลโดยตรง
คือถ้าไม่สามารถเป็นฐานเสียงโดยตรง แล้วอยากได้เก้าอี้อะไรก็เอาไปสิ ให้ ผบ.เหล่าทัพ 6 คนก็ไม่ขัด แต่ยักไว้ บอกมีข้าราชการประจำได้ 6 คน เมริงอยากเป็นนักก็ให้กรรมการสรรหาเลือกเอง
ข้อสอง นายกฯ คนนอก ยังยืนยันให้พรรคการเมืองเสนอ 3 ชื่อ แต่ถ้าสภาเลือกนายกฯไม่ได้จริงๆ ก็ให้ประชุมร่วมวุฒิสภา 750 คน ใช้เสียง 2 ใน 3 (500 คน) ยกเว้นมาตรานี้ ให้สภาผู้แทนไปอัญเชิญนายกฯ นอกบัญชีได้ โดยกลับไปเลือกกันใหม่ในสภาผู้แทน
ฟังเหมือนง่ายแต่ไม่หมูนะครับ ใช้เสียง 500 คน อย่างน้อยก็ต้องมี ส.ส.250 คน ก็เกินครึ่งสภาผู้แทนอยู่แล้ว ถ้ามี ส.ส.250 คนในมือ ก็เป็นรัฐบาลได้อยู่แล้ว ยังต้องมาอ้อมขออนุญาตที่ประชุมร่วมอีก แล้วค่อยกลับไปเลือกในสภาผู้แทน โห 555 สนุ้กหลายชั้น
ข้อสาม ระบบเลือกตั้ง ชั่วหัวมัน อันนั้นเป็นแค่ข้อเสนอประดับ กรธ.ไม่รับยังยืนกรานบัตรใบเดียว
ข้อสี่ สำคัญที่สุด คือหลังจากนี้ คสช.จะทำอย่างไร จะไม่รับก็อธิบายยาก อ้าว มีชัยแก้ให้แล้วไง นี่ไง อุตส่าห์ยอม
จะให้ สนช.ไปตั้งคำถามประชามติเพิ่ม ตั้งว่าอะไร? สว.สรรหา 250 คนในบทเฉพาะกาล 5 ปี ก็ได้แล้วไง แต่ไม่ได้อำนาจลงมติไว้วางใจ จะตั้งคำถาม "เห็นควรให้ สว.มีอำนาจล้มรัฐบาลไหม" ยังงั้นเรอะ
55555 มีชัยนี่แม่- เฒ่าสารพัดพิษชัดๆ ทำให้เห็นว่ายอมพบกันครึ่งทาง แต่ไม่ได้ประเด็นสำคัญ
...
Overview เมื่อตอนทุ่ม อย่างที่อธิบายไปแล้ว มีชัยนี่แสบจริง ถ้าไม่เก็บอาการหน่อยผมคงหัวร่อกลิ้งออกจอ
อธิบายรวบอีกทีว่า คสช.ได้ ไม่ถึงกับไม่ได้ แต่ได้แค่ 20% ไม่ได้ตามเป้าที่ต้องการ คือได้ตั้ง สว.200 คน แต่ไม่ได้อำนาจ สว.ลงมติไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถไปสู่เป้าหมายนายกฯ คนนอกที่มี สว.หนุนหลัง
การได้แค่นี้ กลายเป็นก้างติดคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คือจะรุกอีกก็ลำบาก จะคว่ำร่าง เฮ้ยก็มีชัยยอมตามแล้วไง พูดมาก ออกอาการมาก ก็เข้าเนื้อ อ้าว ไหนว่าต้องการ สว.สรรหามาผลักดันการปฏิรูป มีชัยก็ให้แล้วไง ไม่พอใจตรงไหนอีกล่ะ ก็พูดมาตรงๆ สิว่าอยากได้ สว.แต่งตั้ง+นายกฯคนนอกเพื่อคุมอำนาจต่อ
ooo
ข้อเสนอ คสช. VS พบกันครึ่งทาง
by ใบตอง แห้ง
22 มีนาคม 2559
กรธ.เคาะ! แก้ใบสั่งรื้อสูตร 250ส.ว.- ย้ำพรรคส่ง 3ชื่อนายกฯ -เลือกตั้งบัตรเดียว ไม่ให้ซักฟอก
ที่มา มติชนออนไลน์
22 มี.ค. 59 กรธ.ยืนกราน ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ส่วนที่มา ส.ว.ช่วงเปลี่ยนผ่านลงตัวที่ 250 คน แต่ขอทดลองใช้วิธีการเลือกไขว้ 50 คนจาก 20 อาชีพ ขณะที่มานายกฯ ให้พรรคการเมืองเสนอ 3 ชื่อตามเดิม แต่หากยังหาไม่ได้ให้ประชุมร่วมรัฐสภา ขอยกเว้น การเลือกนายกฯนอกบัญชี 3 คน
วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.10 น. นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ. แถลงผลการประชุม กรธ. ว่าตามที่มีข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงบทเฉพาะกาลในร่างรัฐธรรมนูญจากแม่น้ำ 4 สาย ซึ่งส่งหนังสือมาให้ กรธ.ประกอบการพิจารณานั้น ขณะนี้ กรธ.ได้พิจารณาจนได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว โดยวิธีการได้มาซึ่งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เอกสารที่ส่งมาระบุว่ามีผู้เสนอเป็นอันมากว่าควรใช้แบบบัตรเลือกตั้งจำนวน 2 ใบ รวมทั้งการกำหนดให้มีเขตเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งแนวทางนี้ไม่ได้เป็นข้อเสนอจากแม่น้ำ 4 สาย ดังนั้น กรธ.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถเข้ากับหลักการที่ กรธ.วางไว้ในร่างรัฐธรรมนูญได้ จึงยืนยันว่าเราจะใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว โดยส่วนนี้จะไม่มีการระบุไว้ในบทเฉพาะกาล ส่วนประเด็นที่มาของวุฒิสภา (ส.ว.) นั้น กรธ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเราจะเขียนในบทเฉพาะกาล ให้ระยะแรกมี ส.ว.มาจากการสรรหา จำนวน 250 คน ตามข้อเสนอแม่น้ำ 4 สาย แต่ขอให้จำนวน 50 คนจากทั้งหมด 250 คน สรรหาจากผู้ได้รับเลือกตามสาขาวิชาชีพ 20 สาขาวิชาชีพตามที่ กรธ.กำหนดไว้เดิม โดยหลักการจะมีการเลือกโดยวิธีการสมัครเช่นเดิม ตั้งแต่ ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เบื้องต้นมองไว้น่าจะมีประมาณ 231 คน จาก 77 จังหวัด และจาก 231 คน ก็ขอให้คณะกรรมการสรรหาประมาณ 7-8 คน เลือกจาก 231 คน ให้เหลือ 50 คน ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะเป็นปลาน้ำเดียวกันจากคนที่มาจากการสรรหา รวมทั้งเป็นการทดลองวิธีการของ กรธ.ว่าสามารถปฏิบัติได้โดยคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
นายนรชิตกล่าวต่อว่า ส่วนอำนาจของ ส.ว.ให้มีอำนาจตามปกติ บวกกับอำนาจที่แม่น้ำ 4 สายขออำนาจในการผลักดันกฎหมายปฏิรูป การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ รวมทั้งถ้าขัดกันระหว่างสภาผู้แทนกับวุฒิสภาในเรื่องกฎหมายปฏิรูป ก็ให้มีการพิจารณาในที่ประชุมร่วม ส่วนการพิทักษ์รัฐธรรมนูญเราเขียนไว้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณา 2 สภาร่วมกัน ที่เรียกว่ารัฐสภา ส่วนการบริหารประเทศ ที่บอกว่าให้ ส.ว.มีอำนาจขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ รวมทั้งลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทาง กรธ.คิดว่าเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้มีบทบัญญัตินี้ไว้ในบทเฉพาะกาล
นายนรชิตกล่าวต่อว่า ส่วนการให้พรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี 3 ชื่อ ทางแม่น้ำ 4 สาย เสนอว่าขอให้ไม่ใช้บทบัญญัติที่ให้เสนอ 3 รายชื่อเป็นนายกฯ กรธ.พิจารณาแล้วเห็นว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันในหลักการที่ให้พรรคการเมืองต้องเสนอชื่อว่าที่นายกฯจำนวน 3 คนตามเดิม แต่หากเกิดกรณีสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเลือกนายกฯได้ให้มีการประชุมรัฐสภา คือการประชุมร่วมกันของสภาและวุฒิสภา เพื่อขอยกเว้นการเลือกนายกฯนอกบัญชี 3 คน ซึ่งถ้ารัฐสภาโดยเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เห็นด้วยก็ให้กระทำได้ สำหรับการเรียกประชุมรัฐสภาดังกล่าว ถ้ามี ส.ส.เข้าชื่อกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสภา ก็สามารถเรียกประชุมรัฐสภาได้ โดยมติที่จะขอยกเว้นการเลือกนายกฯนอกบัญชี ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 เห็นด้วย เมื่อได้รับการยกเว้น ตามมติของรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ดำเนินการเลือกนายกฯกันเอง โดยวุฒิสภามีบทบาทเพียงร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติการยกเว้นไม่ใช่ให้เลือกนายกฯมาจากนอกบัญชี 3 ชื่อได้
เมื่อถามว่า จะไม่มีผู้นำเหล่าทัพในส.ว.อีกแล้วหรือไม่ นายนรชิต กล่าวว่า ผู้นำเหล่าทัพเป็นสิ่งที่เราจะพิจารณา แต่เท่าที่มีการพูดคุยกันอาจเปิดทางว่ากรณีของการสรรหาเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาที่ระบุไว้ประมาณ 8-10คนที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือรัฐบาล ขณะเดียวกันอาจเปิดช่องว่าสามารถให้ผู้ดำรงตำแหน่งในคสช.สามารถได้รับการสรรหาเป็นส.ว.ได้ไม่เกินร้อยละ 2.5 หรือร้อยละ 5 ก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กรธ.เปิดช่องไว้ให้
เมื่อถามว่า จะมีการเปิดคุณสมบัติไม่ห้ามข้าราชการประจำนี้เข้ามาดำรงตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายนรชิต กล่าวว่า กรณีนี้เป็นข้อยกเว้น เฉพาะส.ว.ตามบทเฉพาะกาล
“หลักการส.ว.ถือเป็นการพบกันครึ่งทาง เพื่อให้เรามีประสบการณ์สำหรับการเลือกตั้งส.ว.ทางอ้อม แบบที่กำหนดไว้ในบทถาวร ขณะที่อีก 200 คน ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา โดยกำหนดให้ ส.ว. 6 คน สามารถเป็นข้าราชการประจำได้ แต่ไม่ได้ระบุว่า ต้องเป็นผู้นำเหล่าทัพ เหมือนตามคำขอ “โฆษกกรธ.กล่าว
ooo