วันพุธ, พฤศจิกายน 11, 2563

"สุขุม สมหวัง ยังวัน" ยัำเตือน อยากให้ประชาชนยึดกุมให้มั่นว่า เรากำลังทำสงครามการเมือง มิใช่สงครามฆ่าฟัน สงครามชนิดนี้ ในบางช่วงตอน อาจยืดเยื้อน่าเบื่อหน่าย ไม่แจ้งผลแพ้ชนะให้สะใจวัยรุ่น แต่เชื่อเถอะ เมื่อใดที่ฐานรากแห่งอำนาจของเผด็จการถูกบั่นทอนจนอ่อนแอได้ที่แล้ว มันอาจจะจบเร็วจนตามองไม่ทันเลยทีเดียว



สุขุม สมหวัง ยังวัน
21h · 
สงครามประชาชน!

เยาวชนและประชาชน เริ่มสู้กับเผด็จการและศักดินามาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่เห็นชัยชนะที่จับต้องได้ตามข้อเรียกร้องหลักสามข้อ แม้สักข้อเดียว
บางคนอาจเริ่มล้า และเริ่มเฉื่อยเนือยลงบ้าง
วันนี้เราเลยอยากให้ลองมาทบทวนดูว่า หลายเดือนของการต่อสู้ เราได้อะไรมาบ้าง
1. "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" คำนี้เคยเป็นคำขวัญปลุกใจของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน ก่อนจะถูกปราบปรามอย่างเหี้ยมโหด
แต่อาการ"ตาสว่างทั้งแผ่นดิน" ก็ยังเป็นแค่คำขวัญ ที่ไม่อาจมีรูปธรรมมายืนยันได้
อาการ"ตาสว่าง" ในช่วงนั้น ถ้าหากจะมีจริงบ้าง ก็เพียงในหมู่คนไม่มากมายนัก และจำเป็นต้องซ่อนงำอาการตาสว่างของตนไว้อย่างเงียบงัน
แต่เมื่อมีการฉีกทลายเพดานของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็เกิดมิติใหม่ขึ้นมาแทบจะในทันที
อาการ"ตาสว่าง" ได้กลายพันธุ์จากเชื้อโรคประจำถิ่นที่พบเจอได้ในวงแคบๆ เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่แพร่ระบาดอย่างรุนแรงและรวดเร็วออกไปเป็นวงกว้างในขอบเขตทั่วประเทศ
เร็วและรุนแรงยิ่งกว่าโควิด19เสียอีก
คนตาสว่างในยุคนี้ ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวเองไว้ในหลืบมุมเล็กๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันด้วยเสียงกระซิบกระซาบอีกต่อไป พื้นที่ของเขากระจายกว้างออกไปทั่วทุกจังหวัดในราชอาณาจักร เสียงพูดของเขาดังก้องกังวานผ่านเครื่องขยายเสียง จากจตุรัสกลางเมือง ไปจนถึงทุ่งกว้างหน้าบรมมหาราชวัง ไม่นับรวมการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ที่มีผู้ชมผู้ฟังนับล้านๆคน
ไม่มียุคไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกแล้ว ที่มีผู้คนตาสว่างมากมายเช่นนี้มาก่อน "ตาสว่างทั้งแผ่นดิน"จึงไม่เป็นแค่คำขวัญอีกต่อไป หากแต่กำลังเป็นความจริงที่เราท่านต่างสัมผัสจับต้องได้ ไม่เชื่อ ครั้งต่อไปที่คุณไปดูหนัง ลองนับว่ามีคนในโรงที่ลุกขึ้นยืนเหลืออยู่กี่คนก็พอ
เหล่านี้ไม่นับว่า เป็นผลพวงจากการต่อสู้ที่พวกเราควรภาคภูมิใจหรอกหรือ?
2. คุณภาพใหม่ของการต่อสู้
เมื่อก่อน เรามี 14 ต.ค. 2516 เป็นภาพจำ พลังส่วนใหญ่คือนักเรียน นิสิต นักศึกษา แต่ในวันนี้ 47 ปีให้หลัง พลังหลักยังคงเดิม แต่ที่เสริมเข้ามาคือ หนุ่มสาววัยทำงาน กลุ่มวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ กรรมกรจากโรงงาน เกษตรกรจากท้องไร่ท้องนา และกำลังลามระบาดไปจนถึงกลุ่มชนชั้นสูงในสังคม ไม่ว่านักธุกิจชั้นนำ ข้าราชการระดับสูง ไม่ว่าแพทย์ พยาบาล ฑูต ไปจนถึงผู้พิพากษา และกำลังกระจายแพร่ไปในชนทุกกลุ่มย่อย ไม่ว่าผู้พิการ นักบวช LGBTQ ฯลฯ
ถามว่านี่คืออะไร? ผมอยากตอบแบบซ้ายๆว่า มันคือสงครามประชาชน ที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าปวารณาตัวเป็นนักรบในกองทัพประชาชนโดยแท้
และนี่คือสงครามในรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตลึง สงครามที่ไม่มีแนวรบ ไม่มีสนามรบ เพราะทุกที่สามารถใช้เป็นสนามรบได้หมด วันนี้อาจรบกันอยู่กลางเมืองหลวง พรุ่งนี้อาจไปรบกันอยู่ในจังหวัดเหนือสุดหรือใต้สุด หรือแม้กระทั่งในต่างประเทศที่อยู่คนละซีกโลก
เป็นสงครามที่ไร้อาวุธเพื่อการประหัตประหารให้เลือดตกยางออก หากแต่สามารถใช้ทุกอย่างรอบตัวเป็นอาวุธได้หมด ไม่ว่ากระดาษเอสี่ โทรโข่ง ไปจนถึงรถซาเล้ง และพลานุภาพทำลายล้างของอาวุธเหล่านี้ กลับรุนแรงกว่าอาวุธในนิยามเก่าอย่างเทียบกันไม่ติด ใครจะคาดคิดได้ว่า ด้วยกระดาษเปล่าเพียงไม่กี่แผ่น สามารถทำให้ตำรวจทหารหลายสิบกองพัน ต้องวิ่งกันหัวปั่นไม่เป็นอันหลับอันนอน รถซาเล้งไม่กี่คัน สามารถทำลายอานุภาพของรถฉีดน้ำแรงดันสูงคันละหลายสิบล้านบาทได้
ต่างๆเหล่านี้ เกิดขึ้นได้เพราะ สงครามนี้ ไม่ได้วัดแพ้ชนะกันด้วยการยึดพื้นที่ หรือนับศพทหาร หากแต่วัดกันด้วยผลสะเทือนทางการเมืองที่จะสั่นคลอนความชอบธรรมในอำนาจของอีกฝ่ายหนึ่งนั่นต่างหาก
ข้ออ้างเพื่อความชอบธรรมในการครองอำนาจ สำคัญกว่าอำนาจด้านกำลังรบในมือมาก ต่อให้มีกำลังรบพร้อมสรรพแค่ไหน หากขาดความชอบธรรมเสียสักอย่าง ผู้ครองอำนาจก็ไม่อาจรักษาอำนาจนั้นไว้ได้
การที่ฝ่ายประชาชน ใช้แสนยานุภาพอันเกรียงไกร อันเกิดจากมวลชนทุกหมู่เหล่า ที่แปรสภาพเป็นนักรบ ใช้ศาสตรวุธไร้รูปแบบ ใช้ยุทธวิธีพลิกแพลงจนศัตรูไม่อาจคาดเดา เข้าโจมตีฐานรากแห่งความชอบธรรมของอำนาจอย่างสม่ำเสมอ ฐานรากแห่งอธรรม มีหรือจะทนทานอยู่ได้ ไม่นานก็ต้องหักโค่นลงในที่สุด
ที่พูดมาทั้งหมดนี้ อยากให้ประชาชนยึดกุมให้มั่นว่า เรากำลังทำสงครามการเมือง มิใช่สงครามฆ่าฟัน การรบแต่ละครั้ง ผลแพ้ชนะวัดกันที่ผลได้และผลเสียทางการเมือง
สงครามชนิดนี้ ในบางช่วงตอน อาจยืดเยื้อน่าเบื่อหน่าย ไม่แจ้งผลแพ้ชนะให้สะใจวัยรุ่น แต่เชื่อเถอะ เมื่อใดที่ฐานรากแห่งอำนาจของเผด็จการถูกบั่นทอนจนอ่อนแอได้ที่แล้ว โครงสร้างอันหนักอึ้งอุ้ยอ้ายของมัน ก็จะทำหน้าที่ถล่มลงมาทับตัวของมันเอง
ถึงตอนนั้น มันอาจจะเร็วจนตามองไม่ทันเลยทีเดียว. 

https://www.facebook.com/photo?fbid=10217536042221649&set=a.1639209148830