ความกล้า ม็อบ 8 พฤศจิกา สะท้อนความเสื่อม และ Legitimacy Crisis ของอำนาจนำจารีต

Atukkit Sawangsuk
1h ·
ม็อบ 8 พฤศจิกา ใครจะคิดว่าช่างกล้าท้าทาย เขียนหนังสือถึงกษัตริย์
สื่อบางรายบอกถวายฎีกา โคตรตลก ไม่ใช่นะ ภาษากฎหมายเรียกว่ายื่นโนติ๊ส
ทำไมช่างกล้า ผมคิดว่าเป็นอย่างไผ่พูด ยิ่งมายิ่งแกร่ง
ถูกสลายถูกจับยิ่งลุกฮือยิ่งทะลุเพดาน
และยิ่งได้ใจคน แม้คนจำนวนมากยังหวาดเสียวอยู่บ้าง
แต่ก็แสดงออกด้วยการปกป้อง สนับสนุน ในวิธีต่างๆ
แม้ไม่กล้าชนตรงๆ ก็ยืนข้างๆ ช่วยขัดขวางการใช้อำนาจจับกุมปราบปราม
:
วันที่ปล่อยไมค์ เพนกวิน รุ้ง แล้วตำรวจทำตัวเป็นอันธพาลระดมหมายจับ
ยิ่งเห็นชัด กระแสสื่อ กระแสสังคม นักวิชาการ คณบดีนิติ นักกฎหมาย อัยการ
รุมประณามตำรวจ
มีข้อสงสัยอยู่ว่า ทำไมศาลทยอยปล่อย
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ใบสั่งเดียวกัน เพราะศาลปล่อย ตำรวจขวาง
ยิ่งถ้าอ่านโพสต์ผู้พิพากษานิรนาม แฉว่าวันที่ 2 พ.ย. อบรมผู้พิพากษาฎีกา
ผู้พิพากษาระดับสูงยังด่าธนาธร ปิยบุตร ม็อบล้มสถาบัน
แปลว่าที่สั่งปล่อยนี่เป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ศาลอาญาแพคกันเอง?
จริงไหมไม่แน่ใจ แต่ก็น่าทึ่ง
:
เวลาเรามองอานันท์ ด่าประยุทธ์ผิดมา 7 ปี
ด้านหนึงก็หัวเราะลั่น อานันท์นี่แหละหนุนรัฐประหาร
แต่อีกด้านหนึ่งมันแสดงว่า elite กลุ่มหนึ่งไม่พอใจระบอบที่เป็นอยู่
แล้วฉวยกระแสหนุนคนรุ่นใหม่
ทั้งที่พวกเขารู้ว่าสู้อยู่กับใคร
:
ไม่เคยมีมาก่อนนะ ที่ฝ่ายประชาชนรุกได้ติดเพดาน ขนาดนี้
ทะลุเพดานๆๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ขนาดนี้
โดยที่เขามีอำนาจทุกอย่าง แต่ทำอะไรไม่ได้
ปราบไม่ได้ รัฐประหารก็ยาก
ทำลายม็อบก็ไม่ได้ ลดเพดานก็ไม่ได้
ยิ่งหนุนเนื่อง ยิ่งแข็งแกร่ง
:
ขนาดประกาศไปม็อบยื่นหนังสือถึงกษัตริย์
รัฐบาลก็ได้แต่แบะแบะ
ไม่รู้จะจัดการอย่างไร นอกจากไประดมพวกเสื้อเหลืองมาชนม็อบ
ขนขึ้นรถขยะได้กี่คน เกิดเหตุใครรับผิดชอบ ก็ตำรวจ ก็รัฐบาล
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความเสื่อมของอำนาจ
การเมืองไม่ชอบธรรม ผู้นำโง่ ศีลธรรมล้มละลาย
แบบอย่างที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยึดเหนี่ยวยกย่องเชิดชู ก็ไม่อยู่แล้ว
ภาพเปรียบเทียบเห็นกันโต้งๆ
คนดีย์ก็มีแต่พุทธอิสระ เสี่ยโป้สู้ๆ เสื้อเหลืองอันธพาลทำร้ายร่างกายโทษว่าล้มเอง
ความเสื่อมอย่างนี้ที่ทำให้ม็อบท้าทายไต่เพดานได้ไม่หยุด
โดยพลังทางสังคมเอาใจช่วยอีกจำนวนมาก

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/3547937238621413
...

...

Matichon Online - มติชนออนไลน์
Yesterday at 3:31 AM ·
10 ประเทศ ‘ประชาธิปไตย’ ถดถอย

สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นคนที่ชูเรื่องสถาบันฯเป็นเครือ่งมือในการต่อสู้ทางการเมือง ผมถามว่าใครสั่งยิงสนธิ ผู้มีอำนาจในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์คนไหนกล้าทำเช่นนั้น ?

— บก.ลายจุด (@nuling) November 6, 2020

Jaran Ditapichai
12h ·
วันนี้ จะพูดถึงรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 อีกสักนิดว่า เป็นรัฐประหารครั้งแรกในรัขกาลที่9 และเป็นบิดาของรัฐประหารทั้งหลายที่เกิดต่อมา11 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงหยุดยั้ง ขัดขวาง และทำลายการสร้างระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยในช่วง 73 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น หากยังเสริมอำนาจบารมีให้สถาบันกษัตริย์มากยิ่งขึ้นๆทุกครั้ง
# ร่วมเดินขบวน8 พฤศจิกายน ให้มืดฟ้ามัวดิน

..

Jaran Ditapichaion 

Thursday

ประธานศาลฎีกาทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับขบวนการนักเรียนนักศึกษาประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

ด่วน! นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกาสร้างมลทินมัวหมองให้แก่ศาลฎีกาอีกแล้ว

เมื่อวันที่ 2 พย 2563 ที่ผ่านมา ในการอมรบผู้พิพากษาที่เพิ่งเลื่อนขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาพร้อมทีมงาน ภายใต้การกำกับบงการของนางเมทินี
ได้ใช้เวลาเกือบทั้งหมด ในการบรรยายไปกับการโจมตีการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาและประชาชนในขณะนี้ว่า บรรดานิสิตนักศึกษาถูกหลอกลวงให้มาร่วมชุมนุมโดยนายธนาธรและนายปิยบุตร และใส่ร้ายป้ายสีการชุมนุมเรื่องการล้มล้างสถาบันฯต่างๆนานา โดยแทบไม่ได้บรรยายทางวิชาการเลย จนมีผู้พิพากษาหลายคน ทนฟังต่อไปไม่ได้ ลุกเดินออกจากห้องบรรยาย

การกระทำของนางเมทีนี ในฐานะประธานศาลฎีกาและนายสิทธิศักดิ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลฎีกาเช่นนี้ มีแต่สร้างความแตกแยกแบ่งฝ่ายในหมู่ผู้พิพากษา มิใช่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการแต่อย่างใด ทั้งยังเป็นการประพฤติผิดต่อประมวลจริยธรรมของตุลาการอย่างร้ายแรง

กลุ่มผู้พิพากษานิรนามขอเรียกร้องให้คณะกรรมการตุลาการหยิบยกกรณีที่เกิดนี้ ขึ้นพิจารณาและลงโทษนางเมทินี และนายสิทธิศักดิ์ อย่างกล้าหาญจริงจัง และประณามพฤติกรรมของบุคคลทั้งสอง

กลุ่มผู้พิพากษานิรนาม