https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/3389586897761232
...
เ ผ ย ภ า พ ‘ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี‘ ล่าสุด หลังลาออกจากฐานันดรศักดิ์
ที่มา สาระน่ารู้.com
‘ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี’ อดีตคือพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารในขณะนั้น
แต่ปัจจุบันคือสามัญชนคนเดินดิน หลังจากกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทและพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว
เรื่องของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ถือเป็นบุคคลสำคัญ ที่เคยถูกจับจ้องของสังคมไทย ทั้งคุณาปการที่ ‘ท่านผู้หญิง’ ที่ได้ปฏิบัติกรณียกิจไว้ขณะดำรงอิสริยยศ และสิ่งต่างๆ อีกมากมาย
ในระหว่างดำรงฐานันดรศักดิ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานศูนย์ศิลปาชีพ 904 เป็นราชองครักษ์พิเศษ เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ และ เป็นผู้อำนวยการสำนักเวชศาสตร์ครอบครัว กรมแพทย์ทหารบก
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งโครงการแห่งพระองค์ไว้หลายโครงการ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ ได้แก่ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ศูนย์ศรีทวีรักสตูดิโอศุโขโยคะ ศิลปาชีพ 904 เฮาส์โชว์ เป็นต้น
เส้นทางของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ที่ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุด ก่อนที่วันที่ 11 ธ.ค.2557 จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต คล้อยหลังวันคล้ายวันเกิดเพียง 2 วันของท่านผู้หญิง
ก็มีพระราชกิจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 29 เผยแพร่เรื่องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ สิ้นสุดการเข้าสู่พระราชวงศ์ของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ และพ้นจากวังศุโขทัย หลังจากจดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2544
อย่างไรก็ตาม หลังจากลาออกจากฐานันดรศํกดิ์แล้ว ท่านผู้หญิงศรีรัศดิ์ ก็เลือกจะเดินทางไปทำบัตรประชาชนใหม่ทันที โดยใช้คำว่านางสาวนำหน้านามศรีรัศมิ์ และเลือกที่จะไปพักอยู่และขออยู่อย่างสงบที่บ้าน “สุวะดี” ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายภิรุจและนางวันทนีย์ สุวะดี ผู้เป็นบิดาและมารดา
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เลือกที่จะเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้างพัก และมีจดหมายน้อยออกมาจากบ้านพัก เขียนด้วยลายมือของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ใจความว่า
“เราขอขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย คอยติดตามมาเสมอ เราขอความกรุณาผู้สื่อข่าวทุกท่านด้วย ช่วงนี้เราขออยู่ปฏิบัติธรรมเงียบๆในบ้านหลังนี้ พร้อมครอบครัวด้วยความสงบค่ะ”
ลงชื่อ ศรีรัศมิ์ 17 ธ.ค.57 เป็นข้อความบ่งบอกถึงความเป็นอยู่ของท่านผู้หญิง พร้อมขอร้องกับสื่อมวลชนให้หยุดรบกวน
การเดินทางที่แสนยาวไกลของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ที่เดิมจากสามัญชนสู่ชั้นฟ้าดวงดาว แต่ทุกวันนี้ก็กลับมาเป็นคนธรรมดาสามัญดังเช่นเคย
จะด้วยเหตุผลหรือข่าวลือมากมายที่สะพัดในสังคมเกี่ยวกับ ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ แต่เชื่อได้ว่าสิ่งที่ท่านผู้หญิงได้เคยปฏิบัติกรณียกิจไว้ขณะดำรงอิสริยยศ ก็ยังคงสร้างคุณูปการหลายอย่างให้กับประเทศชาติ
หลังจากนั้นมาก็ไม่มีข่าวเกี่ยวกับท่าน และเมื่อไม่นานนี้ โลกออนไลน์ก็ได้มีการเผยภาพและวิดีโอในชีวิตสามัญชน ของ ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ หลังลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ออกมาให้เห็นกันบางส่วน
ซึ่งท่านยังคงมีบุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตา ที่งดงามดังเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ยังไงแล้วเราลองไปชมภาพของท่านกันดีกว่า
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน (ป.จ.) มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.)
ด้วยเหตุนี้ เมื่อขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์ แห่งพระราชวงศ์แล้ว จึงยังคงใช้คำนำหน้านามเป็น “ท่านผู้หญิง” ตามสิทธิ์ที่มีอยู่เดิมจากการที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าฯ นั่นเอง
แต่ในการทำบัตรประจำตัวประชาชน จะไม่มีการใส่คำนำหน้า “ท่านผู้หญิง” ลงในบัตรแต่อย่างใด
ที่มา posttoday
...
เ ผ ย ภ า พ ‘ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี‘ ล่าสุด หลังลาออกจากฐานันดรศักดิ์
ที่มา สาระน่ารู้.com
‘ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี’ อดีตคือพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารในขณะนั้น
แต่ปัจจุบันคือสามัญชนคนเดินดิน หลังจากกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ซึ่งความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทและพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว
เรื่องของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ถือเป็นบุคคลสำคัญ ที่เคยถูกจับจ้องของสังคมไทย ทั้งคุณาปการที่ ‘ท่านผู้หญิง’ ที่ได้ปฏิบัติกรณียกิจไว้ขณะดำรงอิสริยยศ และสิ่งต่างๆ อีกมากมาย
ในระหว่างดำรงฐานันดรศักดิ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานศูนย์ศิลปาชีพ 904 เป็นราชองครักษ์พิเศษ เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ และ เป็นผู้อำนวยการสำนักเวชศาสตร์ครอบครัว กรมแพทย์ทหารบก
นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งโครงการแห่งพระองค์ไว้หลายโครงการ เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ ได้แก่ โครงการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ศูนย์ศรีทวีรักสตูดิโอศุโขโยคะ ศิลปาชีพ 904 เฮาส์โชว์ เป็นต้น
เส้นทางของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ที่ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุด ก่อนที่วันที่ 11 ธ.ค.2557 จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต คล้อยหลังวันคล้ายวันเกิดเพียง 2 วันของท่านผู้หญิง
ก็มีพระราชกิจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 29 เผยแพร่เรื่องลาออกจากฐานันดรศักดิ์ สิ้นสุดการเข้าสู่พระราชวงศ์ของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ และพ้นจากวังศุโขทัย หลังจากจดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2544
อย่างไรก็ตาม หลังจากลาออกจากฐานันดรศํกดิ์แล้ว ท่านผู้หญิงศรีรัศดิ์ ก็เลือกจะเดินทางไปทำบัตรประชาชนใหม่ทันที โดยใช้คำว่านางสาวนำหน้านามศรีรัศมิ์ และเลือกที่จะไปพักอยู่และขออยู่อย่างสงบที่บ้าน “สุวะดี” ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายภิรุจและนางวันทนีย์ สุวะดี ผู้เป็นบิดาและมารดา
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เลือกที่จะเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้างพัก และมีจดหมายน้อยออกมาจากบ้านพัก เขียนด้วยลายมือของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ใจความว่า
“เราขอขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย คอยติดตามมาเสมอ เราขอความกรุณาผู้สื่อข่าวทุกท่านด้วย ช่วงนี้เราขออยู่ปฏิบัติธรรมเงียบๆในบ้านหลังนี้ พร้อมครอบครัวด้วยความสงบค่ะ”
ลงชื่อ ศรีรัศมิ์ 17 ธ.ค.57 เป็นข้อความบ่งบอกถึงความเป็นอยู่ของท่านผู้หญิง พร้อมขอร้องกับสื่อมวลชนให้หยุดรบกวน
การเดินทางที่แสนยาวไกลของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ที่เดิมจากสามัญชนสู่ชั้นฟ้าดวงดาว แต่ทุกวันนี้ก็กลับมาเป็นคนธรรมดาสามัญดังเช่นเคย
จะด้วยเหตุผลหรือข่าวลือมากมายที่สะพัดในสังคมเกี่ยวกับ ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ แต่เชื่อได้ว่าสิ่งที่ท่านผู้หญิงได้เคยปฏิบัติกรณียกิจไว้ขณะดำรงอิสริยยศ ก็ยังคงสร้างคุณูปการหลายอย่างให้กับประเทศชาติ
หลังจากนั้นมาก็ไม่มีข่าวเกี่ยวกับท่าน และเมื่อไม่นานนี้ โลกออนไลน์ก็ได้มีการเผยภาพและวิดีโอในชีวิตสามัญชน ของ ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ หลังลาออกจากฐานันดรศักดิ์ ออกมาให้เห็นกันบางส่วน
ซึ่งท่านยังคงมีบุคลิกภาพ รูปร่างหน้าตา ที่งดงามดังเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ยังไงแล้วเราลองไปชมภาพของท่านกันดีกว่า
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฐมจุลจอมเกล้าฝ่ายใน (ป.จ.) มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.) มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.)
ด้วยเหตุนี้ เมื่อขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์ แห่งพระราชวงศ์แล้ว จึงยังคงใช้คำนำหน้านามเป็น “ท่านผู้หญิง” ตามสิทธิ์ที่มีอยู่เดิมจากการที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นปฐมจุลจอมเกล้าฯ นั่นเอง
แต่ในการทำบัตรประจำตัวประชาชน จะไม่มีการใส่คำนำหน้า “ท่านผู้หญิง” ลงในบัตรแต่อย่างใด
ที่มา posttoday
