อาญา ม. ๑๑๒ ของไทยนี่เจ๋งจริง ขนาดทูตอเมริกันยังไม่พ้นโดนฟ้อง

อาญา ม. ๑๑๒ ของไทยนี่เจ๋งจริง ขนาดทูตอเมริกันยังไม่พ้นโดนฟ้อง

ตำรวจลุมพินียืนยันว่ากำลังทำการสอบสวนเบื้องต้นต่อนายกลิน เดวี่ส์ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จริง

โดยเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (๓ ธันวาคม) นาย สนธิยา สวัสดี แห่งสมาพันธ์ตรวจสอบรัฐไทยเป็นผู้ยื่นฟ้องหลังจากที่ทูตเดวี่ส์ไปปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และกล่าวตอนหนึ่งว่า

“เรามีความกังวลที่ศาลทหารของไทยลงโทษจำคุกเป็นเวลายาวนาน ชนิดที่ไม่มีที่ไหนทำกันเช่นนี้ ต่อพลเรือนในความผิดฐานละเมิดกฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกษัตริย์”

และ “เรามีความเชื่อว่าไม่ควรที่จะมีใครต้องถูกจำคุกจากการแสดงความคิดเห็นของตนออกมา และเรายังสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการที่บุคคลและองค์กรอิสระ ดำเนินการค้นคว้าวิจัยและเสนอรายงาน โดยไม่ต้องหวั่นกลัวว่าจะถูกตอบโต้”

(http://www.straitstimes.com/…/us-ambassador-to-thailand-und…)

แม้นว่าทูตเดวี่ส์จะได้ออกมาชี้แจงแล้วว่ามีความเคารพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ของไทยแต่อย่างใด เพียงแสดงห่วงใยที่มีการจำกัดสิทธิมนุษยชนซึ่งจะนำสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้

นายจอนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำไทย และนายกสมาคมผู้สื่อข่าวก็ยืนยันเช่นกันว่า ตำรวจมาขอความร่วมมือจาก FCCT ในการสืบสวนสอบสวนความผิดตาม ม.๑๑๒ ของทูตอเมริกัน ดังที่มีผู้ยื่นฟ้อง

ทั้งนี้สมาคมฯ แจ้งว่ายินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสอบสวนคดี หากแต่จอนาธานเพิ่มเติมว่า

“...as US Ambassador @GlynTDavies has diplomatic immunity. Police and others can judge for themselves http://youtu.be/C22bCpRf7KQ”

(ท่านทูตนั้นมีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองอยู่ ตำรวจและใครก็ตามสามารถใช้วิจารณญานของตนพิจารณาให้ถ่องแท้ได้)

บทความบนเว็บไซ้ท์ asiancorrespondent.com กล่าวถึงกรณีทางการตำรวจไทยเปิดการสอบสวนเอกอัคราชทูตสหรัฐนี้ พร้อมทั้งกล่าวถึงทูตอังกฤษประจำประเทศไทย นายม้าร์ค เค้นท์ ก็ตกอยู่ในการไต่สวนของตำรวจด้วยเช่นกัน

โดยอ้างถึงรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่ว่ารองโฆษกรัฐบาล วีรชน สุคนธ์ปฏิปักษ์ ออกมาแสดงความความผิดหวัง โดยกล่าวหาว่าทูตอังกฤษเลือกที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมายและไม่เคารพกระบวนการศาลไทย

(http://asiancorrespondent.com/…/us-uk-ambassadors-fall-fou…/)

โฆษกรัฐบาล สรรเสริญ แก้วกำเนิด ก็กล่าวทำนองเดียวกัน ทั้งที่ทูตอังกฤษเขียนบนทวิตเตอร์เป็นข้อความสัพยอกต่อการที่รัฐบาลทหารไทยปล่อยให้คนราว ๒๐๐ ไปชุมนุมประท้วงกันหน้าสถานทูตได้ แต่กับนักศึกษาประชาชนไม่กี่สิบคนจัดทำกิจกรรมจี้ให้มีการจัดการปัญหาคอรัปชั่นโครงการอุทยานราชภักดิ์ กลับถูกจับกุม

@KentBKK "I had hoped the fact 200 people allowed to demonstrate at the US Embassy, might be relaxation on freedom of assembly"

https://twitter.com/karmanomad/status/673711882226700289 …

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังคงยืนกรานต่อไปไม่ถอย “ยังไม่สรุป ยันทำโปร่งใส ไม่ใช่ว่า ทหารตั้งกันเอง เขาไม่ยอมเสียชื่อหรอก ทำเต็มที่” หากแต่ข้ออ้างค่อนข้างตะแบงอย่างเคยเหมือนกัน

“กรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารสกัดกั้นและคุมตัวกลุ่มนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยศึกษาที่จะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์เมื่อวันที่ ๗ ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ถ้าปล่อยให้ไปแล้วเกิดตีกับอีกกลุ่มที่อุทยานราชภักดิ์ จะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ”

(http://news.voicetv.co.th/thailand/296241.html)

หากแต่เหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนสวมเสื้อสีชมพูจำนวนหนึ่งไปตะโกนด่าว่านักศึกษาที่จัดกิจกรรมตรวจสอบราชภักดิ์อย่างก้าวร้าวหยาบคาย ที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการถอดโบกี้และจับกุม

ทำให้เป็นที่กังขาต่อบทบาทของ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ. กองพลทหารราบที่ ๙ ว่าไปป้องกันภัยให้นักศึกษา หรือว่าไปกำกับควบคุมม้อบจัดตั้งกันแน่