วันเสาร์, ธันวาคม 26, 2558

ไหนว่าคนชอบผลงานตั้ง 99.5% - "บิ๊กตู่" เดือด! คนบ่น รบ.แถลงผลงานมีเเต่น้ำ จวกสื่อเขียนถึงไม่สร้างสรรค์




"บิ๊กตู่" เดือด! คนบ่น รบ.แถลงผลงานมีเเต่น้ำ จวกสื่อเขียนถึงไม่สร้างสรรค์


ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 25 ธันวาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปิดการแถลงสรุปผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 1 ปี โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังโดยกล่าวอย่างอารมณ์เสียว่า “ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันคิดและฟัง ซึ่งการแถลงผลงานครั้งนี้อาจแตกต่างจากที่ผ่านๆ มา หลายคนวิจารณ์ว่าใช้เวลานานเกินไป หลายคนไม่เข้าใจหาว่ามีแต่น้ำไม่มีเนื้อ พอถามกลับไปว่าเนื้อคืออะไรก็บอกว่าอย่างเช่นการเขียนลอตเตอรี่ได้ในราคาฉบับละ 80 บาท ถ้าอย่างนี้ไม่ต้องปฏิรูป เพราะขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งที่ทำวันนี้คือการเอาประวัติศาสตร์มาเรียนรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนวันนี้จะแก้อย่างไร และจะเริ่มต้นที่จะทำต่อไปในรัฐบาลข้างหน้าอีก 4-5 รัฐบาล คิดอย่างนี้ถึงจะรู้ว่าความเชื่อมโยงคืออะไร บางอย่างต้องใช้เวลาไม่ใช่อะไรก็มาตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ เศรษฐกิจทำไมไม่ดีขึ้น ถ้าอย่างนี้ผมเห็นว่ามันไม่มีความแตกต่าง ผมไม่ได้ว่าใคร แต่คิดว่าเรายังไม่มีจุดร่วมในการทำงานร่วมกันเพื่อประเทศอย่างสมบูรณ์ ทุกคนอยากเห็นประเทศก้าวหน้า ยกเว้นคนไม่ดี”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้เหมือนที่มาของทศกัณฐ์ ซึ่งมาจากทุกถึงจะแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้ การดูโขนเราจะรู้ว่ามีเพียงสองฝ่าย และจะเป็นอย่างไรฝ่ายธรรมะต้องชนะอธรรมเสมอ ทุกคนต้องทำให้ได้

“ผมอ่านหนังสือพิมพ์วันนี้ไม่เข้าใจ ผมเองได้ไปเดินเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานมาแล้ว แต่หนังสือพิมพ์เขียนยังนี้มันใช้ได้หรือไม่ ไปดูกันได้เลยมันสร้างสรรค์อะไรให้ผมบ้าง แล้วก็มาว่าผมไปละเมิดจรรยาบรรณของพวกท่านไปเขียนได้อย่างไร วันนี้ทุกคนเหนื่อยกันมหาศาลแล้วสื่อก็มาเขียนเพียง 4-5 บรรทัด นี่หรือเรียกว่ารักชาติจะร่วมปฏิรูปประเทศ ผมว่าบางคนเท่านั้นไม่ใช่ทั้งหมด เรื่องนี้ผมไม่ยอมที่จะให้คนเหล่านี้เสียกำลังใจเพราะพวกเขาเป็นคนทำงาน ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นเป็นคนสั่งมีความเชื่อมโยงในการทำงาน ทุกคนจะต้องรวมกันให้ได้ ต้องรู้ว่าอดีตประวัติศาสตร์ปัญหาอยู่ตรงไหนแล้วต้องแก้ตามความสำคัญ ที่ผ่านมาผมแก้ไปแล้ว 1 ปี กำลังแก้อีก 1 ปี 6 เดือนจะแก้ให้เสร็จโดยเร็ว อะไรที่ไม่เสร็จรัฐบาลหน้ารับผิดชอบไป ทั้งผิดทั้งชอบ วันนี้แค่รักษาสถานภาพเศรษฐกิจให้คนอยู่ได้ไม่อดตายก็เก่งแล้ว แล้วสื่อก็ไปเขียนว่าจะรอดหรือไม่ อย่างนี้หรือที่เป็นการให้กำลังใจกัน รัฐบาล คสช. ปี 2559 จะรอดไหม มึงอย่ามาเขียน ไม่สร้างสรรค์ ผมไม่ได้โทษไอ้คนเขียนแต่ไอ้คนตรวจปรู๊ป คอลัมนิสต์ บรรณาธิการ เจ้าของหนังสือพิมพ์ผมไม่กลัวหรอกเพราะผมคิดว่าผมทำถูก ผมไม่ได้ไปบังคับท่าน บางฉบับดีทั้งเล่ม บางเล่มก็ดีหน้ากลางว่าเศรษฐกิจเดินหน้า แต่หน้าแรกบอกเศรษฐกิจตก มันเล่มเดียวกันหรือไม่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ หรือต้องหลากหลาย หน้า 1 ขย่มเข้าไป ทั้งเรื่องการตัดสินของศาลไม่เป็นธรรม ตำรวจไม่ดี ทำลายกระบวนการยุติธรรมของตัวเอง แล้วมันจะสงบได้อย่างไร ถ้ามันไม่ผิดก็ไปอุทธรณ์มาไปฟ้องศาลปกครองก็ได้ไม่ใช่มาวิพากษ์วิจารณ์จนเสียระบบกันไปหมด ผมไม่ยอมตรงนี้” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ต่อไปในเรื่องของการจัดนิทรรศการผลงานต้องสร้างความสุขให้ตนด้วย ไม่ใช่จะจัดนิทรรศการสรุปงานหรือการประชุมทุกคนจะต้องอธิบายให้ชัดเจนถึงงานในหน้าที่ งบประมาณ ซึ่งต้องสุจริต โปร่งใส ในเรื่องของนโยบายเร่งด่วนที่ต้องแก้ทั้ง 6 ด้านจะทำให้เห็น แล้วเวลาอีก 1 ปี 6 เดือนก็จะเห็นว่าที่ผ่านมาสิ่งที่แก้ไข สิ่งที่กำลังทำและสิ่งที่กำลังจะทำในอนาคตทั้งหมดคือแผนการปฏิรูป บางอย่างอาจจะจบภายใน 1 ปี แต่บางอย่างต้องใช้เวลา และที่วันนี้ต้องมียุทธศาสตร์ 20 ปี เพราะคนรุ่นใหม่ยังไม่เกิดเราจึงต้องคาดหวังในอนาคตข้างหน้าถึงจะทำให้อนาคตไม่มีปัญหา ต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น พัฒนาประเทศให้ได้ ทุกกระทรวงต้องเตรียมงานไว้ต่อไปนี้ต้องทำตั้งแต่แรกในเรื่องการจัดทำงบประมาณปี 2560 ก่อนที่กระทรวงจะเสนอขึ้นมาต้องนำกิจกรรมทุกกระทรวงมาบูรณาการร่วมกัน เพื่อทำเป็นแผนงานโครงการ ประเทศไทยไม่เคยเห็นอนาคตของตัวเองมาก่อน แต่วันนี้เราต้องคิดไม่เช่นนั้นเราจะอยู่บนโลกนี้ไม่ได้ จะเอาแต่ประชาธิปไตยอย่างเดียวเป็นเรื่องคอขาดบาดตายไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องสำคัญแต่ต้องทำในเรื่องอื่นด้วยทั้งเรื่องการปฏิรูป การเคารพกฎหมาย สร้างคนรุ่นใหม่ สร้างความเข้มแข็ง เราต้องสร้างความเชื่อมโยงกันให้ได้ สร้างกลไกในการขับเคลื่อนในอีก 1 ปี 6 เดือนที่ทุกคนต้องอยู่กับตนไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2559 ท่านต้องบอกตนได้ว่าทุกกระทรวงทำอะไรเสร็จบ้าง เชื่อมโยงกับกระทรวงอื่นอย่างไร การศึกษา การต่างประเทศจะต้องมีการบูรณาการงานเป็นการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ ทุกคนต้องทำ ถ้าไม่ทำมีเรื่องแน่ พันธกิจงานต่างๆ ต้องทำและตนต้องสร้างความเชื่อมโยง ไม่เช่นนั้นทางสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็จะทำกันไม่ได้ บางคนไม่เข้าใจเพราะไม่ฟัง ไม่อดทน

“เวลาอีกปีครึ่งท่านต้องตอบผมให้ได้ว่าทำอะไรได้บ้างในทุกกิจกรรม 6 รองนายกฯ ต้องกำหนดให้ได้ในลักษณะงานที่เป็นภารกิจของตัวเอง งานที่เป็นการบูรณาการ งานที่บางสู่อนาคตรวมทั้งงานที่แก้ปัญหาในเวลานี้ ส่วนงานโครงสร้างต่างๆ ต้องไปอยู่ในแผนการปฏิรูปทุกคนจะต้องทำให้ได้อย่างเช่น ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์จ่อไปนี้ต้องมาคุยกันในเรื่องของงบประมาณ ถ้าทำไม่ได้มีเรื่องแน่อะไรทำได้ก็ต้องรีบทำไม่เช่นนั้นประเทศไทยไปไม่ได้ อะไรที่วางแผนแล้วทำไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า โรงขยะ ให้เซ็นรับรองไว้ด้วย ว่าใครเป็นคนที่ทำให้เกิดขึ้นไม่ได้วันหน้าจะได้ไม่มาโทษผม มันต้องมีวิธีแก้ปัญหา สิ่งที่ผมทำอยู่ไม่เพื่อให้มารักผม แต่ทำเพื่อให้รักประเทศของท่าน ช่วยรักคนอื่นเขาด้วย วันนี้ทุกคนมองแต่ตัวเอง มันก็เกิดความเป็นธรรมไม่ได้ รัฐบาลนี้เข้ามาไม่ได้หวังคะแนนเสียงใดๆ แต่ต้องการทำให้คนมีความสุขท่ามกลางปัญหาที่มากมาย ซึ่งจะพยายามอย่างเต็มที่ส่วนอนาคตข้างหน้าก็ไปให้รัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งเขาทำ” นายกฯ กล่าว


ooo
กระแสแรง




โดย แม่ลูกจันทร์
25 ธ.ค. 2558
ไทยรัฐออนไลน์

การแถลงผลงานรัฐบาล คสช.ครบรอบ 1 ปี โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นดาราชูโรงและมีรองนายกฯ 6 คน นำผลงาน 6 ด้านมาโชว์ประชันกันสุดลิ่มทิ่มประตู

สุดปัญญาที่ “แม่ลูกจันทร์” จะจดจำรายละเอียดได้ครบถ้วนทุกประเด็น

สรุปย่อๆว่า ผลงานรัฐบาลทุกด้านประสบความสำเร็จอย่างมโหฬาร ผลงานสอบผ่านทุกกระทรวง

เช่น...ผลงานด้านความมั่นคง รัฐบาลทำให้บ้านเมืองคืนสู่ความสงบเรียบร้อย ไม่มีใครกล้าฮือกล้าอือ

ด้านเศรษฐกิจ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

การแก้วิกฤติภัยแล้ง และปัญหาราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ ก็สามารถสร้างรายได้ทดแทนให้เกษตรกรได้เห็นผลทันตา

การทวงคืนผืนป่าของชาติก็มีความก้าวหน้าไปด้วยดี

ธุรกิจท่องเที่ยวก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยกว่า 29 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.2 ล้านล้านบาท หรือ 11 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ฯลฯ

ขออภัย...นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้นนะคุณ

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าเวลา 1 ปีที่ผ่านไป นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มุ่งมั่นทุ่มเทแก้ไขปัญหาประเทศได้มากพอสมควร

แต่หลายเรื่องยังไม่สำเร็จเป็นรูปธรรม เพราะข้าราชการยังติดนิสัยเช้าชามเย็นชาม

หลายเรื่องเป็นปัญหาหมักหมมมานานไม่สามารถทะลวงท่อตันให้เสร็จทันใจ

หลายเรื่องแก้ไม่ได้ เพราะอยู่นอกเหนือเขตอำนาจของรัฐบาล เช่น ปัญหาส่งออก ปัญหาแรงงานเถื่อน ปัญหาใบเหลืองประมง ปัญหาใบแดงการบิน ฯลฯ

นี่ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในมือ มีกองทัพแบ็กอัพ เต็มอัตราศึกยังหืดขึ้นคอ

ถ้าเป็นรัฐบาลปกติ ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยการจะแก้ไขปัญหาใหญ่จะยากลำบากยิ่งกว่านี้อีกบานตะเกียง

“แม่ลูกจันทร์” จึงหวังว่าในช่วงปิดซ่อมประชาธิปไตย 3 ปี เป็นโอกาสดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทะลุ่มทะลุยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และวางพื้นฐานการปฏิรูปประเทศให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน

ฉะนั้น เวลาอีกปีครึ่งที่ยังเหลืออยู่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะต้องเร่งทำงานให้หนักยิ่งขึ้นอีกเท่าตัว!!

เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการปฏิวัติครั้งนี้ “ไม่เสียของ” เหมือนการปฏิวัติหลายครั้งที่ผ่านมา

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ในโอกาสที่รัฐบาลทำงานครบ 1 ปี ก็ต้องพิสูจน์กระแสสังคมกันเสียหน่อยตามธรรมเนียม

สำนักงานสถิติแห่งชาติของรัฐบาลได้สอบถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศ 3,900 ราย ว่ารู้สึกอย่างไรกับรัฐบาล??

ปรากฏผลสำรวจอันน่าตื่นตะลึงคือประชาชน 99.5 เปอร์เซ็นต์ พึงพอใจการทำงานของรัฐบาล

มีประชาชนเพียง 0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ไม่พอใจผลงานรัฐบาล

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ 99.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทย 65 ล้านคน เท่ากับ 61.7 ล้านคน

โอ้แม่เจ้า...ไม่เคยมีนายกฯคนไหน ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนในรอบ 83 ปี ที่มีประชาชนชื่นชมโสมนัสมากมายมหาศาลตั้ง 61.7 ล้านคน

ผลสำรวจออกมาแจ๋วขนาดนี้ เห็นทีจะถอยยากซะแร้วว์โยม

3 ปีน้อยไป ต้องเบิ้ลเพิ่มอีก 3 เทอม.

"แม่ลูกจันทร์"