วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 17, 2558

ประเทศนี้แปลกหนอ...



ตามนั้น
...

ศาลทหารสั่งจำคุก ชญาภา หญิงโพสต์ข่าวรัฐประหารซ้อน และหมิ่นสถาบันฯ 14 ปี 60 เดือน

Tue, 2015-12-15 
ที่มา ประชาไท

จำคุกหญิงผู้ใช้นามแฝงบนเฟซบุ๊กว่า "นินจารัก สีแดง" ข้อหาปล่อยข่าวปฏิวัติซ้อน พ่วงด้วย 112 และ พ.ร.บ.คอมฯ รวม 5 กรรม ลดหย่อนเนื่องจากสารภาพเหลือ 7 ปี 30 เดือน ทนายชี้ศาลตัดสินโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า ไม่มีการแจ้งทนาย จำเลยได้รับการแจ้งล่วงหน้าในคืนก่อนขึ้นศาล

15 ธ.ค. 2558 เวลา 12.30 น. ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ นักกฎหมายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ประชาไทว่า วันนี้ทางศูนย์ทนายความได้รับการติดต่อจาก ชญาภา ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Chanisa Boonyajinda” (นินจารัก สีแดง) ลูกความของศูนย์ทนายความฯ ในคดีการโพสต์ข้อความเรื่องการปฏิวัติซ้อน และการหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่าวันนี้ศาลทหารได้พิพากษาให้จำคุกนางชญาภา 14 ปี 60 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพจึงให้ลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 7 ปี 30 เดือน จากการโพสต์ข้อความที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการกระทำความผิด 5 กรรม

ศศินันท์ นักกฎหมายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเล่าว่า ชณาภามีอาการตื่นกลัวระหว่างการพูดคุย ชญาภาเล่าว่า เธอได้รับการแจ้งว่าเธอต้องเดินทางมาที่ศาลทหารเมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นเวลาก่อนหน้าที่จะต้องมาศาลไม่ถึง 24 ชั่วโมง หรือแม้แต่หมายนัดของศาลชญาภาก็ยังไม่ได้เห็น

ศศินันท์กล่าวต่อว่า กระบวนการพิจารณาในคดีของชญาภาอยู่ในขั้นตอนการนัดสอบคำให้การ เธอเข้าใจว่าด้วยความเครียด ความหวาดกลัวในกระบวนการพิจารณาคดี ประกอบกับการไม่มีญาติมิตร หรือทนายความให้คำปรึกษาในกระบวนการ ทำให้ชญาภา ตัดสินใจรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

นักกฎหมายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตว่า ทนายความเคยพยายามขอคัดถ่ายคำฟ้องจากศาลแล้ว ศาลทหารไม่อนุญาต ต้องทำคำร้องขอคัดถ่ายถึงสองรอบถึงจะได้คำฟ้องมาศึกษา และทนายความได้พยายามสอบถามถึงวันนัดสอบคำให้การ แต่เจ้าหน้าที่จากศาลทหารไม่เคยแจ้งให้ทนายทราบ จนกระทั่งมีการอ่านคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้แจ้งต่อทนายความ

สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ศศินันท์จะเดินทางเพื่อขอเข้าพบชญาภาเพื่อรับทราบรายละเอียดแล้วจึงจะแจ้งให้ทราบเป็นทางการอีกครั้ง โดยในคดีนี้ได้เกิดเหตุขึ้นหลังการยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว จำเลยจึงยังมีโอกาสต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์และฎีกาต่อไป

ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพโดย ไอลอว์ ได้เผยแพร่รายละเอียดคดีนี้ไว้ว่า ชญาภา อายุ 49 อาชีพ พนักงานบัญชี บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่ามีปฏิวัติซ้อนและเนื้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ เจ้าหน้าที่ ตำรวจและทหารจึงบุกเข้าจับกุมที่บ้านโดยไม่มีหมายศาลในตอนแรกพร้อมยึดสิ่งของและข่มขู่ไม่ให้มีทนายความ เธอผ่านการแต่งงานมีบุตรชาย 1 คน อายุ 25 ปี ปัจจุบันแยกกันอยู่กับสามี เธอเป็นโรคความดันโลหิตสูง, ข้อเข่าเสื่อม, และโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

การจับกุมเกิดขึ้นในวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ปอท.และทหาร ได้ใช้อำนาจตาม ม.44 เข้าจับกุมชญาภาที่บ้านโดยไม่มีหมายจับใดๆ มาแสดง ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายทหารราบ 11 และส่งให้ตำรวจในวันที่ 23 มิถุนายน โดยในตอนแรกแจ้งเพียงข้อหาปลุกปั่นยั่วยุให้เกิดความกระด้างกระเดื่องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เท่านั้น ต่อมาภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเฟซบุ๊กจึงแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ แล้วจึงขอหมายจับจากศาลทหารในภายหลัง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง: