http://www.dailynews.co.th/politics/368837
...
ที่มา ประชาไท
Wed, 2015-12-16
16 ธ.ค. 2558 ปราชญ์ ปัญจคุณาธร นักวิชาการอิสระ อดีตอาจารย์ประจำอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนบทความลงใน ‘บล็อกกาซีน ประชาไท’ เสนอให้รัฐบาลพลเรือนหลังการรัฐประหารตั้งศาลพิเศษ (Tribunal) เพื่อไต่สวนคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงย้อนหลังทั้งหมด และเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนรู้เห็นทุกคน ตั้งแต่นายทหาร นายตำรวจ ผู้พิพากษา เนติบริกร และแม้แต่แพทย์ที่อาจมีส่วนร่วมในการบิดเบือนกฎหมาย หรือปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยระบุว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์สิทธิมนุษยชนไทยตกต่ำลง อาทิ ข่าวการจับนักกิจกรรมที่เจ็บป่วยในโรงพยาบาล และต้องการการผ่าตัดไปขังคุกในค่ายทหาร, ข่าวการฟ้องร้องคนแชร์แผนผังโกงอุทยานราชภักดิ์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 ที่ศาลทหาร, ข่าวการฟ้องร้องผู้ต้องสงสัยหมิ่นสุนัขทรงเลี้ยง, กรณีนายพลตำรวจหัวหน้าทีมสืบสวนขบวนการค้ามนุษย์ที่ลี้ภัยไปออสเตรเลีย, กรณีศาลฎีกาเพิ่มโทษจำเลยคดีเผาศาลากลางอุบลราชธานี ทั้งที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 1 ปีเป็นประหารชีวิต รวมถึงกรณีการรายงานสอบสวนการเสียชีวิตของนายอับดุลลายิ ดอเลาะ ใน "ศูนย์ซักถาม" ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ค่ายทหาร ซึ่งระบุว่า "ไม่ทราบสาเหตุการตาย" “
ปราชญ์เสนอว่า รัฐบาลพลเรือนจะต้องตั้ง Tribunal โดยอาจเป็นองค์คณะจากนานาชาติก็ได้เพื่อมาไต่สวนคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงย้อนหลังทั้งหมด และเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนรู้เห็นทุกคน ตั้งแต่นายทหาร นายตำรวจ ผู้พิพากษา เนติบริกร หรือแม้แต่แพทย์ที่อาจมีส่วนร่วมในการบิดเบือนกฎหมายหรือปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
“ผมอยากเห็นการไต่สวนสาธารณะที่คนเหล่านี้ถูกไต่สวนแบบเปิดเผย ถ่ายทอดสดผ่านสื่อไปทั่วประเทศ (เหมือนที่ Truth and Reconciliation Commission ของอัฟริกาใต้เคยทำ) ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนรู้เห็นจริง ผมอยากเห็นคนเหล่านี้ถูกลงโทษ ไม่ว่าคนนั้นจะอายุ 80 หรือ 90 หรือ 95 ...ต่อให้ในที่สุดแล้วคนเหล่านี้จะต้องติดคุกเพียงไม่กี่เดือน แต่ผมก็อยากเห็นคนเหล่านี้ถูกประวัติศาสตร์ตีตราไว้ว่าเป็นอาชญากร ...ผมอยากเห็นหน้าและชื่อของคนเหล่านี้ปรากฏในพิพิธภัณฑ์รำลึกการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่จะสอนลูกหลานถึงความอำมหิตของระบอบเผด็จการที่ใช้อำนาจโดยไม่มีใครตรวจสอบได้ ผมไม่หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดในเร็ววัน แต่ผมจะพยายามผลักดันเท่าที่ทำได้ และหวังว่าผมจะได้เห็นมันเกิดขึ้นก่อนผมตาย” บทความของปราชญ์ระบุ
หลังบทความเผยแพร่ ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา ส่งอีเมลถึงประชาไท แจ้งความจำนง ขอสนับสนุนข้อเสนอของปราชญ์ ปัญจคุณาธร อย่างเปิดเผยและเป็นทางการ
"ผมขอสนับสนุนคุณปราชญ์ ผมเอาด้วย นี่ไม่ใช่ความโกรธเคืองส่วนบุคคล นี่เป็นเรื่องหลักการที่สำคัญมาก” ธงชัย ระบุ
ooo
การเอาผิดย้อนหลัง ต่อผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงในยุค คสช.
ที่มาภาพ Ispace Thailand
ที่มาเรื่อง ประชาไท Blogazine - 8 Dec Blog
16 ธันวาคม, 2015
โดย ปราชญ์ ปัญจคุณาธร
สัปดาห์นี้และสัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์สิทธิมนุษยชนไทยดิ่งลงแบบน่าใจหายนะครับ เราได้เห็นข่าวจับนักกิจกรรมที่ป่วยในโรงพยาบาล กำลังจะผ่าตัด ไปขังคุกในค่ายทหาร, ข่าวฟ้อง 112 และ 116 คนแชร์แผนผังโกงราชภักดิ์ ที่ศาลทหาร, ข่าวฟ้อง 112 ผู้ต้องสงสัยหมิ่นทองแดง
มีข่าว คสช. ขู่นายพลตำรวจหัวหน้าทีมสืบสวนขบวนการค้ามนุษย์ ที่ลี้ภัยไปออสเตรเลียแล้วจะแฉคนที่เกี่ยวข้อง, มีข่าวศาลฎีกาเพิ่มโทษจำเลยคดีเผาศาลากลางเป็นประหารชีวิต (จากเดิมที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 1 ปี)
เมื่อวานก็มีอัพเดทเกี่ยวกับนายอับดุลลายิ ดอเลาะ ที่ถูกทหารจับ แล้วตายใน "ศูนย์ซักถาม" ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ...ล่าสุด กอ.รมน. จัดแถลงร่วมกับแพทย์โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ บอกว่าชันสูตรแล้ว "ไม่ทราบสาเหตุการตาย"
ผมหวังอย่างยิ่งนะครับ ว่าหลังคณะรัฐประหารชุดนี้หมดอำนาจไปแล้ว รัฐบาลพลเรือนจะต้องตั้ง tribunal (อาจเป็นองค์คณะจากนานาชาติก็ได้) ขึ้นมาไต่สวนคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงย้อนหลังทั้งหมด และเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนรู้เห็นทุกคน ตั้งแต่นายทหาร นายตำรวจ ผู้พิพากษา เนติบริกร และแม้แต่แพทย์ ที่อาจมีส่วนร่วมในการบิดเบือนกฎหมาย หรือปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ผมอยากเห็นการไต่สวนสาธารณะ ที่คนเหล่านี้ต้องถูกไต่สวนแบบเปิดเผย ถ่ายทอดสดผ่านสื่อไปทั่วประเทศ (เหมือนที่ Truth and Reconciliation Commission ของอัฟริกาใต้เคยทำ)
ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนรู้เห็นจริง ผมอยากเห็นคนเหล่านี้ถูกลงโทษ ไม่ว่าคนนั้นจะอายุ 80 หรือ 90 หรือ 95 ...ต่อให้ในที่สุดแล้วคนเหล่านี้จะต้องติดคุกเพียงไม่กี่เดือน แต่ผมก็อยากเห็นคนเหล่านี้ถูกประวัติศาสตร์ตีตราไว้ว่าเป็นอาชญากร ...ผมอยากเห็นหน้าและชื่อของคนเหล่านี้ปรากฏในพิพิธภัณฑ์รำลึกการละเมิดสิทธิมนุษยชน ที่จะสอนลูกหลานถึงความอำมหิตของระบอบเผด็จการที่ใช้อำนาจโดยไม่มีใครตรวจสอบได้