อย่าพลาด!! ในบรรยากาศการเมืองเครียดๆ ก็มีเรื่องฮาๆ เมื่อตำรวจขอถ่ายรูปกับ "นิว สิรวิชญ์" โดยบอกว่า "ถ่ายรูปหน่อย นานๆ จ่...
Posted by Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว on Sunday, December 20, 2015
อย่าพลาด!! ในบรรยากาศการเมืองเครียดๆ ก็มีเรื่องฮาๆ เมื่อตำรวจขอถ่ายรูปกับ "นิว สิรวิชญ์" โดยบอกว่า "ถ่ายรูปหน่อย นานๆ จ่านิวคนดังจะมาที!!" ส่วนตำรวจอีกคนร้องเพลงให้ฟัง เมื่อร้องจบได้รับเสียงปรบมือทั้งผู้ถูกกล่าวหาและตำรวจ บอก "ผ่อนคลายความตึงเครียด!!"
(ติดตามคลิปประมวลบรรยากาศบนโรงพัก คลิ๊ก!!
https://www.facebook.com/300084093490011/videos/vb.300084093490011/530092327155852/?type=2&theater )
เหตุการณ์ระหว่าง นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ นิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา เดินทางมาสถานีตำรวจรถไฟธนบุรีเวลา 13.20 น. เพื่อสอบถามถึงหมายเรียกที่ยังไม่ได้รับ หลังจาก น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ หรือ การ์ตูน บัณฑิตจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้รับหมายเรียกแล้ว โดยพบว่าหมายดังกล่าวระบุชื่อสิรวิชญ์ เป็น 1 ใน11 ผู้ถูกออกหมายเรียกด้วยเหตุต้องหามั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ให้มารายงานตัวที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี วันที่ 22 ธันวาคม 2558 จากรณีขึ้นรถไฟโบกี้เดียวกันแต่ไปไม่ถึงอุทยานราชภักดิ์ เพราะถูกควบคุมตัวที่สถานีรถไฟบ้านโป่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2558 โดยวันนี้ (20 ธ.ค.58 )ตำรวจได้ให้นายสิรวิชญ์เซ็นรับหมายแล้ว
"ลุงวิจิตร์"วัย 66 หนึ่งใน11หมายเรียกนั่งรถไฟไปราชภักดิ์ เล็งร้องยูเอ็นถูกละเมิดสิทธิ
วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558
มติชนออนไลน์
จากกรณีพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีรถไฟธนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 11 ราย ในข้อหา มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่3/2558 ข้อ12 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่19ธันวาคม พ.อ.บุรินทร์ เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อมอบหลักฐานเป็นภาพถ่ายขณะทั้ง 11รายร่วมกิจกรรม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายวิจิตร์ หันหาบุญ อายุ 66 ปี หนึ่งในบุคคลที่ถูกออกหมายเรียก เปิดเผยว่า เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนว่ากลุ่มนักศึกษาจะเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 7ธันวาคม และเห็นประกาศผ่านทางสื่อว่าสามารถเดินทางไปร่วมด้วยได้ เมื่อถึงวันที่ 7 ธันวาคมจึงตัดสินใจเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีบางกอกน้อยด้วย โดยเดินทางไปคนเดียว และไม่รู้จักใครมาก่อน สาเหตุที่ไปเพราะเห็นข่าวในสื่อเรื่องการทุจริต โดยนโยบายของรัฐบาลชุดนี้เน้นย้ำปราบการคอรัปชันที่สุด จึงอยากไปดูให้เห็นกับตาว่ามีการทุจริตกันจริงหรือไม่ รวมถึงอยากไปเห็นต้นปาล์มที่เป็นข่าวว่าต้นละ 300,000 บาทด้วย เมื่อไปขึ้นรถไฟ มีโอกาสได้พบกับนักศึกษาจึงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่รับอาสาเป็นมัคคุเทศก์ในการนำทัวร์
นายวิจิตร์ กล่าวต่อว่า เมื่อขบวนรถไปถึงสถานีรถไฟบ้านโป่ง ก็มีทหารและตำรวจขึ้นมาบนโบกี้ และไม่อนุญาตให้เดินทางต่อ ยอมรับว่างง และไม่เข้าใจมากว่าทำไมไม่ให้ไป ในเมื่อตอนแรกบอกว่าไปได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าข้างหน้าจะมีมวลชนมา เกรงว่าจะปะทะและจะตีกัน ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมายืนอยู่นอกโบกี้พร้อมทั้งตะโกนด้วยถ้อยคำว่า "พวกควายแดง" "แน่จริง ึง ลงมา" "ขี้ข้าทักษิณ" รวมทั้งยังให้ของลับพวกตนในโบกี้อีกด้วย ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวจะถูกทำร้ายมาก แต่สิ่งที่สงสัยคือ ทำไมเจ้าหน้าที่จึงขึ้นมาบนโบกี้เพื่อควบคุมตัวพวกตน แต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านข้างล่างตะโกนด่าทอ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย มั่นใจว่าไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปแน่ๆ จะต้องมีคนคอยหนุนหลังหรือสนับสนุนให้ทำในลักษณะนี้แน่ๆ
นายวิจิตร์ กล่าวอีกว่า จากนั้นก็ควบคุมตัวพวกผมขึ้นรถไปไว้ในห้องประชุมของพุทธมณฑลสาย 4 และสอบสวนถึงสาเหตุที่เดินทางมาร่วมกับกลุ่มนักศึกษาครั้งนี้ โดยอธิบายความจริงทั้งหมด จากนั้นให้ตนเซ็นเอกสารห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ตนไม่เซ็นชื่อยินยอมเนื่องจากไม่ผิด และอยากจะถามกลับว่าทำอะไรผิด จึงต้องมากำหนดกฏเกณฑ์ขนาดนี้ โดยวันนั้นถูกควบคุมตัวเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพามาส่งที่บ้าน อย่างไรก็ตามขณะนี้ ได้เขียนจดหมายเป็นภาษาไทยส่งให้ลูกสะใภ้ที่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นจะนำฉบับภาษาอังกฤษส่งต่อไปยังองค์กรสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ว่าถูกละเมิดทั้งที่ไม่มีเหตุอันสมควร
11 คณะส่องราชภักดิ์ ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหา ระบุนัดกระชั้นชิด เผยได้รับหมายเพียง 3 ราย
Tue, 2015-12-22
ประชาไท
11 คณะส่องราชภักดิ์ ขอเลื่อนไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็น 9 ม.ค.59 ให้เหตุผลว่านัดหมายกระชั้นชิด ได้รับหมายเพียง 3 ราย ตร.เตือนหมายเรียก2ครั้ง ไม่มาเจอหมายจับ
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 13.40 น. ที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ 2 ใน 11 ผู้ต้องหาตามหมายเรียกในข้อหา มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่ายฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 13 หลังกิจกรรมนั่งรถไฟไปส่องโกงราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้ลงรายมือชื่อในจดหมายขอเลื่อนการไปรับทราบข้อกล่าวหาที่เพื่อส่งให้ สน. ตำรวจรถไฟ ธนบุรี ที่หมายได้ออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2558
โดยในจดหมายได้ขอเลื่อนเวลาจากกำหนดนัดเดิมคือ ในวันที่ 22 ธ.ค. 2558 เป็นวันที่ 9 ม.ค. 59 เวลา 14.00 น. ซึ่งระบุเหตุผลว่า มีการนัดหมายกระชั้นชิด และผู้ต้องหาอีกหลายคนติดนัดหมายสำคัญที่กำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนได้รับหมายเรียกครั้งนี้ โดยล่าสุดผู้ถูกออกหมายเรียกกำลังทะยอยเดินทางมา โดยเมื่อลงชื่อครบถ้วนจะได้มอบหมายให้ทนายความนำหนังสือไปเลื่อนยัง สน. รถไฟ ต่อไป
วิจิตร์ หันหาบุญ ผู้ต้องหารายที่ 11 ได้กล่าวว่ายังไม่ได้รับหมายเรียกไปยังที่อยู่ แต่ได้เดินทางมาวันนี้มาเพื่อลงชื่อร่วมเพื่อขอเลื่อนไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่น
ในกรณีผู้ถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ ได้รับรายงานว่า นายหนึ่ง เกตุสกุล 1 ใน 11 ผู้ต้องหา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปแล้ว ขณะที่นายธเนตร อนันตวงษ์ หรือ ตูน อีก 1 ใน 11 ผู้ต้องหาได้ส่งข้อความมายังเพื่อนในกลุ่มโดยแจ้งว่าได้มีทหารสองคนไปตามตัวและขอให้ๆ ปากคำยังที่พักที่ๆ นายธเนตรพักอยู่ หลังจากนั้นเพื่อนพยายามที่จะโทรติดต่อนายธเนตร แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากโทรศัพท์ของนายธเนตร
จากนั้นเวลา 14.10 น. นายธเนตร อนันตวงษ์ ได้เดินทางมาที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดังกล่าว เป็นที่เรียบร้อยโดย และได้แจ้งว่ามีทหารนัดหมายว่าจะมาหาจริง จึงรีบออกเดินทางจากที่พักมาก่อน
ทั้งนี้นายธเนตรเป็นอีกรายที่ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งตามหมายเรียกได้มีกำหนดนัดในวันพรุ่งนี้แล้ว
เตือนหมายเรียก2ครั้ง นศ.ตรวจอุทยานไม่มาเจอหมายจับ
ขณะที่วันเดียวกัน (21 ธ.ค.58) สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียก 11 นักศึกษาดังกล่าว โดย พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ ได้ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี หากพยานหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะแจ้งข้อหา และหากบุคค
ลใดไม่มาพบตามนัด ก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง และหากยังไม่มาอีกก็ออกหมายจับทันที ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนการแจ้งข้อหาโครงการอุทยานราชภักดิ์ จนขณะนี้ยังไม่มีผู้มาแจ้งความ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการประวิงเวลาในเรื่องนี้
เหตุการณ์ระหว่าง นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ นิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา เดินทางมาสถานีตำรวจรถไฟธนบุรีเวลา 13.20 น. เพื่อสอบถามถึงหมายเรียกที่ยังไม่ได้รับ หลังจาก น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ หรือ การ์ตูน บัณฑิตจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้รับหมายเรียกแล้ว โดยพบว่าหมายดังกล่าวระบุชื่อสิรวิชญ์ เป็น 1 ใน11 ผู้ถูกออกหมายเรียกด้วยเหตุต้องหามั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ให้มารายงานตัวที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี วันที่ 22 ธันวาคม 2558 จากรณีขึ้นรถไฟโบกี้เดียวกันแต่ไปไม่ถึงอุทยานราชภักดิ์ เพราะถูกควบคุมตัวที่สถานีรถไฟบ้านโป่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2558 โดยวันนี้ (20 ธ.ค.58 )ตำรวจได้ให้นายสิรวิชญ์เซ็นรับหมายแล้ว
Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว
ooo
"ลุงวิจิตร์"วัย 66 หนึ่งใน11หมายเรียกนั่งรถไฟไปราชภักดิ์ เล็งร้องยูเอ็นถูกละเมิดสิทธิ
วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558
มติชนออนไลน์
จากกรณีพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีรถไฟธนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 11 ราย ในข้อหา มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่3/2558 ข้อ12 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่19ธันวาคม พ.อ.บุรินทร์ เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งเพื่อมอบหลักฐานเป็นภาพถ่ายขณะทั้ง 11รายร่วมกิจกรรม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายวิจิตร์ หันหาบุญ อายุ 66 ปี หนึ่งในบุคคลที่ถูกออกหมายเรียก เปิดเผยว่า เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนว่ากลุ่มนักศึกษาจะเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 7ธันวาคม และเห็นประกาศผ่านทางสื่อว่าสามารถเดินทางไปร่วมด้วยได้ เมื่อถึงวันที่ 7 ธันวาคมจึงตัดสินใจเดินทางไปขึ้นรถไฟที่สถานีบางกอกน้อยด้วย โดยเดินทางไปคนเดียว และไม่รู้จักใครมาก่อน สาเหตุที่ไปเพราะเห็นข่าวในสื่อเรื่องการทุจริต โดยนโยบายของรัฐบาลชุดนี้เน้นย้ำปราบการคอรัปชันที่สุด จึงอยากไปดูให้เห็นกับตาว่ามีการทุจริตกันจริงหรือไม่ รวมถึงอยากไปเห็นต้นปาล์มที่เป็นข่าวว่าต้นละ 300,000 บาทด้วย เมื่อไปขึ้นรถไฟ มีโอกาสได้พบกับนักศึกษาจึงพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยหนึ่งในนั้นคือนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่รับอาสาเป็นมัคคุเทศก์ในการนำทัวร์
นายวิจิตร์ กล่าวต่อว่า เมื่อขบวนรถไปถึงสถานีรถไฟบ้านโป่ง ก็มีทหารและตำรวจขึ้นมาบนโบกี้ และไม่อนุญาตให้เดินทางต่อ ยอมรับว่างง และไม่เข้าใจมากว่าทำไมไม่ให้ไป ในเมื่อตอนแรกบอกว่าไปได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าข้างหน้าจะมีมวลชนมา เกรงว่าจะปะทะและจะตีกัน ขณะเดียวกันมีชาวบ้านมายืนอยู่นอกโบกี้พร้อมทั้งตะโกนด้วยถ้อยคำว่า "พวกควายแดง" "แน่จริง ึง ลงมา" "ขี้ข้าทักษิณ" รวมทั้งยังให้ของลับพวกตนในโบกี้อีกด้วย ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวจะถูกทำร้ายมาก แต่สิ่งที่สงสัยคือ ทำไมเจ้าหน้าที่จึงขึ้นมาบนโบกี้เพื่อควบคุมตัวพวกตน แต่กลับปล่อยให้ชาวบ้านข้างล่างตะโกนด่าทอ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย มั่นใจว่าไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปแน่ๆ จะต้องมีคนคอยหนุนหลังหรือสนับสนุนให้ทำในลักษณะนี้แน่ๆ
นายวิจิตร์ กล่าวอีกว่า จากนั้นก็ควบคุมตัวพวกผมขึ้นรถไปไว้ในห้องประชุมของพุทธมณฑลสาย 4 และสอบสวนถึงสาเหตุที่เดินทางมาร่วมกับกลุ่มนักศึกษาครั้งนี้ โดยอธิบายความจริงทั้งหมด จากนั้นให้ตนเซ็นเอกสารห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตและห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง ตนไม่เซ็นชื่อยินยอมเนื่องจากไม่ผิด และอยากจะถามกลับว่าทำอะไรผิด จึงต้องมากำหนดกฏเกณฑ์ขนาดนี้ โดยวันนั้นถูกควบคุมตัวเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพามาส่งที่บ้าน อย่างไรก็ตามขณะนี้ ได้เขียนจดหมายเป็นภาษาไทยส่งให้ลูกสะใภ้ที่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อแปลเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นจะนำฉบับภาษาอังกฤษส่งต่อไปยังองค์กรสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ ว่าถูกละเมิดทั้งที่ไม่มีเหตุอันสมควร
ooo
11 คณะส่องราชภักดิ์ ขอเลื่อนรับทราบข้อกล่าวหา ระบุนัดกระชั้นชิด เผยได้รับหมายเพียง 3 ราย
Tue, 2015-12-22
ประชาไท
11 คณะส่องราชภักดิ์ ขอเลื่อนไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็น 9 ม.ค.59 ให้เหตุผลว่านัดหมายกระชั้นชิด ได้รับหมายเพียง 3 ราย ตร.เตือนหมายเรียก2ครั้ง ไม่มาเจอหมายจับ
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 13.40 น. ที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ 2 ใน 11 ผู้ต้องหาตามหมายเรียกในข้อหา มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่ายฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 13 หลังกิจกรรมนั่งรถไฟไปส่องโกงราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้ลงรายมือชื่อในจดหมายขอเลื่อนการไปรับทราบข้อกล่าวหาที่เพื่อส่งให้ สน. ตำรวจรถไฟ ธนบุรี ที่หมายได้ออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2558
สิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และ ชนกนันท์ ร่วมทรัพย์ 2 ใน 11 ผู้ต้องหา |
โดยในจดหมายได้ขอเลื่อนเวลาจากกำหนดนัดเดิมคือ ในวันที่ 22 ธ.ค. 2558 เป็นวันที่ 9 ม.ค. 59 เวลา 14.00 น. ซึ่งระบุเหตุผลว่า มีการนัดหมายกระชั้นชิด และผู้ต้องหาอีกหลายคนติดนัดหมายสำคัญที่กำหนดไว้ล่วงหน้าก่อนได้รับหมายเรียกครั้งนี้ โดยล่าสุดผู้ถูกออกหมายเรียกกำลังทะยอยเดินทางมา โดยเมื่อลงชื่อครบถ้วนจะได้มอบหมายให้ทนายความนำหนังสือไปเลื่อนยัง สน. รถไฟ ต่อไป
วิจิตร์ หันหาบุญ ผู้ต้องหารายที่ 11 ได้กล่าวว่ายังไม่ได้รับหมายเรียกไปยังที่อยู่ แต่ได้เดินทางมาวันนี้มาเพื่อลงชื่อร่วมเพื่อขอเลื่อนไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่น
ในกรณีผู้ถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ ได้รับรายงานว่า นายหนึ่ง เกตุสกุล 1 ใน 11 ผู้ต้องหา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปแล้ว ขณะที่นายธเนตร อนันตวงษ์ หรือ ตูน อีก 1 ใน 11 ผู้ต้องหาได้ส่งข้อความมายังเพื่อนในกลุ่มโดยแจ้งว่าได้มีทหารสองคนไปตามตัวและขอให้ๆ ปากคำยังที่พักที่ๆ นายธเนตรพักอยู่ หลังจากนั้นเพื่อนพยายามที่จะโทรติดต่อนายธเนตร แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากโทรศัพท์ของนายธเนตร
จากนั้นเวลา 14.10 น. นายธเนตร อนันตวงษ์ ได้เดินทางมาที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ดังกล่าว เป็นที่เรียบร้อยโดย และได้แจ้งว่ามีทหารนัดหมายว่าจะมาหาจริง จึงรีบออกเดินทางจากที่พักมาก่อน
ทั้งนี้นายธเนตรเป็นอีกรายที่ยังไม่ได้รับหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งตามหมายเรียกได้มีกำหนดนัดในวันพรุ่งนี้แล้ว
เตือนหมายเรียก2ครั้ง นศ.ตรวจอุทยานไม่มาเจอหมายจับ
ขณะที่วันเดียวกัน (21 ธ.ค.58) สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกหมายเรียก 11 นักศึกษาดังกล่าว โดย พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ ได้ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี หากพยานหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะแจ้งข้อหา และหากบุคค
ลใดไม่มาพบตามนัด ก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง และหากยังไม่มาอีกก็ออกหมายจับทันที ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนการแจ้งข้อหาโครงการอุทยานราชภักดิ์ จนขณะนี้ยังไม่มีผู้มาแจ้งความ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการประวิงเวลาในเรื่องนี้