วันพุธ, ธันวาคม 30, 2558

In Thailand, the "Good People" are never Guilty....




ค่ำนี้กรุงเทพฯคงหงอยลงไปไม่หน่อยนักละ คาดว่าคนจะไปแน่นตามสถานีขนส่ง เพื่อเดินทางออกต่างจังหวัดกัน

เสียท่า ผู้ว่าฯ จัดอุโมงค์ไฟแอลอีดีไว้อย่างมโหฬาร ให้ได้ “เห็นครั้งหนึ่งในชีวิต” ก็คงต้องอด

นัยว่าใช้หลอดไฟตั้ง ๕ ล้านดวง เฉือนขาดการประดับไฟของเบลเยี่ยมที่มีแค่ ๕ หมื่น ๕ พัน

“มันอาจคุ้มค่าเกินที่ตัวเงินจะบ่งบอกได้” หม่อมสุขุมพันธุ์ บริพัตร พูดจริงๆ นะ ไม่ได้คุย




ตัวเงินเบาะๆ ของทั่น ๓๙.๕ ล้านบาท ที่ กทม. ใจป้ำงัดมาจากงบประมาณฉุกเฉิน

เป็นค่าออกแบบ จัดการ จัดแสดง ประชาสัมพันธ์ และอะไรต่ออะไรจุกๆ จิกๆ รวมถึงค่าขนย้ายของออกเมื่อครบกำหนดแสดง ๑ เดือน รวมแล้วราวสิบล้าน




ส่วนค่าประกอบติดตั้งแผงไฟทั้งหลายทั้งปวง ให้เกิดไฟฉลองปีใหม่ state of the arts พระนครหลวงไทย เมืองฟ้าอมร ไม่ถูกนะ ๒๙.๕ ล้าน

“จะเห็นว่า ๓๙.๕ ล้าน ไม่ใช่ค่าซื้อไฟ แต่เป็นค่าออกแบบ ตกแต่ง ประดับ ติดตั้งแผงวงจร และอีเว้นท์ เสร็จโชว์แล้วก็มีค่ารื้อถอน เก็บคืน เป็นเหมือนการเช่ามาโชว์เท่านั้น” ผู้สื่อข่าวพีพีทีวีรายงาน

(http://hilight.kapook.com/view/130985)

ถึงตอนนี้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทำการตรวจสอบความมิชอบ การใช้งบประมาณ ๓๙ ล้านบาท จัดแสดงนิทรรศการไฟ ‘กรุงเทพฯแสงสีแห่งความสุข’ พบว่า

มี “ข้อพิรุธ ๓ ประการ คือการใช้งบประมาณผิดวัตถุประสงค์ การเร่งรัดดำเนินโครงการผิดวิสัย และลักษณะสัญญาเป็นการเช่าโชว์ไม่ใช่การจัดซื้อ”

(http://news.voicetv.co.th/thailand/304941.html)

ไม่รู้นะ ใครจะว่าอย่างไร ถึงยังไงทั่นก็เป็นผู้ว่าฯ จากพรรค ปชป. ที่คนกรุงเทพฯ เลือกกันมาตั้งสองสมัย

สำหรับที่ กฤษฎา กอนซาเลส เปรยเอาไว้ ต้องเก็บไปคิดกันเอาเอง

ดูแต่อดีตนายกฯ ‘หล่อใหญ่’ จากพรรค ปชป. เหมือนกัน ใครจะว่ามือเปื้อนเลือดหรืออย่างใด จากการสั่งสลายชุมนุม นปช. เมื่อปี ๕๓ แต่คณะกรรมการ ปปช. อรหันต์ทั้งเจ็ดก็ยังฟันธงว่า “มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป”




เนื่องจาก “ยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) กับพวก ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการดำเนินการในเรื่อง(สั่งสลายชุมนุม) ดังกล่าว โดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือเป็นผู้ก่อหรือใช้ให้มีการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผลแต่อย่างใด”

(http://www.khaosodonline.com/view_newsonline.php…)

“ส่วนเรื่องที่มีมติส่งไปให้ดีเอสไอสอบสวนต่อนั้น คือกรณีที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในที่เกิดเหตุ เพื่อให้ดีเอสไอสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีที่ทำให้มีการตายเกิดขึ้น หรือการฆ่าคนตายที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ยิง

ถือเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ไม่เกี่ยวข้องกับผู้สั่งการแต่อย่างใด”

ทั้งนี้ด้วยเหตุผลว่า “เป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้อาวุธปืนตามแนวทางดังกล่าวข้างต้น ตามความจำเป็นและพอสมควรแก่เหตุ อันเป็นภาระที่หนักและยากอย่างยิ่งในการปฏิบัติ

แต่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติไม่อาจหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบดังกล่าวได้”

สรุปว่างานนี้พวกคนสั่งการและบังคับบัญชา ‘ลอยตัว’ แล้วพวกพ่อยอดชาย ปปช. บอกให้ดีเอสไอไปไล่เบี้ยเอากับทหารผู้น้อยที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ใช้กระสุนจริงบ้าง สไน้เปอร์บ้าง จนบรรดาผู้ชุมนุมและอาสาสมัครพยาบาล เกิดการตื่นตระหนกสับสน วิ่งหัวชนกระสุนตายกันเป็นเบือ

ไอ้ที่มีคนพูดทีเล่นทีจริงไว้ว่า ปชป. กับ ปชช. ตัวย่อคล้ายกัน เมื่อเกิดเรื่องเสียหาย มีอันต้องหลุดทุกครั้งไป เห็นท่าจะจริงมากกว่าเล่น

เรื่องเสียหายล่าสุดของ ปชป. กรณีว่าที่ผู้สมัครของพรรคคนหนึ่ง ซึ่งเป็น ‘ตัวเอ้’ ของขบวนเป่านกหวีดปิดกรุงเทพฯ กำจัดชินวัตร อีกหนึ่งคนดีที่ ‘ดีแตก’ กลายเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ไปเสียฉิบ




“รวบ ดร.พรรคดัง ซุกยาบ้า ๖ พันเม็ดในกล่องของขวัญ จ่อส่งลูกค้าขอนแก่น” ข่าวพาดหัวไทยรัฐเพิ่งออกมาเมื่อวันวาน แต่มีแพร่หลายออนไลน์สองสามวันแล้วเพราะเหตุเกิดวันที่ ๒๔ ธันวาคม

แล้วก็ไทยรัฐแค่บอก ‘พรรคดัง’ ด้วยความเกรงใจไม่เกรงกลัว มั้ง

เรื่องมีอยู่ว่าสาวใหญ่วัย ๕๑ นามพลอยเพ็ญ พิมพ์เกษ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี prefix หน้าชื่อว่า ดร. (ตัวย่อของ ดอกเต้อ) ขับรถซีอาร์วีสีขาวไปรับนายฉลอง ยอดขำ ที่สนามบินอุดรแล้วพากันไปยังหลักกิโลเมตรในพื้นที่บึงกาฬเพื่อเก็บห่อของขวัญที่ชาวลาวเอาไปวางไว้ใส่ท้ายรถ

จากนั้นรถซีอาร์วีมุ่งหน้าไปขอนแก่นแต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดักสกัดกลางทาง เปิดกล่องของขวัญท้ายรถของดอกเต้อพลอยเพ็ญพบยาบ้าเกือบ ๖ พันเม็ด

“นายฉลองบอกว่ามีอาชีพขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ แต่นางพลอยเพ็ญโทรศัพท์เรียกให้มาช่วยขับรถส่งยาบ้า ๔ ครั้ง ได้ส่วนแบ่งครั้งละ ๑๕,๐๐๐ บาท เห็นว่ารายได้ดีกว่าขับรถจึงรับทำ”

“เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาทั้ง ๒ คนพนักงานสอบสวน ส่งฟ้องศาลเรียบร้อยแล้ว”

(http://www.thairath.co.th/content/555421)

ข่าวไม่ได้บอกดอกเต้อให้การอย่างไร แต่ก็ไม่เป็นไร จะได้ไม่มีครหาผู้ต้องหารู้ช่องรอด เผื่อบางทีเธอหลุดคดีอีกคน เพราะกระบวนตุลาการไทยก็คนดีๆ ด้วยกันทั้งนั้น

เหมือนดั่งที่ Kris Koles @KrisKoles Retweeted Piriyathep K อย่างนั้น

12m12 minutes ago
In Thailand, the "Good People" are never Guilty....that's why they are called "Good"..."Thainess 101"..