วันจันทร์, พฤศจิกายน 02, 2558

แหม่ ไอ้การตีรวนจะล้วงกระเป๋ายิ่งลักษณ์นี่มันชักจะไม่ ‘เมกเซ้นส์’ ซะแล้วสิ จะเอาโพลมาดันก็คงไม่ทันการ เมื่อวันก่อนชาวกรุงเอาดอกไม้ไปให้กำลังใจเธอตรึม




วันนี้ ‘ลมกรด ไทยรัฐ’ พูดเรื่อง ‘หุ้นฟุบ’ ใช้เวลาสองวันถึงจะค่อยๆ เริ่มฟื้น

เขาย้อนไปถึงเรื่องเมื่อสองวันก่อน “วันนั้นตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง ๑๔.๗๙ จุด ถัดมาวันพฤหัสฯตลาดหุ้นลบอีก ๑๙.๒๒ จุด ทั้งยังดิ่งลงทะลุแนวรับ ๑,๔๐๐ จุด” เหตุเพราะ

“แม้มีความกังวลเกี่ยวกับธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาเป็นปัจจัยผสมโรง แต่เหตุที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นคงเป็นเพราะคำพูดของบิ๊กตู่มากกว่า”

(http://www2.thairath.co.th/content/536285)

หัวหน้า คสช. พูดว่าไร เป็นที่รู้ๆ กันแล้ว แม้แต่โพล ‘สวน....ดุสิต’ ยังให้แต้มตั้ง ๕๕.๐๗ สำหรับเรื่องที่พูด

“หากบ้านเมืองยังไม่สงบ ต้องอยู่ต่อ แม้จะต้องปิดประเทศก็ตาม” นั่นไง

โพลเขาอ้าง “เพราะนายกฯ เป็นคนพูดจริงทำจริง น่าจะดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยได้ อาจเป็นทางออกที่ดี ยังไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ถ้ายังมีความขัดแย้งประเทศก็เดินหน้าไม่ได้”

(http://www.thairath.co.th/content/536260…)

ที่ลมกรดบอกว่า “บางคนอาจคิดว่ากลอนพาไป หรืออารมณ์ถึงจุด แต่ผมคิดว่า ‘เป็นความตั้งใจ’ ของบิ๊กตู่ที่พูดประโยคนี้ออกมา” จึงใช่เลย

“ถึงแม้เป็นแค่คำขู่ ยังไม่ปิดจริง แต่ก็ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่เหลือน้อยอยู่แล้วยิ่งหมดไป แค่ที่โดนแซงก์ชั่นทุกวันนี้ก็หนักหนาอยู่แล้ว”

ลมกรดยังได้สาธยายผลกระทบต่างๆ นานา “คู่ค้าอาจตัดสินใจลดความเสี่ยงโดยเปลี่ยนไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศอื่น” และ

“อย่าได้คิดเชียวว่าต่างประเทศจะคิดว่าสิ่งที่บิ๊กตู่พูดนั้นเป็นการพูดเล่น เพราะในยุค คสช.ไทยปฏิบัติตัวสวนกระแสโลกมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพ”

แล้วไง วันเดียวกันที่ทั่นไม่รู้จักรูด หลุดออกมานั่นละ แบ๊งค์ชาติมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจแบบ ‘ค่อยเป็นค่อยไป’ ของไทย

ว่า ‘ฟื้นตัวอย่างช้าๆ’ ‘กระเตื้องขึ้นเล็กน้อย’ ‘ติดลบน้อยลง’ ‘ขาดดุล’ และ ‘อ่อนค่า’ ล้วนแล้วแต่อยู่ในลักษณะ ‘สบายๆ ไทยแท้’ ทั้งนั้น

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า

“ในไตรมาส ๓ เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากไตรมาสก่อน ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย...

การส่งออกสินค้าของไทยในเดือนกย.ที่ผ่านมาหดตัว ๕.๔%...การส่งออกสินค้าเกษตรหดตัวตามการส่งออกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากอุปสงค์โลกชะลอตัว

ประกอบกับราคาข้าวไทยยังอยู่ในระดับสูงกว่าเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ”

อ้าว เวียตนามเคยเป็นลูกค้าซื้อข้าวไทย เดี๋ยวนี้กลายเป็นผู้ผลิตขาย คู่แข่งสำคัญ

“การนำเข้าของไทยในเดือนกันยายน หดตัว ๒๑.๓% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกเมื่อปี ๒๕๕๒”

ทั้งนี้ “สะท้อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวช้าและการส่งออกที่ซบเซา”

แต่ดุลการค้าได้เปรียบนะ ส่งออกมากกว่านำเข้า ๔ พันล้านดอลลาร์ ทว่า “ดุลบริการ รายได้ และเงินโอน” ขาดไป ๒,๔๐๐ ล้านดอลลาร์ เพราะเหตุไร

เพราะเกิดจากการ “ส่งกลับกำไรและเงินปันผลของบริษัทต่างชาติในไทย และรายรับจากการท่องเที่ยวที่ลดลงเป็นสำคัญ” เอ๊า อย่างนี้เลยไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“นางรุ่งกล่าวต่อว่า ในช่วงไตรมาส ๓/๒๕๕๘ เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลัก...โดยเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ๗% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสก่อน”

(http://www.ryt9.com/s/nnd/2286656)

รวมความว่ายังไม่มีอะไรดีเท่าไหร่ ค่อยเป็นค่อยไปอย่างทั่นว่า ขอแต่ให้ ‘ทรง’ ต่อเนื่อง อย่าได้ ‘ทรุด’ แล้วกัน นี่ถ้าได้ห้าแสนล้านจากยิ่งลักษณ์ คงพอไปโปะค่าขีปนาวุธที่สั่งจากอเมริกาได้บ้าง (อันนี้ทั่นไม่ได้พูด แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าทั่นไม่ได้คิด)




แหม่ แต่ไอ้การตีรวนจะล้วงกระเป๋ายิ่งลักษณ์นี่มันชักจะไม่ ‘เมกเซ้นส์’ ซะแล้วสิ จะเอาโพลมาดันก็คงไม่ทันการ เมื่อวันก่อนชาวกรุงเอาดอกไม้ไปให้กำลังใจเธอตรึม

ข้อโต้แย้งที่เป็นเรื่องเป็นราว ต่อข้อกล่าวหาลมๆ แล้งๆ คราวก่อน กิตติรัตน์ ณ ระนอง แจ้งไว้แล้ว คราวนี้ บุญทรง เตริยาภิรมณ์ ออกมาแจงบ้าง

(https://www.facebook.com/BoonSongTOfficial/photos/a.418408091697230.1073741828.413081492229890/418408058363900/?type=3)

ข้อกล่าวหารัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐน่าสงสัยจะ (fishy) ‘เหม็นคาว’ เขาตอบว่า GSSG และ Hainan ผู้ซื้อนั้น

“มีฐานะเป็นรัฐเช่นเดียวกันกับอีกสองรัฐวิสาหกิจในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และอยู่ในเครือเดียวกันกับรัฐวิสาหกิจที่มาซื้อยางสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์”

“วิธีการที่บริษัท Guangxi เสนอขอซื้อมันจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์และวิธีการที่บริษัท China Hainan เสนอซื้อยางจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่ต้นจนจบทำโดยวิธีเดียวกันกับที่ GSSG และ Hainan ขอซื้อข้าวจากรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์

ไม่เหมือนกันเพียงอย่างเดียวคือการซื้อขายของทั้งสองรัฐบาลไม่ถูก ป.ป.ช. กล่าวหาว่ามีการสมยอมเรื่องราคา แต่ผมถูกกล่าวหาครับ”

ยังมีอีก “ข้อโจมตีที่ว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวหรือระบายในราคาที่ต่ำกว่าทุน ทำให้ประเทศขาดทุนมหาศาลนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงข้าวเป็นสินค้าที่เสื่อมสภาพตลอดเวลา




การขายข้าวหรือสินค้าเกษตรได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่รับจำนำจากเกษตรกรจึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์หรือรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็ขายได้ต่ำกว่าราคาทุนเช่นกัน”

ตกลงงาน ‘ฟันยิ่งลักษณ์’ นี่ฝีมือ ปปช. หรือ ปชป. กันแน่




“จนท้ายที่สุดเมื่อหัวหน้า คสช. ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ ๓๙/๒๕๕๘ คุ้มครองทุกคนและทุกองค์กรที่ถูกใช้ให้มาจัดการในเรื่องนี้ คือหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า

โครงการรับจำนำข้าวถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายล้างนายกฯยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย โดยไม่ต้องคำนึงถึงวิธีการ ความถูกต้อง และไม่มีความเป็นธรรมใดๆ”

อ่า เรื่องก่อน ‘ปิดประเทศ’ นั่นทั่นภู่นัมให้พี่ป้อมมาแก้ต่างแทน เรื่องนี้ที่บุญทรงเขาแจงจะแจ้งยิบยับ ทั่นจะให้ใครมาแก้ตัวแทนดีล่ะ

เลือกได้ระหว่างน้องม้าร์คกับพี่วิชา คนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองเลยมั้ย ล้วนใช้สีข้างเก่งด้วยกันทั้งคู่