วันจันทร์, ธันวาคม 11, 2566

ผู้บริหาร Voice (ที่ตอนนี้ก็ยังอยู่) เล่าว่าทหารยศพลเอกขู่ “ผมจะเผาสถานีคุณเมื่อไหร่ก็ได้” อย่าไปลดทอนความเลวร้ายของรัฐประหารเพียงเพราะตอนนี้เพื่อไทยข้ามขั้ว




Tawan Ten
1d
·
ตอนแรกก็คิดว่าจะเขียนอะไรเพิ่มเติม แต่อ่านอย่างละเอียดแล้ว ไม่ขอเพิ่มอะไร ในฐานะอดีตผอ.สถานีฯ+ผอ.ข่าว ยืนยันความถูกต้องข้อเท็จจริงที่ช่อชี้แจง
และเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า “เสรีภาพสื่อ” คือหนึ่งในหัวใจสำคัญการขับเคลื่อนระบอบประชาธิปไตย
การส่งทหารพร้อมอาวุธ ประจำการในสถานีโทรทัศน์ คือ การคุกคามสื่อที่ไม่ควรให้อภัย หรือมองเป็นเรื่องปกติตามธรรมเนียมรัฐประหาร
เราหลายคนอาจยอมจำนนด้วยอาวุธในช่วงแรก แต่เราทุกคนไม่ควรยอมจำนนตลอดไป
ให้กำลังใจ “ช่อ พรรณิการ์” เธอเข้มแข็งด้วยจุดยืนที่มั่นคง และสง่างามด้วยจิตใจที่รักประชาธิปไตย ไม่ว่าอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ หรือที่พรรคการเมือง


Tawan Ten
1d
·
ขอเพิ่มเติมข้อมูลว่าด้วยวอยซ์ทีวีช่วงรัฐประหาร 57 ในมุมมองของผม เพื่อให้เห็นภาพสถานการณ์คุกคามสื่อที่ชัดเจนขึ้น
จริงๆเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปแค่ 9 ปีกว่าเอง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรายละเอียดที่สำคัญบางแง่มุม บางคนในวอยซ์ทีวีถึงเห็นต่างกัน
ถ้ายืนอยู่บนหลักการความเป็นสื่อ ไม่มีเหตุผลใดๆที่เราควรลดทอนความรุนแรงจากการทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
https://www.the101.world/prateep-kongsib-interview/
.....
Tawan Ten
7h·

ขอพูดเรื่องสถานการณ์วอยซ์ทีวีช่วงรัฐประหารอีกโพสต์เดียว
เพราะมีบางคนตั้งคำถามกับผมว่า ทำไมวันที่ทหารสั่งห้าม “วอยซ์ทีวี”จัดรายการวิเคราะห์การเมือง ถึงไม่ยืนหยัดหลักการเสรีภาพสื่อ จะมายืนหยัดอะไรกันวันนี้
ผมขอตอบด้วยการถามกลับว่า ในวันที่เสียงปืนดังกว่าเสียงกฎหมาย หากคุณเป็นผู้บริหาร ระหว่างการยอม “กลัว”ชั่วคราว เพื่อรักษาองค์กร+งานของเพื่อนพนักงานอีกกว่า 300 ชีวิต
กับการยืนหยัดสู้ แล้วสูญเสียหลายอย่าง(หรืออาจจะทุกอย่าง) คุณจะตัดสินใจอย่างไร
และขอทิ้งท้ายประเด็นนี้ด้วยประโยคที่เคยโพสต์ไปแล้ว
เราหลายคนอาจยอมจำนนด้วยอาวุธในช่วงแรกๆ
แต่เราทุกคนไม่ควรยอมจำนนตลอดไป