วันจันทร์, พฤศจิกายน 02, 2563

'สิริวัณวลี' ทรงพระ ‘feisty’ น่าดู ส่วน ‘สมีอิสระ’ ไถดะอย่างเดิม :บรรยากาศจงรักภักดี "blind devotion" หน้าวังหลวง


‘Kudo’ โอ้โฮ ราชบุตรีองค์เล็กของในหลวง ร.๑๐ นี่ทรงพระ ‘feisty’ น่าดู เขียนเป็นไทยอย่างบ้านๆ ได้อารมณ์ว่าจัดๆ จ้านๆ เชียวละ จากเหตุเมื่อคืนหลังจาก จอนาธาน มิลเลอร์ สัมภาษณ์พระเจ้าอยู่หัวกลางลานหน้าวังหลวง

มิลเลอร์ดักทางถูกเป๋ง เข้าไปยืนรออยู่หลัง สมีสุวิทย์อิสระผู้ที่พระองค์ท่านต้องแวะทักทายแน่นอน พอเสด็จถึงตรงหน้า จอนาธานเปิดฉาก “Your majesty, Sir, these people love you แล้วพระองค์จะว่าอย่างไรกับผู้ประท้วงบนท้องถนน ซึ่งต้องการการปฏิรูป”

ทรงเงี่ยฟังแล้วมีดำรัส “I have no comment.” แล้วทรงต่อด้วยประโยคสั้นๆ แต่ทรงดำรัสซ้ำๆ สามครั้ง “เรารักทุกคนเหมือนกันหมด” จอนาธานไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เสี้ยววินาฑี ยิงคำถามต่อทันที “Is there any room for compromise, Sir?

คำถามก็คือ “จะมีช่องว่างให้กับการประนีประนอมบ้างไหม” ทรงตอบอีกครั้ง “Thailand is the land of compromise.” แล้วเสด็จผละไป ไม่ถึงนาฑีทรงดึงพระองค์เจ้าสิริวัณวลีเข้าไปดำรัสอะไรบางอย่าง จากนั้นพระเจ้าลูกยาเธอเสด็จย้อนกลับมาหานักข่าวฝรั่ง

We love Thai people, no matter what. And this country is peaceful.” แปลเป็นไทยคงได้ว่า “เรารักประชาชนไทย ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร และประเทศนี้มีสันติสุข” (ทรงเน้น) “I love this. I’m very happy. This is a real LOVE as you can see.

ประโยคท้ายนี่ทรงเน้นหนักแน่นยิ่งขึ้น แล้วลงท้ายว่า “Alright” ก่อนเสด็จผละไป คำหลังนี่ปกติเป็นเพียงสร้อยที่ฝรั่งใช้กัน แต่จะมีความหมายมากกว่าคำวิเศษณ์ธรรมดา หากมีภาษากายประกอบ ในที่นี้อาจอธิบายด้วยคำไทยบ้านๆ ว่า “จบนะ” หรือ “เข้าใจนะ”

จอนาธานเสนอรายงานของเขาเป็น ‘exclusive’ สองแห่งเดียวที่เขาสังกัดคือ Channel 4 (UK) และ CNN ซึ่งทางซีเอ็นเอ็นเสนอเนื้อข่าวประกอบคลิป ค่อนข้างละเอียด เว้นแต่บางตอนมีลักษณะ ‘misleading’ ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิด

“นักกิจกรรมสองคนถูกจับกุมในข้อหาพยายามกระทำการรุนแรงต่อพระราชินี (และเจอกับระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต) หลังจากที่ขบวนเสด็จของพระองค์ถูกขัดขวางโดยฝูงชนที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล” นี่เป็นข้ออ้างของทางการที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้โต้แย้งไว้แล้ว

อย่างไรก็ดีการเสด็จออกเพื่อให้ประชาชนที่จงรักภักดีได้ชื่นชม เป็นการสร้างภาพลักษณ์งดงามเพื่อลบล้างเสียงครหาและข่าวไม่เป็นมงคลต่างๆ ที่กระหึ่มอยู่ทั่วโลกมาเป็นเวลาแรมปี นับว่าได้ผลในการกระตุ้นหมู่ชนที่เต็มไปด้วย “blind devotion” ตามคำของจอนาธาน


การเข้าเฝ้าครั้งนี้จึงได้เห็น อดีตพันธมิตรฯ อดีต กปปส. และบรรดาผู้สนับสนุนการรัฐประหาร/สืบอำนาจเผด็จการ คสช. ตัวเอ้ๆ ทั้งหลายพร้อมหน้า สุวิทย์ ทองประเสริฐ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ วรงค์ เดชกิจวิกรม นิติธร ห่อนาก สินจัย หงส์ไทย และเสรี วงษ์มณฑา

คนเหล่านั้นล้วนต่อต้านการรณรงค์เรียกร้องของนักเรียนนักศึกษาแบบเอาเป็นเอาตาย ถึงขั้นที่มีผู้สวมเสื้อเหลืองซึ่งไปเฝ้ารับเสด็จคนหนึ่งเข้าร่วมวงโต้เถียงระหว่างหญิงที่ต่อว่า เต้มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ไปชูสามนิ้วกับกลุ่มเยาวชนว่า “ถ้าไม่นองเลือดไม่จบ”

อีกทั้งการเข้าเฝ้าของผู้จงรักภักดีจำนวนล้นหลามนี้ ได้รับสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากเจ้าหน้าที่เทศกิจในเครื่องแบบสีกากี นำอาหารกล่องไปแจกจ่าย ตั้งโต๊ะบริการน้ำและเครื่องดื่ม มีรถสุขาเทศบาลอำนวยความสะดวกขับถ่าย และส่งท้ายมีรถกระบะรับส่งกลับบ้าน

ประดุจดังการชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ของ กปปส.เมื่อครั้งกะโน้น ต่างแต่ว่าครั้งนี้บรรยากาศชื่นมื่น ไม่ต้องตั้ง กรวย คอยไล่ตีผู้ที่ไม่เห็นด้วย แต่กระนั้น สมีอิสระก็ยังมิอาจละทิ้งนิสัยดั้งเดิมอีกอย่าง ครั้งก่อนถกจีวรนั่งสั่งงานด้วยว้อคกี้ท้อคกี้


ครั้งนี้ในชุดขาวออกเดินไปตามหมู่ฝูงชน มือหนึ่งกำพัดขนนกแน่น อีกมือถือถุงพล้าสติกขาวโปร่ง รับบริจาคธนบัตรหลากสี หากได้เต็มถุงคงพอๆ กับเมื่อตอนที่ไปตบทรัพย์โรงแรมเอสเคพ้าร์คของตระกูลชินวัตร เห็นแล้วมันช่างต่างกับม็อบนักเรียนเป็นหลังตรีน

เด็กนักเรียนหญิงตัวเล็กๆ นั้นพอยุติม็อบ สามคนจะถือถุงคนละใบเที่ยวเดินเก็บขยะและแยกประเภทอีกด้วย แต่การเข้าเฝ้า ฝ่าละอองธุลีพระบาทนี้ เสร็จงานแค่ลุกขึ้นปัดก้นแล้วกลับบ้านได้เลย เดี๋ยวมีพนักงานเทศบาลมาเก็บกวาดทำความสะอาดเอง

(https://www.channel4.com/news/exclusive-first-tv-interview-thai-king-says-country-land-of-compromise-amid-widespread-protests, https://www.cnn.com/2020/11/01/asia/thailand-king-vajiralongkorn-protests-intl-hnk/index.html และ https://twitter.com/e22ist/status/1322928870849347584?s=21melr0)