บิ๊กป้อม เผย ไม่ต้องเรียก บิ๊กโด่ง-บิ๊กหมู แจงปมราชภักดิ์ เซ็น พล.ต. ออกราชการแล้ว
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 255812 พ.ย. - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มีเซียนพระเรียกเก็บค่าหัวคิวโรงหล่อ ว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวน อีกทั้งยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องปล่อยให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป ส่วนการคืนเงินบริจาคกลับมาแล้วจะถือว่ามีความผิดหรือไม่นั้น ไม่มีปัญหาให้สืบสวนต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องเรียก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่ในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบกหรือ ผบ.ทบ และพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. เข้ามาชี้แจงรายละเอียดเนื่องจากทางมูลนิธิจะต้องมีการส่งเอกสารมายังกองทัพ เพราะกองทัพเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้าง
พร้อมกันนี้เปิดเผยว่า ได้ลงนามในหนังสือขอลาออกจากราชการของนายทหารยศพลตรีเพื่อนสนิท พ.อ.คชาชาต บุญดีนายทหารฝ่ายเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ม.112 แล้ว อีกทั้งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีการออกหมายจับทหารในคดี ม.112 เพิ่มเติม
ทั้งนี้กล่าวถึงความคืบหน้าคดีความผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 พล.อ.ประวิตร ย้ำว่ายังไม่มีรายงานถึงรายชื่อของเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว
นอกจากนี้กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองออกมาโจมตีกองทัพให้ตรวจสอบตนเองก่อนออกมาตรวจสอบคนอื่นว่าใครจะพูดอะไรก็พูดไปกล่าวหาลอยๆพูดไปเรื่อย ซึ่งกองทัพได้จัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการใช้จ่ายงบประมาณอยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้กลุ่มการเมืองฉวยโอกาสนำประเด็นนี้เข้าโจมตีกองทัพ และหากรัฐธรรมนูญเสร็จสมบูรณ์แล้ว หากมีปัญหาก็ให้ฝ่ายการเมืองดูแลกันให้ดี อย่าให้เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ทหารอีก ซึ่งวันนี้ตนและนายกรัฐมนตรีทำทุกอย่างและเหนื่อยมากอยู่แล้ว และตนไม่ได้เข้ามาเล่นการเมืองแต่เข้ามาดำเนินงานตามโรดแมป ไม่ต้องการเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งกับใครแต่เข้ามาเพื่อทำให้ประเทศชาติมั่นคงในอนาคต