วันจันทร์, เมษายน 13, 2558

คนตกงานเดินเตะฝุ่นกันเกลื่อนเมือง



ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
11 เม.ย. 2558

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ว่า ผลการสำรวจภาวะการมีงานทำของประชากรเดือน มี.ค. 2558 พบว่า ผู้มีงานทำมีอยู่ทั้งสิ้น 37.62 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานทั้งสิ้น 38.37 ล้านคน เป็นแรงงานที่รอฤดูกาล จำนวน 369,000 แสนคน หรือ 1% ของประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงาน ส่วนจำนวนผู้ว่างงานนั้นอยู่ที่ 378,000 คน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานอยู่ที่ 1% ของประชากรที่อยู่ในวัยแรงงาน เพิ่มขึ้นจาก 316,000 คน หรือ 0.8% ในเดือนก่อนหน้า หรือเป็นการว่างงานที่เพิ่มขึ้น 62,000 คน

ซึ่งเมื่อแยกพิจารณาเป็นรายภูมิภาค พบว่า ภาคกลางว่างงานเพิ่มขึ้น 67,000 คน ภาคเหนือเพิ่มขึ้น 3,000 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือการว่างงานลดลง 8,000 คน และภาคใต้การว่างงานลดลง 16,000 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากลักษณะผู้ว่างงานเป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยมีงานทำมาก่อน 183,000 คน หรือ 48.4% ของผู้ว่างงานทั้งหมด และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 195,000 คน หรือ 51.6% โดยเป็นผู้ว่างงานนอกภาคเกษตร 177,000 คน ประกอบด้วยภาคการผลิต 96,000 คน และภาคบริการ การค้า 81,000 คน ส่วนผู้ว่างงานในภาคเกษตร 18,000 คน

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การว่างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นมาที่ 1% เป็นอัตราที่ไม่น่ากังวล.

ooo

เมื่อวานผมก็ไปเดินที่เอ็มทั้งสองฝั่ง แต่คงสวนไปสวนมากับหมอ อั้ม อิราวัต อารีกิจไม่ได้เจอกัน

เอ็มโปเรี่ยมนั้น เหงามาก ร้านอาหารคนน้อยกว่าที่ควร ร้านค้าแทบร้าง ผมเดินดูตอนทุ่มกว่า ๆ แผนกเครื่องหนังไม่มีคนซื้อแม้แต่คนเดียวจริง ยืนดูอยู่นานให้แน่ใจ พอผ่านแผนกเด็กก็ตกใจ ไม่มีคนเลยเช่นกัน มีแต่คนขาย จึงยืนดูนาน ๆ ให้แน่ใจ ก็เห็นครอบครัวพ่อแม่ลูกเล็กเดินออกมาจากมุม จึงสรุปว่า ณ เวลานั้นมีลูกค้าอยู่ครอบครัวหนึ่ง

แผนกอื่น ๆ ก็น้อยมาก จะมีก็ร้านอาหารที่พอจะมีคนเยอะหน่อย

แล้วผมก็เดินข้ามไปเอ็มควอเทียร์ ร้านแบรนด์หรู ๆ ไม่มีลูกค้าในร้านเลยเกือบทุกร้าน อันนี้ก็ปรกติ คนเดินดูแบบ window shopping (รวมทั้งผมด้วย) ก็มีไม่มากนัก ไม่ถึงกับเหงา แต่เดินกันหลวม ๆ

แต่ที่แน่นสุด ๆ คือ food hall คนเห่อกันมาก ไปกินกันมีสองสามร้านที่ต้องเข้าคิวยาว แบบเห่อของใหม่แบบคนไทย มาแนวเดียวกับ krispy kreme ที่พาราก้อนใหม่ ๆ

แต่โทษที krispy kreme ที่เอ็มควอเทียร์ไม่มีลูกค้าเลย ตอนที่ผมเดินผ่าน เขายังเรียกผมซื้อเลย แต่ขอโทษผมไม่กิน bad carb อิอิ

ผมเลยสรุปในใจว่าลูกค้าที่มาเดินเอ็มควอเทียร์มันย้ายมาจากฝั่งตรงข้ามซะเยอะ ฝั่งตรงข้ามเหงามากถึงมากที่สุด

และในใจก็คงคิดว่าทางนายทุนเจ้าของโปรเจ็คเขาก็คงลุ้นกันน่าดูนะ สำหรับเศรษฐกิจแบบนี้

Veera Siriprasert


...

คนไทยตกงานเพิ่มทะลุ 3.78 แสนคน เฉพาะ มี.ค.เพิ่มอีก 3.7 หมื่นราย


ooo

จับชีพจรศก.จาก"มาม่า" ถึงดัชนี"7-11"


ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558

คอลัมน์ "เมืองไทย 25 น."
โดย ทวี มีเงิน

ทุกวันนี้ไปไหนมาไหน ได้ยินแต่เสียงชาวบ้านบ่นว่าเศรษฐกิจแย่ของแพง สวนทางกับข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ที่บอกว่าเงินเฟ้อยังต่ำ สำหรับดัชนีขาประจำที่ชาวบ้านใช้วัดจนมีความสำคัญเป็นที่ยอมรับไปแล้ว คือ "ดัชนีมาม่า" จำได้ว่าช่วง "วิกฤตต้มยำกุ้ง" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป "มาม่า" ขายดิบขายดีเพราะคนจนลงไม่มีเงินต้องฝากท้องกับมาม่า เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดี คนลืมมาม่าหันไปกินอย่างอื่นแทน

ทุกวันนี้กลับตรงกันข้ามยอดขาย "มาม่า" ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ไม่ใช่เพราะเศรษฐกิจดีขึ้น แต่เพราะคนไม่มีเงินจะซื้อแม้กระทั่ง "มาม่า" มากิน

ดัชนีใหม่ๆ หมาดๆ ที่ยังไม่แพร่หลาย แต่จะพูดกันในหมู่นักธุรกิจ คือ "ดัชนี 7-11" เขาบอกว่าร้านสะดวกซื้อชื่อดังที่มีสาขาทั่วประเทศกว่า 5 พันแห่ง มีอยู่แทบจะทุกๆ ตรอกซอกในเมือง และกระจายอยู่เกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ น่าจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีปกติ ร้านสะดวกซื้อจะจับกลุ่มชาวบ้านเดินถนน ไม่ได้นั่งรถเก๋งมาซื้อ พูดง่ายๆ เป็นกลุ่มชนชั้นกลางลงมาถึงระดับรากหญ้า

นักธุรกิจที่มีแฟรนไชส์หลายสาขาเล่าให้ฟังว่า ปกติในร้านจะต้องมีสินค้าขายไม่หมด ต้องทิ้งเพราะหมดอายุ แต่ละวันเฉลี่ยวันละ 200 บาท แต่ทุกวันนี้ต้องทิ้งแต่ละวันเฉลี่ย 700 บาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าเพราะขายไม่ดี

พรรคพวกที่ทำร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เคยขายดี ขยายสาขาปีเดียว 3 สาขา บอกว่าตอนนี้ลูกค้าหายไป 20-30% ส่วนอีกรายขายอาหารไทยบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามา 4 คนต้องสั่ง 4-5 อย่าง เดี๋ยวนี้สั่งแค่ 3 อย่าง เคยสั่งห่อกลับบ้านแต่ทุกวันนี้ไม่สั่งแล้ว

แวะเข้าไปดู ดัชนีตลาดสดแถวๆ บ้าน ตลาดสดขนาดใหญ่พ่อค้าแม่ค้าบ่นกันอุบ แต่ก่อนเคยคึกคักปัจจุบันแผงขายของหายไปหลายราย หายทั้งคนซื้อคนขาย พ่อค้าเป็ดพะโล้เคยขายอย่างต่ำๆ 60 ตัวทุกวันเดี๋ยวนี้เหลือ 30 กว่าตัว ถามร้านอื่นๆ ก็เหมือนๆ กัน

กระทั่งตลาดสด อ.ต.ก. ที่เป็นตลาดคนรวย ตอนนี้ลูกค้าหายไปเกือบๆ 30% แม่ค้าที่มีแผงขายผลไม้ประกาศหาคนเช่าต่อ แค่วันละ 500 บาท เพราะขายเองไม่คุ้ม ลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ก็จะเป็นขาประจำที่พอมีกำลังซื้ออยู่บ้างเท่านั้น

อาการอย่างนี้เป็นมา 2 ปีแล้วแต่ตอนนี้หนักขึ้นเรื่อยๆ

...