https://www.youtube.com/watch?v=GWav8ksvUNk&feature=youtu.be
Published on Apr 29, 2015
Peace Special Peace TV
 |
| (ภาพถ่ายโดย บูรพา เล็กล้วนงาม) |
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558เพจเฟซบุ๊ก TV24 สถานีประชาชน รายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 เมษายน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบ จาก สน.โชคชัย ได้เดินทางไปยังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีซทีวี และสอบถามถึงเรื่องที่พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาให้สัมภาษณ์เพื่อออกอากาศรายการพิเศษ "พีซ ทีวี สเปเชียล" หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ได้มีมติเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการฯ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีซทีวี ด้วยเหตุผล ขัดต่อคำสั่ง คสช.
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.ชวลิต ได้เดินทางไปให้สัมภาษณ์พิเศษกับนายเผด็จ ภูริปฏิภาณ (พญาไม้) เพื่อออกอากาศทางสถานีพีซทีวี โดยอดีตนายกฯ ระบุว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเหตุคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุย ขอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานให้ได้ชัดเจนก่อนจะมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน แต่ถ้าหลักฐานยังไม่ชัด ก็ไม่ควรพูดอะไรออกมา เพราะจะยิ่งทำให้ประเทศแตกแยก สำหรับประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญ พล.อ.ชวลิต เสนอให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ เพื่อให้ประชาชนเลือก และชี้ว่าข้อเสนอของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปก่อน 5 ปี แล้วค่อยแก้ไขนั้น อาจไม่ทันสถานการณ์ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ถ้ารัฐบาลยุติความขัดแย้งได้ ทุกปัญหาในประเทศก็จะสามารถแก้ไขได้
เมื่อเวลา 21.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเดินทางมายังสถานีโทรทัศน์ พีซทีวี เพื่อขอให้ระงับการออกอากาศเทปสัมภาษณ์พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ว่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ พร้อมตำรวจ ทหาร ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติการได้มาพูดคุยกับผู้บริหารสถานี เรื่องขอความร่วมมืองดนำเทปการสัมภาษณ์พล.อ.ชวลิต ที่นำมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผู้บริหารสถานีได้พูดคุยและปฏิบัติตามด้วยดี ยอมงดรายการดังกล่าว และนำรายการอื่นมาออกอากาศแทน เนื่องจากเทปดังกล่าวได้ออกอากาศสดไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ยืนยันว่าเนื้อหารายการไม่ได้มีส่วนใดเป็นภัยต่อความม่นคง แต่เป็นการเสนอความเห็นในการแก้ปัญหาในอดีตจนถึงปัจจุบัน
มติชนออนไล์
วานนี้ ( 28 เมษายน ) ที่สำนักงาน กสทช. นายอนันต์ศักดิ์ คำเก่า กรรมการผู้อำนาจ บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด หรือพีซทีวี พร้อมด้วยทนายความและทีมผู้ประกาศข่าวหญิงของสถานีพีซทีวี ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. ขอความเป็นธรรมและโต้แย้งมติให้เพิกถอนใบอนุญาตให้บริการโทรทัศน์ ช่องรายการพีซทีวี โดยมีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เป็นผู้รับหนังสือ
นายอนันต์ศักดิ์กล่าวว่า มายื่นขอความเป็นธรรม ขอให้ กสทช.ทบทวนมติบอร์ดของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตของช่องพีซทีวี ซึ่งแม้การลงโทษครั้งนี้บอร์ด กสท.จะอ้างว่าเป็นการกระทำความผิดซ้ำซาก แต่ตามกระบวนการก่อนมีมาตรการลงโทษในขั้นสูงสุด คือ การยึดใบอนุญาต ควรจะต้องแจ้งประเด็นหรือรายการที่มีการกระทำความผิด และให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้าชี้แจงก่อน ประกอบกับหากอ้างอิงจากทวิตเตอร์ของ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช.และ กสท.ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ยังระบุด้วยว่า การพิจารณาในกรณีดังกล่าวยังมีการถอดเทปไม่หมดด้วยซ้ำ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาตั้งแต่พีซทีวีโดนระงับการออกอากาศเป็นเวลา 7 วัน ทางสถานีได้ระมัดระวังเนื้อหาในการออกอากาศมาโดยตลอด
@ เล็งยื่นฟ้องศาลปค.-ถวายฎีกา
นายอนันต์ศักดิ์กล่าวว่า สถานการณ์ของพีซทีวีในเวลานี้ ยังคงให้บริการออกอากาศตามปกติ เนื่องจากหนังสือคำสั่งทางปกครองที่เพิกถอนใบอนุญาตและระงับการออกอากาศยังเดินทางมาไม่ถึง แต่ที่สำนักงานของพีซทีวีต้องรับสายตอบคำถามแก่ลูกค้าและคนดูไม่หยุดตลอดทั้งวัน เบื้องต้นหากต้องระงับการออกอากาศ ทางพีซทีวียังไม่ได้ประเมินความเสียหายแต่อย่างใด แต่ที่แน่ๆ จะกระทบต่อพนักงานบริษัทที่มีอยู่ทั้งสิ้น 110 คน อาจจะต้องตกงาน ทั้งนี้หากการดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก กสทช.ไม่ได้ผล ทางพีซทีวีมีแผนรองรับคือยื่นเรื่องฟ้องร้อง กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง
"หากท้ายสุด ขอความเป็นธรรมจาก กสทช.ก็แล้ว และฟ้องศาลแล้วยังไม่สำเร็จ เพื่อที่จะให้พีซทีวีสามารถดำเนินการออกอากาศได้ต่อไป ในแผนรองรับขั้นท้ายสุด นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะกรรมการสถานี แจ้งไว้แล้วหากไม่ได้จริงๆ จะดำเนินการยื่นถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรม" นายอนันต์ศักดิ์กล่าว
@ เลขาฯกสทช.ปัดการเมืองจุ้น
นายฐากรกล่าวว่า หนังสือขอความเป็นธรรมที่รับมาจะต้องนำส่งเพื่อแจ้งต่อ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช. รับทราบ ส่วนจะบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมบอร์ด กสทช.ครั้งต่อไปเพื่อทบทวนมติบอร์ด กสท.หรือไม่ ขอให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของประธานว่าจะมีคำสั่งให้บรรจุเรื่องหรือไม่ ในส่วนของประเด็นเนื้อหาหรือรายการที่นำไปสู่การลงโทษในครั้งนี้ ทาง กสทช.ไม่ได้ปกปิด แต่จะเผยแพร่เป็นมติบอร์ด กสท. ทางเว็บไซต์ กสทช. ในเร็วๆ นี้ ซึ่งสาเหตุที่ กสท.ไม่สามารถกล่าวเหตุของการกระทำความผิดได้ คาดว่าอาจเป็นเพราะกลัวจะเป็นการก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น
ขอยืนยันว่ามติบอร์ด กสท.เพิกถอนใบอนุญาตของพีซทีวี ไม่มีการเมืองหรือคำสั่งของใครอยู่เบื้องหลังแน่นอน แต่เป็นการดำเนินตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายของ กสทช.เอง
