วันเสาร์, เมษายน 18, 2558

ผลงานรัฐบาล คสช. 6 เดือน 3 ม. “มั่ว โม้ มโน”



BY BOURNE
APRIL 17, 2015

ในวันที่ 17 เม.ย. 58 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. รัฐบาล คสช. ได้มีการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะ คสช. โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงภาพรวมของการทำงานของรัฐบาลว่า 6 เดือนในการบริหารราชการแผ่นดินมีเงื่อนไขต่างจากช่วงที่ผ่านมา ทำเพื่อการปฏิรูป แก้ไขปัญหาประเทศทั้งระบบ

ซึ่งในช่วงหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงสภาวะเศรษฐกิจว่า รัฐบาลได้เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว อีกทั้งภายในประเทศยังประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจจากการบริหารราชการที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่แล้ว โดยเฉพาะ นโยบายรถยนต์คันแรก ทำให้เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขฟื้นฟูอยู่




ต่อมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงถึงผลงานทางด้านความมั่นคงว่าได้ใช้มาตรการป้องกัน มากกว่าการปราบปราม โดยได้ติดตั้งกล้อง cctv กว่า 3 แสนจุดตามจุดเสี่ยงต่างๆร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จึงทำให้ปัญหาต่างๆลดลง ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้เร่งสร้างความปรองดองโดยให้หลายฝ่ายมาร่วมพูดคุยกันโดยยืนยันว่าการเข้ามาทำงานของรัฐบาลเข้ามาเพื่อต้องการให้ประเทศเกิดความสงบเรียบร้อย



ด้านเศรษฐกิจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ โดยยอมรับว่าเศรษฐกิจของปี 2557 ติดลบต่อเนื่องหลายไตรมาส จนมาถึงรัฐบาลนี้ ซึ่งเมื่อรัฐบาลนี้เข้ามา ในช่วงไตรมาส 4 ของ ปี 2557 ดัชนีขยับขึ้น โดยมีปัจจัยกระตุ้น คือการเบิกจ่ายงบประมาณมากขึ้น ซึ่งสามารถเร่งการเติบโตได้ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน มีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 รวมถึงการท่องเที่ยว ที่สามารถเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 ส่งผลให้ไตรมาสแรกปี 2558 ดัชนีโตขึ้นร้อยละ 3 ซึ่งมีปัจจัยสำคัญจากการท่องเที่ยวมากที่สุด จึงเชื่อว่าไตรมาสต่อไป เศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้นต่อเนื่อง โดยรัฐได้ออกใบอนุญาตผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้นกว่า 4 พันแห่ง และมีเม็ดเงินเบิกจ่ายต่อเนื่อง


ในส่วนการต่างประเทศนั้นมีการชี้แจงโรดแมปเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนานาประเทศ และในโอกาสการเยือนไทยจากบุคคลระดับสูงจากหลากหลายประเทศนั้นก็มีการยอมรับบทบาทการปฏิรูปประเทศ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน และนานาประเทศ


ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วผลงานของรัฐบาล คสช. ในห้วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาหากจะสรุปอย่างจริงจังนั้น แทบจะไม่มีอะไรที่ชัดเจนเลย ในส่วนงานด้านความมั่นคงรัฐบาล คสช. ซึ่งเป็นรัฐบาลทหารที่มีอำนาจในการบริหารอย่างเต็มที่จากการประกาศใช้กฎอัยการศึก และมาตรา 44 แต่ก็ยังคงมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น ทั้งที่งานด้านความมั่นคงนั้นถือเป็นงานโดยตรงของกองทัพ สำหรับการปรองดองนั้นต้องตั้งคำถามก่อนว่านับตั้งแต่รัฐบาล คสช. ยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศ สามารถลดความขัดแย้ง และแก้ปัญหาเรื่องความแตกแยกทางการเมืองของคนในชาติได้จริงหรือไม่? หรือเป็นเพียงแค่การหยุดปัญหาด้วยกำลังอาวุธไว้ชั่วคราว???


สำหรับงานด้านเศรษฐกิจ น่าสนใจว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังดีขึ้นอย่างตัวเลขที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล แถลงในวันนี้จริงหรือไม่? เพราะเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ได้กล่าวในงานปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยภายใต้กระแสเศรษฐกิจโลก” จัดโดยสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยว่า การส่งออกเดือนแรกของปีนี้(ม.ค.58)ติดลบ 3.7% ,ก.พ. ติดลบ 6.1% และมี.ค.ก็น่าจะออกมาติดลบ ซึ่งคาดว่าไตรมาสแรก(ม.ค.-มี.ค.58)การส่งออกน่าจะหดตัว 4% ต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเป็นต้นมา และคาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP น่าจะเติบโตในอัตรา 0-1% ในปีนี้


ดังนั้นเมื่อมองที่ตัวเลขที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล แถลงใน 2 งาน 2 วาระแล้ว มันขัดแย้งกันเหลือเกิน เพราะ ในงานการแถลงผลงานรัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่อีกงานหนึ่งกลับบอกว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังวิกฤต อัตราการเจริญเติบโตไม่น่าเกิน 0-1%

ด้านการต่างประเทศนั้น ไม่ได้มีการแถลงผลงานอะไรที่ชัดเจนจับต้องได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงคำกล่าวอ้างว่าได้รับการยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ภายในประเทศจากผู้นำต่างชาติ คำถามคืออะไรคือข้อพิสูจน์? เพราะในปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านความร่วมมือทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม กับประเทศในโลกประชาธิปไตยเช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งกำลังกดดันในรัฐบาลทหารคืนอำนาจให้แก่ประชาชนโดยเร็ว




สิ่งที่น่าสนใจในการแถลงผลงานรัฐบาล คสช. ในวันนี้ก็คือ การโยนความผิดให้แก่รัฐบาลชุดที่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กล่าวว่านโยบายรถยนต์คันแรกคือความผิดพลาดที่ทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ในวันนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่านโยบายรถยนต์คันแรกนั้น เป็นเพียงการยกเว้นการเก็บภาษีสำหรับประชาชนที่จะซื้อรถยนต์เป็นคันแรก และมีการวางมาตรการป้องกันไว้ด้วยการกำหนดรุ่นของรถยนต์ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการยกเว้นภาษีอย่างชัดเจน การซื้อและการจัดไฟแนนซ์นั้นก็เป็นไปตามเงื่อนไขปกติ

คำถามก็คือ แล้วนโยบายรถยนต์คันแรกเพียงนโยบายเดียวจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหาได้อย่างไร? การชุมนุมทางการเมืองอย่างผิดกฎหมายของกลุ่ม กปปส. การปิดกรุงเทพฯ การรัฐประหาร และอีกหลายปัจจัยไม่ใช่สาเหตุร่วมที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศวิกฤตหรืออย่างไร?

อย่าลืมว่านับตั้งแต่รัฐบาล คสช. เข้ามาบริหารประเทศ ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากตัวเลขที่รองนายกฯด้านเศรษฐกิจเป็นผู้แถลงเอง อัตราการว่างงานพุ่งสูงขึ้นจากการปิดกิจการที่เพิ่มสูงขึ้น ธุรกิจ SMEs ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่รัฐบาล คสช. กลับไม่มีการแถลงถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด มีเพียงการโยนความผิดให้พ้นตัวเท่านั้น!!!

การแถลงนโยบายรัฐบาล คสช. ในรอบ 6 เดือนวันนี้ จึงสามารถสรุปได้เป็น 3ม. คือ “มั่ว โม้ มโน”

มั่ว จากการไม่สนใจปัญหาที่แท้จริง แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ทั้งด้านปัญหาการเมือง ปัญหาความมั่นคง ปัญหาเศรษฐกิจ โยนความผิดแต่ไม่สนใจการแก้ปัญหา

โม้ จากการชี้ว่าเศรษฐกิจประเทศกำลังดีขึ้นในหลายมิติ ประเทศกำลังมีความปรองดอง

มโน จากการทำโพลที่มั่นใจว่าประชาชนพึงพอใจในการทำงาน และเชื่อมั่นในรัฐบาล คิดเอาเองว่าต่างชาติให้ความเข้าใจ ยอมรับเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย

ooo

แถม...แฟน ๆ Nirvana...


All Apologies
Song by Nirvana

What else should I be?
All apologies
What else could I say?
Everyone is gay
What else could I write?
I don't have the right
What else should I be?
All apologies
In the sun
In the sun I feel as one
In the sun
In the sun
Married!
Buried!
I wish I was like you
Easily amused
Find my nest of salt
Everything is my fault
I'll take all the blame
Aqua seafoam shame
Sunburn, freezerburn
Choking on the ashes of her enemy
In the sun
In the sun I feel as one
In the sun
In the sun
Married, married, married!
Buried!
Yeah, yeah, yeah, yeah
All in all is all we are