วันจันทร์, สิงหาคม 12, 2567

ถึงคราวองค์การนิสิตจุฬาฯ ประกาศ ไต่สวน ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญบ้าง

ในทางประชาธิปไตย แม้ในแบบไทยๆ หางยาวและไม่ค่อยจะเต็มใบ การกระทำอย่างผิดผีผิดไข้ ไม่ต้องตรงต่อหลักการ เพราะมีธงหรือความยำเกรงต่อเหนือหัวกดอยู่ ก็ย่อมที่จะต้องมีแรงสะท้อน หรือ consequence กันบ้าง

การตัดสินยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ ในทางกฎหมายแล้วมีเสียงโต้แย้งอยู่มากมายว่า ไม่ได้บริสุทธิยุติธรรมเต็มที่ หลายประเด็นที่พรรคก้าวไกลโต้แย้งไว้แต่ต้น ฟังขึ้นเกือบทั้งนั้น ทว่า ตลก.รธน.ทั้ง ๙ ก็ยังดันกันไปจนได้

อจ.พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีนิติศาสตร์ มธ.บอกว่าถ้าเขาเป็นครูสอนตุลาการเหล่านี้ละก็ ให้ตกหมด ซึ่งคล้องจองกับความรู้สึกของผู้ที่ติดตามคดีนี้ ซึ่งมีจำนวนมากเสียด้วย นักข่าวจึงได้เอาไปถามประธานศาลฯ นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ วันนี้ (วันช้างโลก)

ว่าไม่รู้สึกกดดันบ้างหรือ “เพราะขณะนี้มีนักศึกษาเคลื่อนไหวกดดัน​องค์คณะตุลาการ​ ที่สอนนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ​” ทั่นประธานทำหน้าตายและเฉยชา “ปฏิเสธการตอบคำถาม​และเดินทางกลับทันที” ข่าวไทยพีบีเอส ว่างั้น

นั่นเป็นการเคลื่อนไหวขององค์กรนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เห็นว่าจะนัดหมายกันประท้วงไม่เข้าเรียนวิชาที่นครินทร์สอนอยู่ที่ มธ. แต่ทว่า สภานิสิตนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ชิงตัดหน้าไปเสียก่อน หลังจากเป็นกลุ่มแรกที่แสดงเจตจำนงนั้น

วันนี้ก็มีข่าวว่าองค์กรนิสิตแห่งนี้ประกาศไต่สวน ตลก.รธน.อีกคนหนึ่งแล้ว กำหนดวันที่ ๑๔ สิงหานี้แหละ โดยออกหนังสือเปิดผนึกเรียนเชิญ ศ. (พิเศษ) ดร.จิรนิติ หะวานนท์ ไป “ชี้แจงแนวทางจัดการเรียนการสอน” หลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิตหน่อย

ในฐานะที่ทั่นเป็นอาจารย์พิเศษสอนกฎหมายที่จุฬาฯ ไฉนในคำตัดสินยุบพรรคก้าวไกล ผิดผีผิดไข้กับหลักวิชาการที่นักเรียนกฎหมายทราบกันอยู่ จดหมายลงวันที่ ๙ สิงหาระบุว่า สภาฯ “มีข้อกังวลต่อคำวินิจฉัยของท่าน” คดีนั้น ๒ ประเด็น

คือ “๑.การละเลยความสำคัญของกระบวนการวิธีพิจารณาความ” ซึ่งหมายถึงการที่ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฯ โดยไม่ยอมจัดให้มีการไต่สวน ให้สิทธิต่อผู้ถูกร้องได้ชี้แจงเสียก่อน เขาท้วงแล้วก็ยังทำตัวเป็นต้นแบบของการ ยักไหล่แล้วไปต่อ

อีกข้อเป็นเรื่องการใช้อำนาจของศาล รธน.ตัดสินลงโทษถึงขั้นยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารถึง ๑๐ ปี “ซึ่งในกรณีนี้คำวินิจฉัยของท่าน เป็นที่น่าสงสัยว่าถูกต้องตามหลักการ หรือไม่” การจะยุบพรรคการเมืองต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

ในเมื่อ “พรรคการเมืองผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน” และ “เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชน” แต่สิ่งที่จดหมายไม่ได้ระบุ เป็นคำถามย้อนว่า “แล้วพวกทั่นล่ะ ใครเลือกมา”

(https://www.youtube.com/watch?v=hLvl0vRdo4Q และ https://www.thaipbs.or.th/news/content/342976)