วันเสาร์, สิงหาคม 24, 2567

“เพราะไม่อยากให้เสียงคนข้างในหายไป”: คุยกับ ‘ทนายสายเยี่ยม’ การส่งสารผู้ต้องขังการเมืองสู่บันทึกประวัติศาสตร์ ‘นิรโทษกรรมประชาชน’

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
17h ·

“เพราะไม่อยากให้เสียงคนข้างในหายไป”: คุยกับ ‘ทนายสายเยี่ยม’ การส่งสารผู้ต้องขังการเมืองสู่บันทึกประวัติศาสตร์ ‘นิรโทษกรรมประชาชน’
จำนวน ‘42’ คือตัวเลขของผู้ต้องขังทางการเมือง ในปัจจุบัน (23 ส.ค.2567) และดูเหมือนว่าสถานการณ์เข้าออกเรือนจำของเหล่า ‘ผู้ต้องหาเสรีภาพ’ ยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้น หนำซ้ำยังมีอีกหลายคดีที่รอการตัดสิน นั่นหมายถึงยังมีผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง ที่อาจต้องไปเผชิญชีวิตในห้องขังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างที่กล่าวไป 42 ชีวิต อาจเป็นตัวเลขที่สะท้อนถึงสถิติผู้ต้องขัง แต่ 42 ชีวิต อาจหมายถึง 42 ครอบครัว ที่ต้องห่างไกลกัน เพียงเพราะโทษทัณฑ์จากการแสดงออกทางการเมือง ที่ทำให้หลายชีวิตตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ทั้งความเป็นอยู่ข้างใน สภาพจิตใจที่อาจจะไม่มั่นคงเหมือนเดิม รวมไปถึงการสื่อสาร ที่ไม่สามารถทำได้สะดวกเหมือนดังชีวิตนอกเรือนจำ
.
‘ทนายสายเยี่ยม’ เกิดขึ้นจากทนายความอาสา ที่สนใจด้านสิทธิมนุษยชน และร่วมทำหน้าที่เข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา เพื่อพูดคุยกับผู้ต้องขัง ในเรื่องสถานการณ์ภายนอกเรือนจำ และสิ่งที่ผู้ต้องขังต้องประสบภายในเรือนจำ และเป็นตัวกลางคอยสื่อสารเรื่องราวนั้น ๆ กับญาติผู้ต้องขังที่ไม่ได้เข้าเยี่ยม
.
กระทั่งการเข้าเยี่ยมบ่อยครั้ง เกิดเป็น ‘บันทึกเยี่ยม’ เรื่องราวที่ผู้ต้องขังทางการเมืองต้องการสื่อสารกับคนภายนอก โดยเฉพาะขบวนการเคลื่อนไหวประชาธิปไตย และผู้คนที่ยังติดตามข่าวสารสถานการณ์คดีด้านเสรีภาพ ผ่านบรรดาทนายความที่วนเวียนเข้าออกเรือนจำเพื่อนำเรื่องเหล่านั้นมาตีแผ่สู่สังคม จึงเป็นโอกาสที่ดีในการจะทำความรู้จักทนายสายเยี่ยม ทั้งบทบาท ตัวตน และความคาดหวังที่พวกเขาและเธอ อยากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขังคดีการเมือง
.
.
อ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดบนเว็บไซต์: https://tlhr2014.com/archives/69328