วันอาทิตย์, ธันวาคม 03, 2566

นายกฯ ร้อง “โอ๊ย ไม่ไหว” ค่าไฟใหม่สูงเกินไป ก้าวไกลอัดซ้ำ ก็เอาไปจ่ายเจ้าสัวทั้งนั้น

เมื่อสองวันก่อน ระหว่างนายกฯ โร้ดโชว์ตรวจราชการที่อุตรดิสถ์ ถึงกับร้อง “โอ๊ย ไม่ไหว” ค่าไฟใหม่ “สูงเกินไป” กกพ.มีมติออกมาให้ใช้สำหรับต้นปีหน้า มกราถึงเมษา อยู่ที่ ๔.๖๘ บาทต่อหน่วยแม้นว่ารัฐบาลตั้งใจขึ้นอยู่แล้ว แต่ไม่มากขนาดนี้

ค่าไฟที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ๓.๙๙ บาทต่อหน่วย ฝ่ายค้านเรียกว่าราคา โปร รัฐบาลใหม่ลดซื้อใจประชาชนมาได้ ๔ เดือน หมดกำหนดสิ้นเดือนนี้ เศรษฐา ทวีสิน ตอบนักข่าวว่า ที่รัฐบาลตั้งใจจะขึ้นราคาไม่มากเท่านี้ เดี๋ยวจะเรียกประชุม

แต่ฝ่ายค้านเขาไม่รอละ สส.ก้าวไกล สับทันทีว่าเนี่ยตอนที่ลดโปรโมชั่นนั้น ลดลงไปหน่วยละ ๔๖ สตางค์ แต่ตอนจะกลับไปขึ้นราคาใหม่ เพิ่มมากกว่าเป็นเท่าครึ่ง ๖๙ สตางค์ แล้วยังปัญหาโครงสร้างไม่ยอมแก้ไข

วรภพ วิริยะโรจน์ แจงเรื่องความเกี่ยวข้องของค่าไฟกับผลกำไรของกลุ่มทุนพลังงาน โปรโมชั่นลดค่าไฟ “จริงๆ แล้วแค่เลื่อนจ่ายหนี้” กลายเป็น “ส่วนต่อขยาย” ของรัฐบาลที่แล้ว ปัญหาต้นตอไม่ได้มีการแก้ไขเลยสักนิด

วรภพพูดถึงกรณีกำลังผลิตไฟฟ้าของไทยมีมาก เกินความต้องการของประชาชนอย่างล้นหลาม มีโรงงานที่รับสัมปทานไปไว้เฉยๆ ไม่เคยเดินเครื่อง ไม่มีคนใช้ ไม่มีที่ขาย แท้จริงไทยยังซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ (เช่น) ลาว ที่เจ้าสัวไทยไปตั้งโรงงานผลิต

อีกทั้งพลังงานหมุนเวียนที่ต้องรับซื้อราว ๕,๒๐๐ เมกกะวัตต์ ซึ่ง “ศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งทุเลาชั่วคราวออกมาแล้ว เพราะกระบวนการรับซื้อไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรม อาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศ” ก็ยังไม่ได้รับการชำเลืองมองจากรัฐบาลนี้

วิโรจน์ ลักขณาอดิสร พรรคก้าวไกลอีกคนตีซ้ำ เรื่องโรงไฟฟ้าเอกชนในเครือข่ายทุนใหญ่ถึง ๕๔% รับสัมปทานไปแล้วไม่ได้เดินเครื่องแม้แต่วันเดียว แต่รัฐเอาเงินภาษีจากประชาชนไปจ่ายค่าเกื้อหนุน เป็นเงินที่จ่ายส่วนเกินไปให้ฟรีๆ

เงินจำนวนนี้ ย้อนกลับมาคำนวณเป็นค่าไฟที่เก็บจากประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งตัวเลขออกมาประชาชนต้องแบกค่าแป๊ะเจี๊ยเจ้าสัวอย่างน้อยหน่วยละ ๒๐-๒๕ สตางค์ ไม่เท่านั้นไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน มันก็หวนกลับมาปู้ยำด้วยเหมือนกัน

วิโรจน์บอกว่า “ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าจากโรงขยะก็ดี โซล่าเซลส์ก็ดี ซึ่งมีสัญญาผูกพันจากในอดีตมาถึงปัจจุบัน ในราคาที่แพงเกินจริง” เป็นส่วนเกินที่นำมาคำนวณเป็นค่าไฟเพิ่มอีกหน่วยละ ๒๕ สตางค์

รวมความว่าสองปัจจัยทำให้ประชาชนผู้อุปโภคไฟฟ้า ต้องแบกรับค่าไฟหัวคิวกันหน่วยละ ๕๐ สตางค์

(https://ch3plus.com/news/economy/ruan)