วันอังคาร, ธันวาคม 12, 2566

ตรวจการบ้านรัฐบาลเศรษฐา นโยบายเร่งด่วน จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน สถานะล่าสุด ยัง “คิดใหญ่ ทำเป็น ทำได้” ??


กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญยื่นข้อเรียกร้องต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เมื่อ 28 ส.ค. ขอให้รับคำถามประชามติจากประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน

นโยบายหาเสียง: รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ใช้วงเงิน 3,000 ล้านบาท โดยมาจากการบริหารงบประมาณ และการบริหารระบบภาษี

พรรค พท. ระบุว่า จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนโดยคงรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผ่านกระบวนการออกเสียงประชามติ

และเมื่อพรรค พท. สลัดทิ้งพรรค ก.ก. พลิกมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเมื่อ 21 ก.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. หนึ่งในทีมเจรจาตั้งรัฐบาลกล่าวถึงความจำเป็นในการต้องตั้งรัฐบาลให้ได้

“ตั้งรัฐบาลเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ มติ ครม.วันแรก เราจะออกมาให้ทำประชามติตั้ง สสร. มาแก้รัฐธรรมนูญทันที" นายภูมิธรรมกล่าว

นโยบายรัฐบาล: บรรจุเป็น 1 ใน 4 นโยบายเร่งด่วน โดยระบุว่า “การแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพื่อให้คนไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยยึดรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่แก้ไขในหมวดพระมหากษัตริย์ โดยรัฐบาลจะหารือแนวทางในการทำประชามติที่ให้ความสำคัญกับการทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตย ทันสมัย และเป็นที่ยอมรับร่วมกัน รวมถึงการหารือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญในรัฐสภา”

อย่างไรก็ตามไม่มีการระบุถึงกลไก สสร. ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลแต่อย่างใด

สถานะล่าสุด: ยังไร้บทสรุปว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง ทำเมื่อใด ใช้คำถามว่าอะไร และใช้กลไก สสร. หรือไม่

นายกฯ ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน เมื่อ 3 ต.ค. ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการอยู่ระหว่างศึกษา เปิดรับฟังความคิดเห็นฝ่ายต่าง ๆ และรวบรวมแนวทางเสนอ ครม.

ที่มา บีบีซีไทย
https://www.bbc.com/thai/articles/cw030ny97rjo