ขออนุญาตเมนชั่นถาม @winmetawin ในฐานะที่น้องก็เป็นนักศึกษา มธ เช่นกันกับเพนกวินและรุ้ง น้องมีความเห็นยังไงกับการใช้กำลังประทุษร้ายและริดรอนเสรีภาพของนักกิจกรรมทางการเมืองที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับรัฐบาลคะ?? #ปล่อยเพื่อนเรา #ม็อบ30ตุลา pic.twitter.com/2RcL5gddrq
— พรรคพลังมัมหมี #ปล่อยเพื่อนเรา (@PPRP_Unofficial) October 30, 2020
iLaw
15h ·
ถ้อยคำจากไมค์ เล่าเหตุการณ์ถูก “ลาก” จากเรือนจำขึ้นรถตำรวจ
ก่อนเป็นลมถูกส่งโรงพยาบาล
30 ตุลาคม 2563 ไมค์-ภาณุพงศ์ และเพนกวิน-พริษฐ์ ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แต่ถูกตำรวจมาอายัดตัวต่อ เอาขึ้นรถผู้ต้องขังและพาไปยัง สน.ประชาชื่น แต่ระหว่างทางมีคลิปที่ไมค์ตะโกนออกมาจากรถว่า ถูกทำร้าย และเมื่อไปถึงสน.ประชาชื่นแล้ว ไมค์เป็นลมหมดสติจนต้องส่งตัวไปโรงพยาบาล
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ คือ ไมค์และเพนกวินถูกควบคุมตัวจากกรณีการปราศรัยที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 และถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่ยังมีคดีอื่นๆ และหมายจับจากการปราศรัยในเวทีอื่นๆ อีกหลายแห่งติดตัวอยู่ ระหว่างถูกควบคุมตัวทนายความจึงประสานให้ตำรวจจากทุกท้องที่ที่มีคดีมาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำให้เสร็จสิ้นกระบวนการไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ศาลอาญาสั่งไม่อนุญาตให้ฝากขังทั้งสองคนต่อ ทั้งสองคนจึงคาดหมายได้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวและได้กลับบ้านในช่วงค่ำวันนั้น
ไอลอว์ได้คุยกับไมค์สั้นๆ ในห้องพักที่โรงพยาบาลก่อนถูกตำรวจจากอยุธยานำหมายจับมาแจ้งการจับกุมอีกครั้ง
ไมค์เล่าถึงสถานการณ์ช่วงเวลา 20.00-20.30 ตอนกำลังจะได้รับการปล่อยตัวว่า ตำรวจไปอายัดตัวที่เรือนจำ โดยอ้างหมายจับจากสภ.เมืองนนทบุรี กับสภ.พระนครศรีอยุธยา เราก็เถียงกันว่า ในเมื่อเราถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะมาจับอีกได้อย่างไร แต่ผู้กำกับสน.ชนะสงครามที่มาด้วยบอกว่า หมายจับยังไม่ถูกเพิกถอน ยังไงก็ต้องถูกควบคุมตัว
บริเวณพื้นที่ปล่อยตัวหน้าประตูเรือนจำ ไมค์ ยืนยันว่า การเพิกถอนหมายจับหรือไม่เป็นขั้นตอนของตำรวจ ไม่ใช่ปัญหาของผู้ต้องหา และกรณีนี้ผู้ต้องหาได้รับแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วจึงยืนยันว่า ไม่สามารถเอาหมายจับมาจับอีกได้ ตัวเขาเองและเพนกวินจึงไม่ยินยอมให้อายัดตัวต่อไปในวันนี้ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า ในเมื่อมีหมายปล่อยตัวมาจากศาลแล้ว และหมายจับสิ้นผล ขอให้เปิดประตูให้พวกเขาออกไปสู่อิสรภาพ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เปิดประตูให้ตำรวจนอกเครื่องแบบอย่างน้อย 4 คนเข้ามาเอาตัวของทั้งสองคน มาถึงก็พยายามจับและกระชากเสื้อ ไมค์แจ้งกับตำรวจว่า “พี่อย่าจับผม พี่ไปคุยกับนายมาให้เรียบร้อยก่อนว่าจะใช้อำนาจไหนในการมาจับ” จากนั้นตำรวจก็ไม่พูดอะไรแล้วกลับออกไป
รอบที่สองตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาใหม่ 6 คน แล้วพูดกันเองว่า “สงสัยต้องใช้กำลัง” เสร็จแล้วก็เข้ามาไม่พูดอะไรแล้วกระชากเลย ใช้กำลังเพื่อเอาตัวทั้งสองคนขึ้นรถผู้ต้องขัง ไมค์เล่าว่า ในเหตุการณ์ชุลมุน พวกเขาถูกทั้งล็อคคอและตีเข่า
“มีคนละหมัดสองหมัด บนรถเราจึงเปิดกระจกแล้วตะโกนว่า ช่วยด้วย พอมวลชนเห็นก็เลยขับรถกรูกันเข้ามาแล้วขวางรถ” ไมค์เล่า
ไมค์เล่าต่อด้วยว่า ตอนอยู่บนรถผู้ต้องขังมีตำรวจนอกเครื่องแบบตามขึ้นมาอยู่ด้วยอีกสามคน พวกเขาพยายามปิดกระจก เราพยายามเปิดไฟในรถแต่เขาก็พยายามปิดไฟไม่ให้คนข้างนอกมองเห็น ด้วยความที่ข้างนอกรถมีการชนกันกับมอเตอร์ไซค์ประชาชนก็เลยโกรธแล้วก็ทุบกระจกรถ
เมื่อถามถึงเหตุการณ์เมื่อรถผู้ต้องขังมาถึง สน.ประชาชื่น และไมค์อยู่ในอาการเดินไม่ไหวจนต้องส่งไปโรงพยาบาล ไมค์เล่าว่า “รอบนี้มันโหดนะ ขนาดคนทุบรถ มันยังกล้ารัดคอแล้วลาก พอไปถึงด้วยความที่มันเหนื่อยแล้วก็ถูกลากมา เราก็หายใจไม่ออก พี่รู้จักคนวิ้งไหม มันวิ้งแล้วก็ชาไปหมดทั้งตัว ...”
“ปกติแล้วกูเป็นคนสู้สุดใจนะ แต่พอออกมากูเหนื่อย กูโดนรัด แล้วรถแบบนั้นมันหายใจยาก แล้วก็ไม่เปิดกระจกให้เรา...” ไมค์กล่าว
หลังจากไมค์ถูก "อุ้ม" ลงจากรถผู้ต้องขังเข้าไปในสน.ประชาชื่นในสภาพหมดเรี่ยวแรง ประมาณ 15 นาทีก็มีรถหน่วยกู้ภัยมารับตัวไปยังโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ซึ่งอยู่ใกล้สน.มากที่สุด โดยมีหมอทศพร เสรีรักษ์ ติดตามไปด้วย จากนั้นไมค์ถูกย้ายตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยมีรถตู้ตำรวจอย่างน้อย 2 คันติดตามไปด้วย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.45 น. ตำรวจในเครื่องแบบสองนายมานั่งเฝ้าหน้าลิฟท์โรงพยาบาลชั้นที่ไมค์พักรักษาตัวอยู่ และเวลา 06.15 น. ตำรวจจากสภ.เมืองอยุธยา ก็เดินทางเข้ามาในห้องพักเพื่อแสดงหมายจับและทำการจับกุมตัว โดยไมค์ปฏิเสธการจับกุม ขอใช้สิทธิที่จะไม่ให้การ และทางตำรวจแจ้งว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่เมื่อถูกจับแล้วยังได้รับบาดเจ็บก็ให้พักรักษาในโรงพยาบาลต่อไปได้
https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10164583721090551/?type=3