วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 01, 2563

นสพ.อัลจาซีร่า สื่อระดับโลกรารายงานข่าว 'ไมค์' เข้าโรงพยาบาลเพราะถูกตำรวจจับกุมด้วยการบีบคอ (Chokehold) ภาพลักษณ์ประเทศไม่มีอะไรเหลือแล้ว



iLaw
15h ·

ถ้อยคำจากไมค์ เล่าเหตุการณ์ถูก “ลาก” จากเรือนจำขึ้นรถตำรวจ
ก่อนเป็นลมถูกส่งโรงพยาบาล

30 ตุลาคม 2563 ไมค์-ภาณุพงศ์ และเพนกวิน-พริษฐ์ ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แต่ถูกตำรวจมาอายัดตัวต่อ เอาขึ้นรถผู้ต้องขังและพาไปยัง สน.ประชาชื่น แต่ระหว่างทางมีคลิปที่ไมค์ตะโกนออกมาจากรถว่า ถูกทำร้าย และเมื่อไปถึงสน.ประชาชื่นแล้ว ไมค์เป็นลมหมดสติจนต้องส่งตัวไปโรงพยาบาล

ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ คือ ไมค์และเพนกวินถูกควบคุมตัวจากกรณีการปราศรัยที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 และถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่ยังมีคดีอื่นๆ และหมายจับจากการปราศรัยในเวทีอื่นๆ อีกหลายแห่งติดตัวอยู่ ระหว่างถูกควบคุมตัวทนายความจึงประสานให้ตำรวจจากทุกท้องที่ที่มีคดีมาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำให้เสร็จสิ้นกระบวนการไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ศาลอาญาสั่งไม่อนุญาตให้ฝากขังทั้งสองคนต่อ ทั้งสองคนจึงคาดหมายได้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวและได้กลับบ้านในช่วงค่ำวันนั้น

ไอลอว์ได้คุยกับไมค์สั้นๆ ในห้องพักที่โรงพยาบาลก่อนถูกตำรวจจากอยุธยานำหมายจับมาแจ้งการจับกุมอีกครั้ง

ไมค์เล่าถึงสถานการณ์ช่วงเวลา 20.00-20.30 ตอนกำลังจะได้รับการปล่อยตัวว่า ตำรวจไปอายัดตัวที่เรือนจำ โดยอ้างหมายจับจากสภ.เมืองนนทบุรี กับสภ.พระนครศรีอยุธยา เราก็เถียงกันว่า ในเมื่อเราถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว จะมาจับอีกได้อย่างไร แต่ผู้กำกับสน.ชนะสงครามที่มาด้วยบอกว่า หมายจับยังไม่ถูกเพิกถอน ยังไงก็ต้องถูกควบคุมตัว

บริเวณพื้นที่ปล่อยตัวหน้าประตูเรือนจำ ไมค์ ยืนยันว่า การเพิกถอนหมายจับหรือไม่เป็นขั้นตอนของตำรวจ ไม่ใช่ปัญหาของผู้ต้องหา และกรณีนี้ผู้ต้องหาได้รับแจ้งข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้วจึงยืนยันว่า ไม่สามารถเอาหมายจับมาจับอีกได้ ตัวเขาเองและเพนกวินจึงไม่ยินยอมให้อายัดตัวต่อไปในวันนี้ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า ในเมื่อมีหมายปล่อยตัวมาจากศาลแล้ว และหมายจับสิ้นผล ขอให้เปิดประตูให้พวกเขาออกไปสู่อิสรภาพ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เปิดประตูให้ตำรวจนอกเครื่องแบบอย่างน้อย 4 คนเข้ามาเอาตัวของทั้งสองคน มาถึงก็พยายามจับและกระชากเสื้อ ไมค์แจ้งกับตำรวจว่า “พี่อย่าจับผม พี่ไปคุยกับนายมาให้เรียบร้อยก่อนว่าจะใช้อำนาจไหนในการมาจับ” จากนั้นตำรวจก็ไม่พูดอะไรแล้วกลับออกไป

รอบที่สองตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาใหม่ 6 คน แล้วพูดกันเองว่า “สงสัยต้องใช้กำลัง” เสร็จแล้วก็เข้ามาไม่พูดอะไรแล้วกระชากเลย ใช้กำลังเพื่อเอาตัวทั้งสองคนขึ้นรถผู้ต้องขัง ไมค์เล่าว่า ในเหตุการณ์ชุลมุน พวกเขาถูกทั้งล็อคคอและตีเข่า

“มีคนละหมัดสองหมัด บนรถเราจึงเปิดกระจกแล้วตะโกนว่า ช่วยด้วย พอมวลชนเห็นก็เลยขับรถกรูกันเข้ามาแล้วขวางรถ” ไมค์เล่า

ไมค์เล่าต่อด้วยว่า ตอนอยู่บนรถผู้ต้องขังมีตำรวจนอกเครื่องแบบตามขึ้นมาอยู่ด้วยอีกสามคน พวกเขาพยายามปิดกระจก เราพยายามเปิดไฟในรถแต่เขาก็พยายามปิดไฟไม่ให้คนข้างนอกมองเห็น ด้วยความที่ข้างนอกรถมีการชนกันกับมอเตอร์ไซค์ประชาชนก็เลยโกรธแล้วก็ทุบกระจกรถ

เมื่อถามถึงเหตุการณ์เมื่อรถผู้ต้องขังมาถึง สน.ประชาชื่น และไมค์อยู่ในอาการเดินไม่ไหวจนต้องส่งไปโรงพยาบาล ไมค์เล่าว่า “รอบนี้มันโหดนะ ขนาดคนทุบรถ มันยังกล้ารัดคอแล้วลาก พอไปถึงด้วยความที่มันเหนื่อยแล้วก็ถูกลากมา เราก็หายใจไม่ออก พี่รู้จักคนวิ้งไหม มันวิ้งแล้วก็ชาไปหมดทั้งตัว ...”

“ปกติแล้วกูเป็นคนสู้สุดใจนะ แต่พอออกมากูเหนื่อย กูโดนรัด แล้วรถแบบนั้นมันหายใจยาก แล้วก็ไม่เปิดกระจกให้เรา...” ไมค์กล่าว

หลังจากไมค์ถูก "อุ้ม" ลงจากรถผู้ต้องขังเข้าไปในสน.ประชาชื่นในสภาพหมดเรี่ยวแรง ประมาณ 15 นาทีก็มีรถหน่วยกู้ภัยมารับตัวไปยังโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ซึ่งอยู่ใกล้สน.มากที่สุด โดยมีหมอทศพร เสรีรักษ์ ติดตามไปด้วย จากนั้นไมค์ถูกย้ายตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระรามเก้า โดยมีรถตู้ตำรวจอย่างน้อย 2 คันติดตามไปด้วย

จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.45 น. ตำรวจในเครื่องแบบสองนายมานั่งเฝ้าหน้าลิฟท์โรงพยาบาลชั้นที่ไมค์พักรักษาตัวอยู่ และเวลา 06.15 น. ตำรวจจากสภ.เมืองอยุธยา ก็เดินทางเข้ามาในห้องพักเพื่อแสดงหมายจับและทำการจับกุมตัว โดยไมค์ปฏิเสธการจับกุม ขอใช้สิทธิที่จะไม่ให้การ และทางตำรวจแจ้งว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่เมื่อถูกจับแล้วยังได้รับบาดเจ็บก็ให้พักรักษาในโรงพยาบาลต่อไปได้

https://www.facebook.com/iLawClub/photos/a.10150540436460551/10164583721090551/?type=3