วันจันทร์, พฤศจิกายน 16, 2563

มาแร้ว เพจข้าราชการปลดแอก



ข้าราชการปลดแอก - Free Thai Civil Servant
November 12 at 2:35 AM ·

มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ของใคร?

คำขวัญหรืออาจเรียกว่าเป็นวาทกรรม "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ถูกใส่เข้ามาในหลายภาคส่วนของระบบราชการ ทั้งในวิสัยทัศน์ ในโครงการต่างๆ ในกฎหมาย ในยุทธศาสตร์ชาติ หรือจะเป็นใน Format หนังสือราชการ ตั้งแต่ คสช. ช่วงชิงอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน แต่การพูดเพียง "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" อาจดูเหมือนไม่จบประโยค ซึ่งถ้าจะเขียนลงไปในหนังสือราชการคงถูกว่าตั้งแต่นายคนแรกเพราะเป็นวลีที่ไม่เป็นประโยค ไม่มีประธาน ใครเป็นคนสร้างให้เกิดความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ? และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีกรรม ความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" แท้จริงแล้วเป็นของใคร ?
.
มันก็จะกลับมาที่การมองที่แตกต่างกันว่า "ประชาชน" "ส่วนรวม" หรือ "ประเทศชาติ" แท้จริงแล้วเป็นคนกลุ่มใด หรือเป็นกลุ่มผลประโยชน์ใด
.
ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเขียนไว้ว่าความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนดังกล่าวเป็นวิสัยทัศน์ของประเทศในการเป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบไปด้วย 6 ข้อ (อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ) 1.ความมั่นคง 2.การสร้างความสามารถในการแข่งขัน 3.การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน 4.การสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม 5.การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 6.การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
.
ทั้งหมดรวมกันประกอบเป็นสังคมที่ "มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"
.
เราตั้งคำถามว่า 1.ความมั่นคงเป็นความมั่นคงของประชาชนหรือผู้มีอำนาจ 2.อันดับความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness Ranking) ของไทยแย่ลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา 3.คนจะมีคุณภาพได้ต้องอยู่ในสังคมที่ให้โอกาส สังคมที่มีเสรีภาพในการพูดและแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะประเด็นทางการเมืองและสังคม 4.ความเสมอภาคในสังคมไทยเคยมีด้วยหรือ ทั้งสองมาตรฐานหรือไม่มีมาตรฐานเลยในกระบวนการยุติธรรมและคดีการเมือง ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของไทยก็ขึ้นชื่อว่าเลวร้ายอันดับต้นๆหรือแย่ที่สุดในโลกในบางปี 5.เราใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันแค่ไหน? 6.ภาครัฐขยายขนาดใหญ่โตเทอะทะเชื่องช้าขึ้นตั้งแต่รัฐประหารปี 57
.
"มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" จึงเป็นเพียงวาทกรรม เป็น Propaganda อย่างหนึ่งที่ทำให้ดูเหมือนรัฐบาลได้ทำอะไร แต่จริงๆแล้วเพียงแค่ประดิษฐ์คำมาวางรวมๆกันในลักษณะเดียวกันกับการนำคำว่าคณะกรรมการไปวางไว้หน้าประเด็น/นโยบายแล้วตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆขึ้นมาอย่างเกินความจำเป็น
.
อย่างไรก็ดี ข้าราชการชั้นผู้น้อยอาจมีความมั่นคงระดับนึง ไม่มั่งคั่งนัก และยั่งยืนได้ถ้าอดทนกับระบบและสวัสดิการได้โดยไม่ลาออกไปเสียก่อน ข้าราชการระดับสูงคงมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนทีเดียวหากอยู่ในแวดวงสังคมเดียวกับผู้มีอำนาจ เป็นรุ่นพี่/รุ่นน้องในคอนเนคชันพิเศษต่างๆที่เราเคยเขียนเมื่อหลายโพสต์ก่อน หรือถึงขั้นเกี่ยวดองใกล้ชิดทางครอบครัวกัน ซึ่งไม่ต้องมียุทธศาสตร์ชาติพวกเขาก็มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนเสมอมา
.
ขณะที่สามัญชนคนธรรมดาชาวไทยทั่วไปคงคละเคล้ากันไป มีความมั่นคงในชีวิตตามอัตภาพและความสามารถที่แต่ละคนจะให้กับตัวเองได้ ภาครัฐจัดหาโครงการ 30 บาทกับโครงการเรียนฟรีให้ซึ่งก็ต้องมาถกเถียงเรื่องประสิทธิภาพกันอีกที ความมั่งคั่งผันแปรตามภาวะเศรษฐกิจและโชคชะตา ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบจำนวนมาก และกลุ่มคนที่ตกหล่นจากสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากรัฐก็มีไม่น้อย (เช่น คนที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไม่ทัน หรือมันเป็นสิ่งที่ควรจะแจกให้คนไทยทุกคน) ส่วนเรื่องหวยก็ใช่ว่าเชื่อไอ้ไข่แล้วจะถูกเสมอไป สุดท้าย ความยั่งยืนอาจไม่ใช่เรื่องต้องพูดถึง แค่ใช้ชีวิตวันต่อวัน เดือนชนเดือนแล้วรอดพ้นได้ก็เพียงพอแล้ว
.
อ่านมาถึงตรงนี้คงมีคำตอบกันในใจว่าความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" จากปากของรัฐบาลนี้แท้จริงแล้วเป็นของใคร

#ข้าราชการปลดแอก #FreeCivilServant #FreeThaiCivilServant

https://www.facebook.com/FreeThaiCivilServant/photos/a.108582807708257/125838429316028/