วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 15, 2563

ไหนว่าม็อบเยาวชนแผ่วไง ๑๔ พฤศจิกา ‘นักเรียนเลว’ คึกคัก ห่มผ้าให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จน 'จุลเจิม' โวยให้ทุบทิ้ง


ไหนว่าม็อบเยาวชนแผ่วไง ม็อบเฟสต์ ๑๔ พฤศจิกาตรงกันข้าม ไหนจะพร้อมกันหันหลังชูสามนิ้ว ห่มผ้าผืนใหญ่ ที่เต็มไปด้วยรอยเขียนข้อความเรียกร้องของประชาชน รอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปิดท้ายด้วยการตั้งวงโจ้หม้อไฟ หมูกระทะ กลางราชดำเนิน

โดยเฉพาะการห่มผ้าให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้นทำเอา จุลเจิม ยุคล เกิดอาการคันยิก โพสต์สำนวนเสนียดเสียดแทง “ถ้าปล่อยให้มันเล่นกันสนุก ไร้ค่า ทุบทิ้งเถอะ...” แหม พอเป็นราชวัลลภเต็มขั้น ออกแนว นักทุบ เลยนะ

นอกเหนือจาก #แม่ยกแห่งชาติ ทราย เจริญปุระ เหมา “ชานมไข่มุกสองพันแก้ว แถมป๊อปคอร์นหนึ่งพันห่อ” กับหมึกปิ้งรถเข็นของป้าหมดคันให้ผู้ร่วมชุมนุมกินกันแล้ว กิจกรรมลากเส้นรอยต่อภาพใบหน้าผู้เสียชีวิตในการสลายม็อบเมื่อปี ๕๓ ก็เป็น ‘sophistication’

แสดงความฉลาดรู้ของม็อบรุ่นนี้ ชนิดที่ Atukkit Sawangsuk เรียกว่า “มันคือการปฏิวัติวัฒนธรรมจากโลกออนไลน์สู่ท้องถนน” นั่นเลยเชียว “สร้างโลกใหม่ไม่แยแสโลกเก่า พร้อมจะสู้กันยาวๆ...เวลาอยู่ข้างเรา จะทำอะไรได้แค่ไหนก็เอาสิ”


แล้วยังมี รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ไปเดินเล่นเฉยๆ แค่ร่วมชูสามนิ้วแล้วบอกว่า “ม็อบตอนนี้เดินด้วยข้อเรียกร้อง ไม่ต้องมีแกนนำ” กับ เพ็นกวิน พริษฐ์ ชีวารักษ์ ก็ไป ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศย้ำ ไม่มีทางลดเพดาน ข้อเรียกร้องเด็ดขาด

“เพราะเพดานได้พังไปแล้ว...จะไม่มีการประนีประนอมใด ๆ ถ้าไม่มีความยุติธรรม จะไม่มีการประนีประนอมใด ๆ ถ้าประยุทธ์ยังไม่ลาออก จะไม่มีการประนีประนอมได้ๆ ถ้าร่างรัฐธรรมนูญประชาชนยังไม่ถูกร่าง” บีบีซีไทยรายงานการปราศรัย

“ย้ำ ๓ ข้อเรียกร้องเดิม แต่เน้นไปที่ประเด็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากวันที่ ๑๗-๑๘ พ.ย. นี้ จะมีการประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยเพิ่มประเด็นเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่นำเสนอโดย iLaw

ว่าเป็น “เสมือนเสียงที่ถูกเปล่งจากราษฎรที่เห็นพ้องต้องกัน ต้องไม่ถูกปัดตกในสภา” และ “สมาชิกรัฐสภาต้องเปิดทางแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกมาตรา” ทั้งยังคงไว้ข้อที่ต้องการให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องลาออก”

เช่นกันกับ “รัฐธรรมนูญในหมวดที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องถูกนำมาพิจารณาและปฏิรูปให้สมเหตุสมผลเเละทันยุคสมัย” แม้นว่าท่าทีของ สว.พยายามจะเขี่ยประเด็นนี้ออกไป โดยมีการเสนอให้ประธานส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ใน ๓ ญัตติ

ถึงอย่างนั้นวิปรัฐบาล วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.พลังประชารัฐ ให้ความเห็นว่า แม้จะมีความกังวลในหมู่ ส.ส.และ สว. “ว่าหากลงมติรับหลักการไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายหลังให้ ๓ ญัตติขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้ผู้ลงมติมีความผิดไปด้วย”

ตนมั่นใจไม่กระทบต่อการตัดสินใจลงมติของเพื่อน ส.ส. และ สว. “เพราะร่างที่ตนเองร่วมลงชื่อนั้นสามารถดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย” รวมทั้งเชื่อด้วยว่า ส.ส.และ สว. “จะร่วมกันผลักดันร่างดังกล่าวเดินหน้าต่อไปได้”

อย่างน้อยก็มี สว.หนึ่งคนละ ที่เห็นด้วยกลายๆ กับการผลักดันนี้ คำนูณ สิทธิสมาน ไปพูดเวทีสาธารณะจัดโดยคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยว่า อยากจะรับร่างฉบับไอลอว์ เพื่อไปถกเถียงกันในวาระแปรญัตติ แม้จะไม่เห็นด้วยหลายอย่าง

เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการให้สภารับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๗ ฉบับเข้าไป “จะสร้างโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาแลกเปลี่ยนกับผู้เสนอ แม้จะไม่เห็นด้วยก็แปรญัตติได้” ดังความเห็นของนายอภิสิทธิ์

นักการเมืองจะยักท่า เล่นทีอย่างไร เยาวชนเขาไม่รอฟังกันแล้ว เดินหน้าเรียกร้องสิ่งที่ต้องการสำหรับอนาคตของพวกเขา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์แม้แต่ในเหล่าผู้สนับสนุน หลังจากที่มีพวกโหนสถาบันออกมาก่อกวนยวนยั่วมากขึ้นว่า อ่อนแรง


ที่ไหนได้ กลุ่ม นักเรียนเลวคึกคักกับ #ม็อบ14พฤศจิกา ตั้งแต่เช้า ไปจัดประท้วงเชิงสัญญลักษณ์หน้ากระทรวงศึกษาธิการ “อุปกรณ์พร้อม ทั้งกรอบรูป รมต.ณัฏฐพล สมัยเป่านกหวีดเป็นกปปส. ดอกไม้จันทน์ พร้อมตะเกียง และโลงศพ” (สีขาว)

แถมติดสติ๊กเกอร์หมุดคณะราษฎร ๖๓ เต็มไปหมดบนกำแพงกระทรวงศึกษา “ถือเป็นการเสิร์ฟน้ำจิ้ม เตรียมความพร้อมก่อนม็อบครั้งใหญ่ของนักเรียนในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อสมทบกับกลุ่ม #MobFest” ตอนบ่าย

ขณะเดียวกันด้านพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมพระราชินี ทรงทำพิธีเปิดโครงการรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสายสีน้ำเงิน เฉลิมรัชมงคล เส้นทางอุโมงก์รอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา มีพระชาชนสวมเสื้อเหลืองคาดหัวด้วยแถบลายธงชาติไปรอรับเสด็จกันเนืองแน่น

เป็นอีกพระราชกรณียกิจระหว่างยังไม่เสด็จกลับเยอรมนี อันเป็นที่เกษมสันต์หรรษายิ่งนัก นอกจากได้เสด็จประทับนั่งไปบนรถไฟฟ้า ท่ามกลางข้าราชการและรัฐมนตรีพับเพียบกับพื้นเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทแล้ว


ที่สถานีปลายทาง พระราชินีทรงเพลิดเพลินกับการที่พระหัตถ์ต้องขวักไขว่ รับถวายธนบัตรใบแดงๆ กำแล้วกำเล่า

(https://prachatai.com/journal/2020/11/90410, https://www.innnews.co.th/politics/news_819724/, https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10164642943285551 และ https://www.bbc.com/thai/thailand-54942011)