นักกิจกรรมและประชาชนประมาณ 30 คน รวมตัวกันหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ กพร. ในเวลาประมาณ 10:20 น. เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องความยุติธรรมให้วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยชาวไทยที่หายตัวไประหว่างลี้ภัยในกัมพูชา โดยตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ในและนอกเครื่องแบบประมาณ 30 นายคอยดูแลความเรียบร้อยและสังเกตการณ์พร้อมถ่ายรูปผู้เข้าร่วมกิจกรรม และมีตำรวจจราจรคอยดูแลการสัญจรข้ามถนนระหว่างฝั่งทำเนียบรัฐบาลกับฝั่งสำนักงานกพร.
หลังผู้ร่วมกิจกรรมมาถึงหน้าสำนักงานกพร.ได้ไม่เกินห้านาทีก็ประกาศว่าจะย้ายไปชูป้ายแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ฝั่งทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่ผู้ร่วมกิจกรรมและสื่อมวลชนข้ามถนนมีตำรวจจราจรหนึ่งนายคอยหยุดรถดูแลความปลอดภัยให้
ในเวลาประมาณ 10:30 น. ตัวแทนสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา (สนท.) อ่านแถลงการณ์ซึ่งมีใจความประณามการกระทำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มหาย ทำร้าย และลอบสังหารนักเคลื่อนไหวและผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการเพิกเฉยและเร่งรัดการสืบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดกรณีวันเฉลิมมาดำเนินคดี ขณะที่ผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่นๆก็ถือป้ายเขียนข้อความต่างๆ เช่น #saveวันเฉลิม และข้อความเรียกร้องความรับผิดชอบในการติดตามตัววันเฉลิมจากรัฐบาลไทย เป็นต้น
ในเวลาประมาณ 10.45 น. นักกิจกรรมสองคนนำผ้าดิบสีขาวขนาดใหญ่ไปผูกกับรั้วทำเนียบรัฐบาลให้เป็นสัญลักษณ์โบว์สีขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สนท.ใช้แสดงออกเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้วันเฉลิม ระหว่างการผูกโบว์เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าไปห้ามปรามหรือแทรกแซงใดๆ แต่เมื่อกลุ่มนักกิจกรรมยืนให้สื่อถ่ายภาพกับโบว์แล้วเสร็จ ตำรวจสองนายก็เข้าไปช่วยกันแกะโบว์ออกทันทีและทำท่าจะนำผ้าดิบที่ใช้ผูกเป็นโบว์ไปด้วย แต่นักกิจกรรมเข้าไปขอคืนซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้คืนมา
หลังจากนั้นผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนนำผ้าขาวขนาดเล็กที่เตรียมไว้แจกจ่ายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมผูกเป็นโบว์และใช้ถ่ายภาพ จากนั้นจึงยุติกิจกรรมและแยกย้ายกันในเวลาประมาณ 11.00 น.
ต่อมาในเวลาประมาณ 13:00 น. นักกิจกรรมกลุ่มสนท.ไปทำกิจกรรมผูกป้ายผ้าที่มีข้อความ “ขอสาปแช่งคนสั่งอุ้มวันเฉลิม” ที่สะพานลอยหน้าห้างเซ็นเตอร์วัน อนุเสาวรีชัยสมรภูมิ หลังแขวนป้ายได้ครู่เดียวมีตำรวจสน.ดินแดงเข้ามาถอดป้ายที่แขวนไว้ออกและนำมาถือไว้กับตัว ตำรวจพยายามเชิญกลุ่มนักกิจกรรมไปสถานีตำรวจโดยอ้างว่าการแขวนป้ายตรงสะพานลอยครั้งนี้ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขต เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
นักกิจกรรมพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าการกระทำความผิดของเขาเป็นไปตามมาตราใด หนึ่งในนักกิจกรรมโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ว่าพวกเขาจะแขวนเพียงชั่วคราวเท่านั้นและจะแกะออกไปเองและขณะนี้ป้ายก็ถูกแกะมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตอบกลับไปว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนแกะป้ายออกเองและกลุ่มนักกิจกรรมก็ได้นำป้ายไปแขวนแล้ว
หลังยืนถกเถียงกันครู่หนึ่ง นักกิจกรรมก็ขอป้ายคืนจากเจ้าหน้าที่มาถือไว้เองซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ยอม ระหว่างนั้นหนึ่งในนักกิจกรรมชี้แจงด้วยว่าการนำป้ายมาแขวนครั้งนี้พวกเขามีเพียงเจตนานำมาแขวนเพื่อถ่ายภาพเรียกร้องความเป็นธรรมแต่ไม่ได้มีเจตนาจะบดบังทัศนวิสัยการจราจร
ท้ายที่สุดนักกิจกรรมที่ถือป้ายและเพื่อนอีกสี่คนก็เดินนำป้ายไปถือบนสะพานลอยพร้อมแสดงสัญลักษณ์สามนิ้วและเมื่อยืนถ่ายภาพได้ครู่หนึ่งพวกเขาก็สลับไปถือป้ายโดยให้ฝั่งที่เขียนข้อความหันออกไปสู่ถนนลักษณะเดียวกับการแขวน พร้อมระบุว่าพวกเขาถือป้ายไม่ได้แขวนป้าย กลุ่มนักกิจกรรมใช้เวลาถือป้ายและถ่ายภาพประมาณ 5 นาที ก็ยุติการทำกิจกรรมโดยท้ายที่สุดไม่มีการดำเนินคดีหรือตั้งข้อกล่าวหาใดๆ
...
เชิญร่วมลงนาม จดหมายถึง รัฐบาลฮุนเซ็น กัมพูชา
วันจันทร์ 15 มิถุนายน 2563 เวลา 10.00 ผมจะไปที่สถานทูตกัมพูชา ตั้งอยู่ที่ 518/4 ถนน ประชาอุทิศ (ซอยรามคำแหง 39) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. 10310. เพื่อติดตามข้อเรียกร้องให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่อุ้มฆ่าวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ให้ได้
ขอเชิญร่วมลงนาม โปรดระบุชื่อจริง นามสกุลจริง หน่วยงาน /อาชีพ/จังหวัด แสดงถึงเจตจำนงของพลเมืองไทยที่มีต่อผู้ลี้ภัยการเมืองในกรณีอุ้มฆ่าวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
ส่วนหนึ่งของจดหมายระบุ “ เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนในกลุ่มประเทศ Asian และธำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนคนไทยกับประชาชนชาวกัมพูชาที่มีมาช้านานแล้ว จึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลกัมพูชา สอบสวนจับกุมคนร้ายและผู้สั่งฆ่าวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และ ปกป้องผู้ลี้ภัยการเมืองที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาต่อไป
ท่านใดที่สะดวกเดินทางไปที่หน้าสถานทูต สามารถจัดทำจดหมาย ป้ายข้อความของท่านเอง ท่านใดไปไม่ได้ สามารถสนับสนุนการเคลื่อนไหวกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย โอนเงินมาที่ธนาคารกรุงไทย เลขที่ ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 198-0-12736-0
