วันอังคาร, มิถุนายน 23, 2563

เพจ "Royal World Thailand" โพสต์แสดงความห่วงใยสถาบันฯที่ยังไม่มีการพัฒนาภาพลักษณ์ ตั้งแต่ทรงราชย์มา จะทรงทำอย่างไรให้สมกับเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน? จะทรงทำอย่างไรให้สมกับเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องของชาติ? - Repost






พระมหากษัตริย์ คือผู้ปกครองแผ่นดินและความทุกข์สุขของราษฎร ที่มีพระราชกิจมากมายเพื่อประโยชน์สุขของชาติ และเป็นที่เคารพสูงสุดแก่อาณาประชาราษฎร์ทั้งมวล นี่คือนิยามของพระเจ้าอยู่หัวที่ชาวไทยจดจำมาครั้นแต่โบราณ และจะเป็นที่ติฉินนินทามิได้ อย่างไรก็ตาม กาลเวลาเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ความคิดของคนเปลี่ยนตามไปด้วย ในปัจจุบัน มีการเข้าถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ได้ง่ายมากขึ้น ทั้งความคิดและทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบต่างๆมากมาย ซึ่งทัศนคติของประชาชนจะเป็นเช่นไร ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับองค์พระมหากษัตริย์เอง ในฐานะเสาหลักของชาติ

ตั้งแต่ทรงราชย์มา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังไม่เคยมีการพัฒนาภาพลักษณ์ของพระองค์ไปในทางที่ดีขึ้นเลย จากข่าวไวรัลต่างๆทางสื่อออนไลน์ที่ออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ประชาชนเริ่มจำภาพลักษณ์ที่ตกต่ำมากกว่าสิ่งดีงามที่อาจเคยทรงทำมา เมื่อหลายสิบปีก่อนเสด็จขึ้นทรงราชย์ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย โดยเฉพาะการทรงเยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆทั่วประเทศ แต่ไม่ใช่ว่าพระมหากรุณาธิคุณในอดีตจะนำมาหักล้างคำครหาของประชาชนได้

แม้แต่บุคคลที่เคารพสถาบันมากที่สุด ก็มิอาจพูดได้เต็มปากได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดี ตราบใดที่ยังมีเงาพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนอยู่ เกือบทุกคนล้วนพูดว่ารักในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่หลายคนกลับเงียบเมื่อพูดถึงรัชกาลที่ 10 สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด?

เมื่อได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์เต็มตัวแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการเร่งทำคะแนน “ด้วยพระองค์เอง” เพื่อครองใจมวลชน ในเมื่อยังมีราษฎรในพื้นที่ท้องถิ่นมากมายที่ยังเคารพสถาบันอยู่ หากเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมถึงที่ ก็อาจสามารถได้ความนิยมมากขึ้น มิใช่ให้ใครคนหนึ่งกระทำแทน ซึ่งประชาชนสมัยนี้อยากเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ไม่ได้มีแต่นามธรรม กล่าวคือการที่มีองคมนตรีหรือข้าราชการหน่วยงานต่างๆออกปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ หนำซ้ำเมื่อประชาชนติดภาพลักษณ์จากข่าวลือต่างๆที่ไม่ได้รับการยืนยันและปฏิเสธใดๆ ยิ่งทำให้ความนิยมในพระองค์ตกต่ำลงเรื่อยๆอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปรากฏพระองค์ในพิธีการหรืองานเปิดสำคัญๆเท่านั้น เข้าข่าย “งานหลวงไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เคย”

ถึงแม้ว่าจะทรงก่อตั้งโครงการพัฒนาใหม่ๆในด้านต่างๆมากมายตั้งแต่ทรงราชย์มา อาทิ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข หรือโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ สำหรับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และยังทรงมีโครงการต่างๆตั้งแต่เมื่อครั้นดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หากพูดตามความจริงแล้ว ยังไงคงไม่พอ สิ่งที่ควรตระหนักถึงเป็นหลักคือการลงมือกระทำด้วยพระองค์เอง ถึงแม้ไม่อาจลบอคติหรือครหาจากประชาชนได้ทั้งหมด แต่ก็ถือว่าทรงทำหน้าที่พระมหากษัตริย์ให้เห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ในฐานะเสาหลักของชาติ

เมื่อภาพลักษณ์พระมหากษัตริย์ย่ำแย่ลง ในฐานะตัวแทนของประเทศชาติเช่นกัน อาจทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศชาติย่ำแย่ลงไปด้วย นอกจากพระมหากษัตริย์จะมีหน้าที่ในการทรงเยี่ยมราษฎรแล้วนั้น ยังมีหน้าที่ในการผูกมิตรกับนานาชาติ โดยเฉพาะระดับผู้นำ และระดับพระราชวงศ์ด้วยกันเอง ดังเช่นการทรงรับแขกบ้านแขกเมือง หรือการทรงทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรีกับมิตรประเทศต่างๆ ที่สามารถเผยแผ่ภาพลักษณ์ความเป็นเอกลักษณ์ของชนชาติไทยให้ดียิ่งขึ้นไป ดังที่สมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงทำมาแล้วในอดีต ที่ทำให้สยามประเทศบูมขึ้นถนัดตา ดังเช่นราชวงศ์ญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ จะทรงเป็นแขกบ้านแขกเมืองของราชวงศ์อังกฤษเพียงไม่เดือนหลังทรงราชย์อย่างเป็นทางการ หากแต่วิกฤติไวรัสโคโรน่าไม่ระบาดเสียก่อน

จะทรงทำอย่างไรให้สมกับเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน? จะทรงทำอย่างไรให้สมกับเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องของชาติ? หลังจากเหตุก่อการร้ายในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว จะทรงเป็นพลังในการสร้างขวัญและกำลังใจของประชาชนอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร? โดยเฉพาะวิกฤติไวรัสโคโรน่านี้ จะทรงทำอย่างไรให้สมกับการเป็นผู้นำในการพัฒนาและปฏิรูปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และสุดท้าย จะทรงทำอย่างไรให้ประชาชนบังเกิดความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย? ในเมื่อประชาชนเริ่มศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยน้อยลง ซึ่งมีส่วนให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ

ราชบัลลังก์ไม่ใช่แค่เก้าอี้เคลือบทอง หากแต่ยังเป็นความศรัทธาของประชาชน จะครบปีแล้วหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในเมื่อยังทรงมีพระพลานมัยแข็งแรงและยังมีศักยภาพพอ ช่วงเวลานี้ ประชาชนต้องการเห็นเสาหลักของชาติ ในเมื่อโฆษณาชวนเชื่อเริ่มไม่ได้ผลกับประชาชนในยุคปัจจุบันแล้ว ทรงยังมีเวลาปรับพระองค์ต่อจากนี้ ทำให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า #กษัตริย์มีไว้ทำไม และ #มีกษัตริย์ไว้ทำไม
----
“The Monarch” either King or Queen is a person who rules a land for the people’s prosperity and fulfills the duties for the nation, and is also highly revered by all citizens. Thais recognise the image of Thai Kings since the ancient era that the king must be highly respected and not to be criticised. Nowadays, time changes, society changes, people’s mind changes as well. The Thai Monarchy is easier to be reached by mindsets and attitudes from different patterns. Whatever attitude of the people is, it depends the king himself, as the national pillar.

Since the accession to the throne, His Majesty King Vajiralongkorn of Thailand, still, has never developed his public image to be better among the unstoppable viral news spread around. The people start to recognise him in negative ways rather than good duties he has been doing. Decades before his accession, he has been fulfilling his duties, like visiting people in many rural areas around the country. However, his good things in the past cannot wipe out the negative views from the people.

Even the people who highly respect the monarchy could not say in fully mouth that he is a good king, even if they still miss the previous monarch. As almost everyone says “Love King Rama IX” but are silent about “Rama X”. What is this shown about?

When he officially ascended the throne, what he should do, is “to gain popularity” from the people. As there are still many people around the country respecting the institution, if he makes a visit to various places to know to people, the popularity would be risen up. The people like to see in touchable things rather than untouchable ones, of which he assigns a lot of officers to represent him around. Also, people are stuck on his negative news, which are never confirmed or declined. This is led to be a sharply decreased of his popularity, first ever time in Thai history, as he always appears mostly in very important and religious events, rather than daily ones.

Although he established a lot of new projects e.g. Happiness Correction Project, or Wildlife Sanctuary Project for Rural Development, as well as many projects founded ever since he was the Crown Prince. To be honest, it is now not enough. Now he should do with himself. Although it would not decrease the negative attitude down, but at least, he now fulfills his duties as King, and as the National Pillar.

When the overall image of the monarchy decreases, as the representative of the nation, the whole national image would be also ruined. For the monarch, besides visiting the people, visiting foreign countries is another important mission. The Monarch must encourage and promote the international relationship between the leaders, also among the royals themselves, e.g. the State Visit. As his parents used to promote a very good Thai identity worldwide on their foreign visits, he would do another good job for this. Like Emperor Naruhito of Japan has been invited the very first State Visit to the United Kingdom a few months after his accession. He would have had the first foreign visit if there had not been a coronavirus outbreak.

How can he fulfill as the national unity? How can he fulfill as the continuous national symbol? After the attack in Nakhon Ratchasima, how can he still fulfill the strength to the people, especially this corona outbreak? How can he fulfill as the leader of development and reformation for the national prosperity? And finally, how can he fulfill the trust of democracy among the people? People nowadays have less faith of the democracy which could lead to the cleavage in the nation.

The throne is not only “a golden chair” but also “the faith” from the people. Almost a year after his coronation, as he is still in healthy and has enough potentiality. This time, people want to see the national pillar on their side in very serious crisis. The propaganda is starting to be unwell among the people. He still has time from now, to let people to see clearly that “why we need to have a king”…

(https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/2587257758045928?__tn__=K-R)