วันอังคาร, มิถุนายน 30, 2563

เทปถ่ายทอดสดจากหน้าทำเนียบรัฐบาล ยื่นจดหมายให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที - People GO network






ยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินเดี๋ยวนี้! อย่าขี้ตู่ต่ออายุใช้อำนาจผูกขาดไม่เป็นธรรม

29 มิถุนายน 2563 เครือข่าย People Go Network ยื่นจดหมายถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และใช้กฎหมายปกติจัดการกับสถานการณ์แทน ณ.ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของรัฐบาล

มีผอ.พันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายประสานมวลชนและประชาชน
มารับเรื่อง
...


คัดค้านการอ้างโรคระบาดยึดอำนาจ
ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดี๋ยวนี้!

รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 โดยอ้างเหตุว่า มีการระบาดของโรคโควิด 19 จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยของประชาชน และการดำรงชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน และได้ขยายระยะเวลาบังคับใช้เรื่อยๆ ไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยมีท่าทีว่าจะขยายเวลาบังคับใช้ต่อไป

การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามมาด้วยการออกข้อกำหนดและมาตรการต่างๆ ที่กระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คน การประกอบอาชีพ และกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง โดยกำหนดโทษการไม่ปฏิบัติตามไว้อย่างสูง คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท เป็นโทษสถานเดียวเท่ากันหมดสำหรับทุกเรื่อง จึงเป็นมาตรการที่ต้องใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในสถานการณ์ที่ "เร่งด่วนจริงๆ" เท่านั้น เมื่อความจำเป็นหมดลงก็ต้องยกเลิกมาตรการที่กระทบต่อ "การดำรงชีวิตโดยปกติสุข" โดยเร็วที่สุด

จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) พบว่า วันสุดท้ายที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ คือ วันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเมื่อนับถึง 29 มิถุนายน 2563 ก็เท่ากับว่า เป็นเวลา 34 วันเต็มที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเลย ข้อมูลผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้งสิ้น

ขณะที่คำแนะนำในการดูแลตัวเองสำหรับผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก (WHO) ต่างก็ระบุตรงกันให้แยกตัวเองออกจากสังคมเป็นเวลา "14 วัน" ดังนั้น จึงนับได้ว่า ประเทศไทยปลอดจากการแพร่ระบาดภายในประเทศแล้ว

จริงอยู่ที่เชื้อโควิด 19 ยังระบาดรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก และยังมีโอกาสที่ประเทศไทยจะกลับมาระบาดระลอกใหม่ได้ ดังนั้น มาตรการที่ยังจำเป็นต้องเข้มงวดในช่วงเวลานี้ คือ การกักตัวผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและตรวจหาผู้ติดเชื้อที่ด่านพรมแดน ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 39-42 กำหนดไว้ละเอียดเพียงพอแล้ว

ที่ผ่านมาการใช้อำนาจของรัฐออกคำสั่งที่เพื่อดำเนินการควบคุมโรค เช่น การตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) ก็เป็นไปตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11 การสั่งปิดสถานบันเทิง การสั่งห้ามเดินทางข้ามพื้นที่ การสั่งห้ามรวมตัวในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ก็เป็นไปตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 การสั่งห้ามกักตุนสินค้าจำเป็น ก็เป็นไปตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งกฎหมายในระบบปกตินั้นให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในการควบคุมโรคระบาดไว้ได้อยู่แล้ว

การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในช่วงเวลากว่าสามเดือนที่ผ่านมา ให้อำนาจเพิ่มแก่รัฐบาลสี่กรณี �ได้แก่
อำนาจสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ซึ่งหมดความจำเป็นและยกเลิกไปแล้ว
ให้นายกรัฐมนตรีสั่งโอนอำนาจการสั่งการจากรัฐมนตรี และหน่วยงานต่างๆ มาเพื่อเป็นผู้สั่งการเองแทนทั้งหมด ซึ่งกลายเป็นประเด็นหลักในขณะนี้
ใช้ข้อห้ามการรวมตัวสั่งห้ามประชาชนแสดงออกในประเด็นที่กระทบต่อรัฐบาลปัจจุบัน โดยมีคนถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วอย่างน้อย 23 คน
การยกเว้นความรับผิดให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและการยกเว้นการตรวจสอบโดยศาลปกครอง

การคงไว้ซึ่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงมีประโยชน์เพียงแต่กับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น เพื่อจะบริหารประเทศได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไร้การตรวจสอบถ่วงดุล หรือเรียกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีไว้เพื่อการ “ยึดอำนาจ” การบริหารประเทศ ส่วนการป้องกันและควบคุมโรคระบาดเป็นมาตรการที่เดินหน้าตามกฎหมายในระบบปกติอยู่แล้ว

พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรการรับมือกับโรคระบาด แต่เป็นกฎหมายที่เน้นเพิ่มอำนาจให้รัฐกรณีมี “ภัยคุกคามทางการทหาร” หากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะป้องกันควบคุมโรคแต่เพียงอย่างเดียว ก็ควรใช้กฎหมายในระบบปกติ หรือถ้ามีความจำเป็นก็ออกแบบระบบกฎหมายขึ้นใหม่สำหรับสถานการณ์โรคโควิด19 ที่อาจยังอยู่กับมนุษย์ไปอีกเป็นปี โดยมีระบบตรวจสอบถ่วงดุลที่ชัดเจน ให้กระบวนการการแก้ปัญหาเกิดจากการมีส่วนร่วม กระจายอำนาจการตัดสินใจไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม

เครือข่าย People Go Network เห็นว่า ความจำเป็นที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหมดไปนานแล้ว และขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรียุติการใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เดี๋ยวนี้! และในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ขอให้สาธารณชนเข้าสังเกตการณ์ หรือจัดถ่ายทอดสดการประชุมเพื่อให้ประชาชนติดตามและร่วมรับรู้เหตุผลในการตัดสินใจด้วย
...

ภาพจาก The Standard