วันอาทิตย์, มิถุนายน 28, 2563

ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า คณะราษฎร ผู้ทำการปฏิวัติ 24 มิย 2475 เปลี่ยนแปลงการปกครองให้มีรัฐธรรมนูญ ให้มีประชาธิปไตย คณะราษฎร มิได้ 'ล้มเจ้า' ตามคำเล่าลือ และ ปวศ.ประดิษฐ์ใหม่




The People's Party and the Monarchy
คณะราษฎร ผู้ทำการปฏิวัติ 24 มิย 2475
เปลี่ยนแปลงการปกครองให้มีรัฐธรรมนูญ ให้มีประชาธิปไตย

คณะราษฎร มิได้ 'ล้มเจ้า'
ตามคำเล่าลือ และ ปวศ.ประดิษฐ์ใหม่

คณะราษฎร ทูลเชิญให้พระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7
ทรงเปนกษัตริย์อยู่ต่อไปภายใต้รัฐธรรมนูญ 10 ธค.2475

ต่อมา ภายหลังกบฏบวรเดช 2476
รัชกาลที่ 7 เสด็จไปประทับในอังกฤษ และทรงสละราชสมบัติ
พระองค์ มิได้ทรงตั้งผู้ใดขึ้นครองราชต่อจากพระองค์

ดังนั้น นรม.พระยาพหลฯ หรือพจน์ พหลโยธิน ในขณะนั้น
ได้กราบบังคมทูลเชิญ พระองค์เจ้าอานันทฯ ที่ประทับอยู่ ณ สวิส
ขึ้นครองราชย์ เปนรัชกาลที่ 8 หรือในหลวงอานันท ฯ

สรุป
พระยาพหลฯ หัวหน้ารัฐบาลคณะราษฎร
ก้อมิได้ 'ล้มเจ้า' ตามข้อกล่าวหา และข่าวโคมลอย ครับ

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ Charnvit Kasetsiri
...
Somrit Luechai
Yesterday at 1:33 AM ·

การตอบโต้ของฝ่ายทหาร
ต่อการระลึกเหตุการณ์"24 มิ.ย.2475"ของฝ่ายประชาธิปไตย
โดยตีความใหม่การปฏิวัติครั้งนั้นนี้ว่า
"ทำรัฐประหาร ล้มราชบัลลังก์"
และชื่นชมขบวนการต่อต้านการปฏิวัติ(counter revolution)ที่นำโดยพระองค์เจ้าบวรเดชและพระยาศรีสิทธิสงคราม(ดิ่น ท่าราบ)คุณตาของท่านประธานองคมนตรีคนปัจจุบัน
ปรากฏการณ์นี้ถือว่า
เป็นการแสดงตัวตนที่ชัดเจนบนเวทีการเมืองของฝ่ายทหาร
โดยทำเป็นมองไม่เห็นว่า
1.คณะราษฎรนั้นมีแกนนำส่วนใหญ่เป็นทหาร
2.ทหารที่เป็นแกนนำนั้นล้วนเป็นปัญญาชนที่ก้าวหน้าแห่งยุค
3.อ.ปรีดี ในนามคณะราษฎร เป็นผู้ทูลเชิญพระองค์เจ้าอานันทมหิดลขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 8
ดังนั้นการ"ตีความใหม่"ในประวัติศาสตร์การเมืองครั้งนี้ว่า"ทำรัฐประหาร ล้มราชบัลลังค์"นั้น
จึงยากที่จะได้ผลในวงกว้าง
เพราะมันไม่ใช่เรื่องเหตุผลหรือความผิดความถูก
แต่เพราะมันตอบโต้ช้าไป
ช้าจนคนไม่สนว่า"ใครทำอะไร?"
เขาสนแต่ว่า"แล้วเขาจะได้อะไร?"ต่างหาก
แต่อย่างไรก็ตามการตอบโต้ของฝ่ายทหารครั้งนี้
จะได้ผลสำหรับคนที่ยังไงก็เชื่ออยู่แล้ว
เชื่อแม้ไม่เคยรู้หรือเคยเห็นก็ตาม
พวกนี้มีชื่อเรียกรวมๆว่า"สลิ่ม"
พูดง่ายๆคือการตอบโต้ครั้งนี้
เป้าหมายเพื่อ"กระชับมิตร"เสียมากกว่า
ดีครับที่ท่านหยิบเรื่อง"กบฏบวรเดช"ขึ้นมา
คนจะได้สนใจเรื่องนี้กันอีกครั้ง
หลังจากที่คนเขาลืมไปตั้งนานแล้ว
เชื่อผมเถอะครับว่า
จากนี้ไปเรื่อง"กบฏบวรเดช"จะแพร่ในโซเชียลมีเดีย
จนขี้เกียจอ่านเลยล่ะครับ