วันเสาร์, มิถุนายน 20, 2563

#saveหมู่อาร์ม - จาก ปปช. ถึง ศาลทหาร




โบว์ว่าเราเล่าได้ใน 11 นาทีก็เก่งแล้ว นี่ใครไม่รู้ทำได้ในรูปเดียว https://youtu.be/9cKl_l_It_w

#saveหมู่อาร์ม - จาก ปปช. ถึง ศาลทหาร



Jun 17, 2020

Nuttaa Mahattana
...



[ความคืบหน้า คณะทำงานพิจารณาศึกษาและสืบหาข้อเท็จจริงกรณีการข่มขู่คุกคามสิบเอกณรงค์ชัย (หมู่อาร์ม) อันเนื่องมาจากการร้องเรียนการทุจริต]
.
วันนี้ (19 มิถุนายน 2563) วันนี้ผมได้ร่วมการแถลงข่าวในนามคณะทำงานพิจารณาศึกษาและสอบหาข้อเท็จจริงกรณีการข่มขู่คุกคามผู้ใต้บังคับบัญชา และการใช้อำนาจโดยมิชอบของผู้บังคับบัญชา อันเนื่องมาจากการร้องเรียนปัญหาทุจริตภายในกรมสรรพาวุธทหารบก โดยคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้มีมติแต่งตั้งให้ส.ส.อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ เป็นประธานคณะทำงาน และคณะทำงานชุดนี้มีหน้าที่ในการศึกษาและรวบรวมข้อเท็จจริงกรณีการข่มขู่สิบเอกณรงค์ชัย
.
โดยในวันนี้ สิบเอกณรงค์ชัยได้แจ้งความคืบหน้าต่อที่ประชุมว่าได้เห็นคำสั่งจากทบ.ที่ปลดตนเองแล้ว จึงทำให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่สามารถคุ้มครองพยานตามสิทธิที่พึงมีของสิบเอกณรงค์ชัยได้ (เนื่องจากถูกปลดจากสถานะการเป็นทหารไปแล้ว)
.
คุณณัฏฐา มหัทธนา โฆษกคณะทำงาน มองว่ามี 2 ประเด็นหลักที่ต้องดูแลคือ ประการแรกนั้น การทุจริตว่าในกองทัพมีจริงหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนของ ทบ. สรุปแล้วว่ามีมูล โดยมีนายพลเกี่ยวข้อ แล้วทำการส่งเรื่องต่อไปยังป.ป.ช.
.
และอีกประเด็นหนึ่ง คือการคุ้มครองพยานในฐานะที่เป็นผู้เปิดโปงการทุจริต และมีรายงานว่ามีการคุกคามสิบเอกณรงค์ชัย คณะทำงานจึงอยู่ในระหว่างการตามหาข้อเท็จจริงว่ามีการคุกคามจริงหรือไม่ โดยในระหว่างนี้ ป.ป.ช.มีหน้าที่คุ้มครองพยานที่สิบเอกณรงค์ชัยได้ยื่นเรื่องเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนเต็ม แต่กลับพบว่า ป.ป.ช. เพิ่งมีคำสั่งคุ้มครองพยานในวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ซึ่งในวันเดียวกันนั้นได้มีคำสั่งปลดสิบเอกณรงค์ชัยออกจากกองทัพ ทำให้ป.ป.ช.ไม่สามารถคุ้มครองพยานได้ตามมาตรา 131 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต และไม่สามารถคุ้มครองพยานด้วยการย้ายหน่วยงานได้ตามมาตรา 133 จนทำให้ท่านผู้ร้อง คือ สิบเอกณรงค์ชัยเสียสิทธิ ซึ่งสิทธิในที่นี้คือ สิทธิในหน้าที่การงานราชการ อนาคตทางราชการที่ได้สูญเสียไปแล้ว โดยอาจจะมีกระบวนการเอากลับคืนมาได้หรือไม่อย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องนึง แต่ ณ วันนี้ คือเสียสิทธิไปแล้วอันเนื่องมาจากการทำงานของ ป.ป.ช. ที่กินเวลาถึง 3 เดือนในการคุ้มครองพยาน และยังไม่จบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากมากว่าทำไมกระบวนการนี้จึงใช้เวลาถึง 3 เดือน จนทำให้สิบเอกณรงค์ชัยไม่ได้รับการคุ้มครองพยาน
.
ทั้งนี้ ในทรรศนะของพลโทพงศกรมองว่า กองทัพยังสามารถสั่งทบทวนคำสั่งปลดได้ หากต้องการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นจริง การคุ้มครองพยานก็เป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันถึงเจตนานั้น
.
และในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563 นี้ สิบเอกณรงค์ชัยจะต้องไปรายงานตัวที่สรรพวุทธทหารบก ปทุมธานี และจะถูกนำตัวส่งศาลทหาร ซึ่งการไม่ได่รับสิทธิคุ้มครองพยานนี้ อาจทำให้สิบเอกณรงค์ชัยถูกฝากขังได้ถ้าไม่ได้รับการประกันตัว
.
ผมจึงอยากวอนขอพี่น้องประชาชนร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดกันต่อไปนะครับ เพื่อให้ประเด็นนี้ความจริงไม่ถูกเจือจางเลือนลางหายไปกับความเงียบ