ไม่เป็นไร ใครไม่ดูก็ไม่พลาดอะไรมาก
แม้จะประหลาดนิดหน่อยที่คราวนี้เล่นบทวิทยาการ “โลกเปลี่ยนเราต้องเปลี่ยน...ขับเคลื่อนไปข้างหน้า”
ชักชวนประชาชนช่วยกันออกไอเดีย ฉายหนังเก่าซ้ำซาก แต่ที่เขาแจงกันในสภาเรื่องใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหลายล้านๆ
ไม่ยักฟัง
เห็นจะเป็นภาคเสริมของเมื่อวาน เตรียมดัน ‘กฎหมายนิรโทษกรรม’ ออกมาปลายปีนี้ ให้แก่พวกที่โดนคดีการเมืองทั้งหลาย
“เพื่อนำประเทศไปสู่การปรองดอง” แต่ไม่รวมถึงคดีทุจริตและอาชญากรรมร้ายแรง ข้อสำคัญไม่รวมคดีหมิ่นกษัตริย์
ม.๑๑๒
และยิ่งสำคัญมากกว่า ข่าว ‘ฐานเศรษฐกิจ’ เครือ ‘เนชั่น’
เน้นว่า “ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับนายสุเทพ
เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตแกนนำ กปปส.แล้ว” จึงทำให้ ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข
ว้อยซ์ทีวี ฟันธงว่าทำไมถึงมาทำกันตอนนี้
“เพราะว่าคุณสุเทพใกล้คุกแล้วไง ตอบง่ายๆ...เพราะว่าคดีที่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว
(ติดคุกแล้ว-ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ แทรก) ออกจากคุกแล้ว มีบางคนที่โดนตลอดชีวิต...คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ออกจากคุก”
ชูวัสย้ำให้ชัดลงไปอีกว่าแกนนำบางคนของ
นปช. อย่างจตุพร พรหมพันธ์ หมอเหวง โตจิราการ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าข่าย “นอกนั้นจะไปช่วยพันธมิตรฯ
และ กปปส.ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้เข้าคุก (ยึดสนามบงสนามบิน ยึดทำเนียบ-ศิโรตม์เสริมด้วยว่า)
“แล้วเสื้อแดงเขาไม่เคยเรียกร้องให้ทำแบบนี้
เขาเรียกร้องให้เอาทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ให้ทุกคนลอยนวลนะ”
หากแต่ฐานฯ เสนอข่าวดันอาณิสงค์ไปถึง ‘อนาคตใหม่’
คดีคนอยากเลือกตั้ง และ แฟล้ชม้อบด้วย
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว
ยังแต่พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างแข็งขันต่อไปในสภา แกนหลักของพรรคอย่าง
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ไปทำหน้าที่ ‘ประชาชน’ เต็มขั้น รณรงค์ชี้ผิด
เสนอถูกอย่างไม่ย่นย่อ
เครือข่ายสืบทอดอำนาจ คสช.นั่นต่างหากที่ไม่หยุดยั้งคุกคามเสรีภาพ
และไม่รั้งรอจัดให้คนของรัฐกระทำการก่อกวนล่วงละเมิดการดำเนินชีวิตส่วนบุคคลของพวกเขา
ดังที่ ปิยบุตรแห่งคณะก้าวหน้าบ่นมาหลายวัน ระหว่างลงพื้นที่อีสาน
“ตำรวจสันติบาล-เจ้าหน้าที่ความมั่นคง
ติดตามผมตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ตามผมไปทุกที่”
ทั้งที่สำนักงาน ตลาด ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก นอกจาก “พยายามสอบถามเส้นทางการเดินทาง
ตารางงาน” แล้วยัง
“ถ่ายภาพผู้ที่มาพูดคุยกับผม
พร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถที่ใช้เดินทางมาด้วย” เกาะติดขนาดนี้เหมือนบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ยึดอำนาจอีกแล้วหรือ
“มีคำสั่งให้ติดตามนักการเมืองทุกคนแบบเดียวกับผมหรือไม่” ปิยบุตรบอก
แค่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ๑๐ ปี นะครับ “แต่ผมก็ยังคงเป็นพลเมืองไทย
รักชาติ รักประชาธิปไตย อยากให้สังคมไทยก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
หยุดคุกคามเสรีภาพและความเป็นอยู่ส่วนตัว...ของเราได้แล้ว” เมินเสียเถอะ วันรุ่งขึ้นเอาอีก
“ยังไม่หยุดเสียที”
@Piyabutr_FWP ทวี้ตว่าเพื่อนอาจารย์ในทุกมหาวิทยาลัยในจังหวัดภาคอีสานโดนรบกวนโทรศัพท์สอบถาม
“ว่าผมจะเดินทางไปที่ไหน ทำอะไร พบกับใครบ้าง...ล่าสุดที่ยโสธร
ผมไปกินมื้อเย็นกับทีมงาน ยังไปดักรอที่ร้านอาหารได้อีก”
นี่ไง ‘ไอเดีย’ รวมไทยสร้างชาติ ที่ตู่เชิญประชาชนช่วยเสนอ ถ้าผู้ที่กำอำนาจรัฐเลิกเอาอำนาจนั้นไปก้าวล้ำ
สร้างความรำคาญและหวาดกลัวต่อฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับการบริหารชนิด ‘ห่วยแตก’ ของตน ไม่หยุดหย่อนอย่างนี้ละก็
‘ปรองดอง’ ก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อยกหางฝ่ายตน
และกดขี่อีกฝ่ายเท่านั้นเอง