วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 18, 2563

'ปรับลุค' จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อปรองดอง ที่ไหนได้ ถาม 'เทพเทือก' แล้วนี่

กรี๊ด ไอทู้บปรับลุค เปลี่ยนมาด วางท่าใหม่ให้ดูเคร่งและสุขุม เพื่อออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แต่คงมีหลายคนอดเห็นเพราะมัวแต่ดีใจ อย่างที่ บก.ลายจุด @nuling ว่า “ได้ยินข่าวแจ้งล่วงหน้า” จะมีนายกฯ ปราศรัยตอน ๖ โมงเย็น เลย “ได้ปิดทีวี”

ไม่เป็นไร ใครไม่ดูก็ไม่พลาดอะไรมาก แม้จะประหลาดนิดหน่อยที่คราวนี้เล่นบทวิทยาการ “โลกเปลี่ยนเราต้องเปลี่ยน...ขับเคลื่อนไปข้างหน้า” ชักชวนประชาชนช่วยกันออกไอเดีย ฉายหนังเก่าซ้ำซาก แต่ที่เขาแจงกันในสภาเรื่องใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหลายล้านๆ ไม่ยักฟัง

เห็นจะเป็นภาคเสริมของเมื่อวาน เตรียมดัน กฎหมายนิรโทษกรรมออกมาปลายปีนี้ ให้แก่พวกที่โดนคดีการเมืองทั้งหลาย “เพื่อนำประเทศไปสู่การปรองดอง” แต่ไม่รวมถึงคดีทุจริตและอาชญากรรมร้ายแรง ข้อสำคัญไม่รวมคดีหมิ่นกษัตริย์ ม.๑๑๒

และยิ่งสำคัญมากกว่า ข่าว ฐานเศรษฐกิจเครือ เนชั่นเน้นว่า “ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตแกนนำ กปปส.แล้ว” จึงทำให้ ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข ว้อยซ์ทีวี ฟันธงว่าทำไมถึงมาทำกันตอนนี้

“เพราะว่าคุณสุเทพใกล้คุกแล้วไง ตอบง่ายๆ...เพราะว่าคดีที่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว (ติดคุกแล้ว-ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ แทรก) ออกจากคุกแล้ว มีบางคนที่โดนตลอดชีวิต...คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ออกจากคุก”
ชูวัสย้ำให้ชัดลงไปอีกว่าแกนนำบางคนของ นปช. อย่างจตุพร พรหมพันธ์ หมอเหวง โตจิราการ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าข่าย “นอกนั้นจะไปช่วยพันธมิตรฯ และ กปปส.ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้เข้าคุก (ยึดสนามบงสนามบิน ยึดทำเนียบ-ศิโรตม์เสริมด้วยว่า)

“แล้วเสื้อแดงเขาไม่เคยเรียกร้องให้ทำแบบนี้ เขาเรียกร้องให้เอาทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ให้ทุกคนลอยนวลนะ” หากแต่ฐานฯ เสนอข่าวดันอาณิสงค์ไปถึง อนาคตใหม่คดีคนอยากเลือกตั้ง และ แฟล้ชม้อบด้วย

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว ยังแต่พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างแข็งขันต่อไปในสภา แกนหลักของพรรคอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ไปทำหน้าที่ ประชาชน เต็มขั้น รณรงค์ชี้ผิด เสนอถูกอย่างไม่ย่นย่อ

เครือข่ายสืบทอดอำนาจ คสช.นั่นต่างหากที่ไม่หยุดยั้งคุกคามเสรีภาพ และไม่รั้งรอจัดให้คนของรัฐกระทำการก่อกวนล่วงละเมิดการดำเนินชีวิตส่วนบุคคลของพวกเขา ดังที่ ปิยบุตรแห่งคณะก้าวหน้าบ่นมาหลายวัน ระหว่างลงพื้นที่อีสาน

“ตำรวจสันติบาล-เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ติดตามผมตั้งแต่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ตามผมไปทุกที่” ทั้งที่สำนักงาน ตลาด ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก นอกจาก “พยายามสอบถามเส้นทางการเดินทาง ตารางงาน” แล้วยัง

“ถ่ายภาพผู้ที่มาพูดคุยกับผม พร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถที่ใช้เดินทางมาด้วย” เกาะติดขนาดนี้เหมือนบ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ยึดอำนาจอีกแล้วหรือ “มีคำสั่งให้ติดตามนักการเมืองทุกคนแบบเดียวกับผมหรือไม่” ปิยบุตรบอก

แค่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ๑๐ ปี นะครับ “แต่ผมก็ยังคงเป็นพลเมืองไทย รักชาติ รักประชาธิปไตย อยากให้สังคมไทยก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หยุดคุกคามเสรีภาพและความเป็นอยู่ส่วนตัว...ของเราได้แล้ว” เมินเสียเถอะ วันรุ่งขึ้นเอาอีก

 “ยังไม่หยุดเสียที” @Piyabutr_FWP ทวี้ตว่าเพื่อนอาจารย์ในทุกมหาวิทยาลัยในจังหวัดภาคอีสานโดนรบกวนโทรศัพท์สอบถาม “ว่าผมจะเดินทางไปที่ไหน ทำอะไร พบกับใครบ้าง...ล่าสุดที่ยโสธร ผมไปกินมื้อเย็นกับทีมงาน ยังไปดักรอที่ร้านอาหารได้อีก”
นี่ไง ไอเดีย รวมไทยสร้างชาติ ที่ตู่เชิญประชาชนช่วยเสนอ ถ้าผู้ที่กำอำนาจรัฐเลิกเอาอำนาจนั้นไปก้าวล้ำ สร้างความรำคาญและหวาดกลัวต่อฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับการบริหารชนิด ห่วยแตก ของตน ไม่หยุดหย่อนอย่างนี้ละก็

ปรองดอง ก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อยกหางฝ่ายตน และกดขี่อีกฝ่ายเท่านั้นเอง