ยื่นเรียบร้อย หนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เดี๋ยวหมายเรียกผู้ต้องหาอย่างเป็นทางการ จะได้ตามเก็บรายละเอียดเรียงกระทรวงต่อไป
ช่วงนี้ส่งใจไป #saveโรม กันก่อน ทนายน้อยๆมีองค์ ไม่ต้องห่วงครับ
อานนท์ นำภา
...
อานนท์ นำภา : ทนายความสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์
THAI NEWS PIX
คำบรรยายภาพนายอานนท์ นำภา เดินทางไปยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
19 มิถุนายน 2020
บีบีซีไทย
นายอานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
นายอานนท์เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และขอให้มีการเรียกรับคืนงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น มาใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ด้วย
นายอานนท์บอกกับบีบีซีไทยก่อนเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มาจากการที่เขาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับที่มา ของงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และต่อมามีผู้อ้างว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขา ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 35 ปีรายนี้บอกว่าแม้จะยังไม่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจเป็นทางการ แต่เมื่อมีผู้อ้างว่าไปแจ้งความดำเนินคดีพร้อมกับโพสต์ภาพบันทึกคำให้การในโซเชียลมีเดีย เขาจึงจำเป็นต้องแสวงหาข้อมูลหลักฐานเพื่อเตรียมไว้สำหรับต่อสู้คดี
"เมื่อเขาบอกว่าได้มีการแจ้งความแล้ว ผมก็ตกเป็นผู้ต้องหา ผมจึงต้องหาพยานหลักฐานจาก พระราชบัญญัติงบประมาณฯ และรายละเอียดการใช้งบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรี จึงต้องมาร้องเรียนวันนี้"
19 มิถุนายน 2020
บีบีซีไทย
นายอานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินอันเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
นายอานนท์เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาลเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และขอให้มีการเรียกรับคืนงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น มาใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ด้วย
นายอานนท์บอกกับบีบีซีไทยก่อนเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มาจากการที่เขาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับที่มา ของงบประมาณเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และต่อมามีผู้อ้างว่าได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเขา ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 35 ปีรายนี้บอกว่าแม้จะยังไม่ได้รับหมายเรียกจากตำรวจเป็นทางการ แต่เมื่อมีผู้อ้างว่าไปแจ้งความดำเนินคดีพร้อมกับโพสต์ภาพบันทึกคำให้การในโซเชียลมีเดีย เขาจึงจำเป็นต้องแสวงหาข้อมูลหลักฐานเพื่อเตรียมไว้สำหรับต่อสู้คดี
"เมื่อเขาบอกว่าได้มีการแจ้งความแล้ว ผมก็ตกเป็นผู้ต้องหา ผมจึงต้องหาพยานหลักฐานจาก พระราชบัญญัติงบประมาณฯ และรายละเอียดการใช้งบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรี จึงต้องมาร้องเรียนวันนี้"
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการในพระองค์
งบประมาณ 2563 : กลาโหม “ไม่มีประเด็น/รายการที่เป็นข้อสงสัย” หลังรัฐบาลประยุทธ์จัดงบให้ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7%
โปรดเกล้าฯ พ.ร.ก. โอนกำลังพล-งบประมาณบางส่วนของกรมทหารราบที่ 1-ราบ 11 ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
THAI NEWS PIX
คำบรรยายภาพนายอานนท์ยื่นจดหมายที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล
เอกสารบันทึกคำให้การดังกล่าวถูกนำมาโพสต์ด้วยสมาชิกของเพจเฟซบุ๊ก "อึ้งเอี๊ยะซือ เทื้อเอี้ยวเกีย V3" โดยปกปิดข้อมูลบางส่วน แต่มีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า ผู้ให้การมาพบพนักงานสอบสวน "เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ (ข้อความถูกลบ) ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก (ข้อความถูกลบ) ในความผิดฐาน "นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์"
บีบีซีไทยไม่สามารถติดต่อกับผู้ดำเนินการของ เพจเฟซบุ๊ก "อึ้งเอี๊ยะซือ เทื้อเอี้ยวเกีย V3" เพื่อสอบถามเรื่องนี้ และไม่สามารถยืนยันได้ว่า เอกสารบันทึกการให้ปากคำนี้เป็นเอกสารที่แจ้งความนายอานนท์จริงหรือไม่ และยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นการแจ้งความที่สถานีตำรวจใด
ในจดหมายร้องเรียน นายอานนท์ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลไปให้พนักงานสอบสวนและขอให้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นพยานในคดีนี้ด้วยตนเอง
นายอานนท์ยอมรับว่าการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อาจมีความสุ่มเสี่ยงอยู่บ้าง และมีหลายคนแสดงความห่วงใยเขาและครอบครัว เพราะลูกสาวของเขายังเล็ก
"แต่นี่เป็นเรื่องที่ต้องทำ ในฐานะทนายความสิทธิมนุษยชน ผมจำเป็นต้องต่อสู้เมื่อมีการละเมิดสิทธิ และต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง"
"อีกอย่างหนึ่งผมมองว่าในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การขอข้อมูลหรือตรวจสอบหน่วยงานของรัฐที่รับเงินจากงบประมาณแผ่นดินเป็นเรื่องที่กระทำได้ ไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อนอะไร" นายอานนท์กล่าว
"เราไม่ได้สู้กับใคร หรือสถาบันใด เราสู้กับความอยุติธรรมและความไม่สมเหตุสมผลทั้งปวง" เขาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กวันนี้
นายอานนท์ จบการศึกษาปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ช่วงที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่เป็นทนายความให้จำเลยในคดีทางการเมืองหลายคดี เช่น คดีของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บก.ลายจุด" รวมทั้งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น การเรียกร้องประชาธิปไตยและการต่อต้านรัฐประหาร
เอกสารบันทึกคำให้การดังกล่าวถูกนำมาโพสต์ด้วยสมาชิกของเพจเฟซบุ๊ก "อึ้งเอี๊ยะซือ เทื้อเอี้ยวเกีย V3" โดยปกปิดข้อมูลบางส่วน แต่มีข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า ผู้ให้การมาพบพนักงานสอบสวน "เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ (ข้อความถูกลบ) ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก (ข้อความถูกลบ) ในความผิดฐาน "นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์"
บีบีซีไทยไม่สามารถติดต่อกับผู้ดำเนินการของ เพจเฟซบุ๊ก "อึ้งเอี๊ยะซือ เทื้อเอี้ยวเกีย V3" เพื่อสอบถามเรื่องนี้ และไม่สามารถยืนยันได้ว่า เอกสารบันทึกการให้ปากคำนี้เป็นเอกสารที่แจ้งความนายอานนท์จริงหรือไม่ และยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นการแจ้งความที่สถานีตำรวจใด
ในจดหมายร้องเรียน นายอานนท์ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องส่งข้อมูลไปให้พนักงานสอบสวนและขอให้ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นพยานในคดีนี้ด้วยตนเอง
นายอานนท์ยอมรับว่าการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อาจมีความสุ่มเสี่ยงอยู่บ้าง และมีหลายคนแสดงความห่วงใยเขาและครอบครัว เพราะลูกสาวของเขายังเล็ก
"แต่นี่เป็นเรื่องที่ต้องทำ ในฐานะทนายความสิทธิมนุษยชน ผมจำเป็นต้องต่อสู้เมื่อมีการละเมิดสิทธิ และต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง"
"อีกอย่างหนึ่งผมมองว่าในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การขอข้อมูลหรือตรวจสอบหน่วยงานของรัฐที่รับเงินจากงบประมาณแผ่นดินเป็นเรื่องที่กระทำได้ ไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อนอะไร" นายอานนท์กล่าว
"เราไม่ได้สู้กับใคร หรือสถาบันใด เราสู้กับความอยุติธรรมและความไม่สมเหตุสมผลทั้งปวง" เขาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กวันนี้
นายอานนท์ จบการศึกษาปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ช่วงที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่เป็นทนายความให้จำเลยในคดีทางการเมืองหลายคดี เช่น คดีของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บก.ลายจุด" รวมทั้งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น การเรียกร้องประชาธิปไตยและการต่อต้านรัฐประหาร