๒๔ มิถุนาปีนี้คึกคักมากส์ ชนิด Eak_TheStandard เรียก #สัปดาห์ประชาธิปไตย
นั่นเชียว เพราะมีการจัดงานสร้างสรรค์ อภิปราย เสวนา นิทรรศการ ไปกระทั่งนัดหมายร่วมกันแสดงปณิธาน
สืบทอดคำประกาศคณะราษฎรเมื่อ ๒๔๗๕
เขานับเอาจากโปสเตอร์โฆษณาเกลื่อนกลาดทางโซเชียลมีเดีย
อย่างน้อยๆ ๑๕ รายการ ทั้งในกรุงและหัวเมือง ไม่ว่าพุธนี้ตีห้า ๒๔ มิถุนา
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สกายว้อคหรือหน้าตึกรัฐสภา กับที่ไหนๆ ทั่วประเทศ
เชียงใหม่ อยุธยา ระยอง สารคาม สุรินทร์ และออนไลน์
ตั้งแต่เล่าเรื่อง ๒๔๗๕
ผ่านความทรงจำของสามัญชน อ่านประกาศคณะราษฎรอีกครั้ง ทวงคืนมรดกจากคณะอภิวัฒน์สยาม
ไปถึงพูดกันเรื่องอำนาจอธิปไตย อำนาจทหาร การบังคับให้สูญหาย
กระทั่งวิถีประชาธิปไตยแบบ ‘นิว (ab)
นอร์มอล’
ยุคที่เป็นการสืบทอดอำนาจรัฐประหารอย่างอำพราง
กำลังเข้าสู่โหมดการเมืองแบบกึ่งพุทธกาลที่ตำรวจทหารไล่กำจัดนักการเมืองพรรคฝ่ายตรงข้าม
พร้อมไปกับพวกนักยึดอำนาจเข้าไปกำกับพรรคการเมือง ‘ลิงกินกล้วย’
และกวาดต้อนบริวาร
บรรดา ๑๑ พรรคปัดเศษที่
กกต.ใช้วิธีการคำนวณแบบพิศดาร แจกที่นั่ง ส.ส.ให้พรรคละหนึ่งที่ รอเวลาผ่องถ่ายเหมารวมเข้าไปอยู่ใน
พปชร. เอาอย่างบางรายที่ใช้วิธียุบพรรคตัวเองแล้วย้าย ล่าสุดมี ๗ ใน ๑๑ พรรค ประกาศส่งตัว
‘เต้’ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เข้าวงใน
พิเชษฐ สถิรชวาล
แกนนำอาวุโสของกลุ่ม ๑๑ พรรค
เปิดแถลงข่าวมโหฬารเสนอให้รัฐบาลประยุทธ์และหัวหน้าประวิตร รับมงคลกิตติ์ไปเป็นรัฐมนตรี
‘นิวนอร์มอล’ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า “ถนัดที่สุดเรื่องเศรษฐกิจ” เสียด้วย คงสนุกกันใหญ่
รูปการณ์ต่อนี้ไปจะกลับไปสู่ยุค
‘พยัคฆ์’ กระชับอำนาจด้วยการขุนนักการเมือง ทั้งประเภท ‘ลิง’
และ ‘แรด’ ด้วยการแจกจ่ายผลประโยชน์ต่างตอบแทน
เชื่อแน่ว่าบรรดาคนที่ บก.ลายจุดแนะ จะได้เป็นรัฐมนตรีเรียงหน้ากันต่อไป
“๑.แรมโบ้อีสาน ๒.ไพบูลย์
บุดดร้า ๓.สิระ ศิษย์พุทธอิสระ ๔.เอ๋ ปารีณา อดีตนางงามเล้าไก่” รายหลังนี่ยังไม่หยุด
‘ป่วน’
เห็นโพสต์ท้าอดีตนายกฯ หญิง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้กลับไปประชันฝีมือกัน
หลังจากที่พยายามชวนตีกับ ‘ช่อ’ คณะก้าวหน้า
แล้วเขาไม่แยแส
อีกอย่างที่ยังขาดไม่ได้สำหรับการเมืองแบบนักยึดอำนาจ
นั่นก็คือ ‘โกงเลือกตั้ง’
ด้วยการฝึกฝน ‘วิชามาร’
จากนักการเมืองเขี้ยวลากดินทั้งหลายที่ดูดเอาไปเข้าพรรค นัยว่าเหตุที่มอบหมาย ‘เฮียป้อม’ ไปคุมพลังประชารัฐเพราะแกถนัดเกลี่ยเฉลี่ยกล้วย
ฝีมือกำกับอย่างประวิตร
วงษ์สุวรรณ ออกลายให้เห็นก่อนเข้าไปกุมพรรค พปชร.อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
จากการเลือกตั้งซ่อมที่ลำปาง เขต ๔ ผู้สมัครพลังประชารัฐชนะอย่างท่วมท้น ชนิดว่าคะแนนนำคู่แข่งจากพรรคเสรีรวมไทยทิ้งห่าง
ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
วัฒนา สิทธิวัง ได้คะแนนแค่สามหมื่น พ่ายผู้สมัครพรรคเพื่อไทยกว่าหมื่นสองพันคะแนน
คราวนี้วัฒนาเอาชนะตัวเต็งจากพรรคเสรีรวมไทยกว่าสองหมื่นคะแนน เหมือนว่าผู้คนสนใจไปใช้สิทธิชนิดประวัติการณ์
ใช่สิ เลือกเสร็จพบว่าจำนวนบัตรคะแนนที่อยู่ในหีบ
มากกว่าจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดของเขตนี้ อีกทั้งมีชาวบ้านโวยวายกันว่า
พรรครัฐบาลซื้อเสียงด้วยการจ่ายหัวละ ๖๐๐ บาท
มีภาพหลักฐานธนบัตรใบละร้อยเย็บเป็นชุดละ ๓ ใบ
“นำมาให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว
สามารถระบุชื่อของคนที่แจกเงินได้ และมีพยานที่พร้อมให้การกับเจ้าหน้าที่”
นี่จากข้อมูลที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร นำเอามาเปิด บอกได้รับจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
สมชัยแจ้งว่าการกระทำอย่างนั้น “เป็นการกระทำผิดตาม
พรบ.การเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา ๗๓ (๑)” ผู้แจกเงินมีโทษจำคุก ๑-๑๐ ปี ปรับ ๒ หมื่นถึง ๒ แสน และ กกต.ต้องดำเนินการตามมาตรา
๑๓๒ คือ “ให้ใบเหลือง ใบแดง หรือใบส้ม แล้วแต่กรณี”
นายทะเบียนพรรคเสรีรวมไทยก็เลยไปแจ้งความตำรวจพื้นที่เขตเลือกตั้ง
พร้อมทั้งแจ้ง กกต. ว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง “โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง”
ซึ่งสมชัยแนะให้ กกต.กลาง ควรเปิดการสอบสวน และ “ไม่ควรเร่งรีบประกาศผล”
(https://www.naewna.com/politic/500843,
https://www.matichon.co.th/politics/news_2238702และ https://mgronline.com/politics/detail/9630000064072)
มาตามดูว่ากรณีลำปางนี้ กกต.จะออกลายไหน เพื่อให้พรรครัฐบาลได้คะแนนในสภาเพิ่มอีก ๑ คน