วันพฤหัสบดี, มกราคม 31, 2562

กทม.เตรียมโดรนพ่นน้ำหวานแก้ฝุ่น แต่น้ำลายกระจายเต็มเว็บ


ยังไม่ทันได้พ่นน้ำหวาน เงื้อง่าราคาแพง แต่น้ำลายกระจายเต็ม ค่าฝุ่นละอองเป็นพิษในอากาศนครแบงค็อกถีบขึ้นไปเป็นอันดับ ๘ ของโลกแล้ว

เมื่อตอนหลังเที่ยงวันพุธ Greenpeace Thailand @greenpeaceth แจ้งว่า “คุณภาพอากาศวัดแบบ real-time (USEPA) ขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 8 ของเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก #ฝุ่นPM25 #ฝุ่นกรุงเทพ #ฝุ่นละอองขนาดเล็ก”

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวไทย อสมท @TNAMCOT แถลง “กทม.เตรียมบินโดรน ๕๐ ตัว พ่นน้ำหวานดักจับฝุ่น หวังลดฝุ่นจิ๋วพรุ่งนี้! ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับแม้สิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้ช่วยลดปัญหาได้ ๑๐๐% แต่ยังดีกว่าไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย”

รายละเอียดก็คือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ที่ คสช.แต่งตั้ง เผยมาตรการแก้ปัญหาโดนประชาชนด่ายับเรื่องฝุ่นแล้วกระทบไปถึงเรตติ้งว่าที่นายกรัฐมนตรีในรายชื่ออันดับ ๑ ของพรรคพลังประชารัฐ
 
ได้มีการประสานงานร่วมกับชมรมโดรนของนครราชสีมา นำโดรนขนาดเล็ก ๕๐ ตัว พร้อมคนบังคับ ๕๐ คน ที่สามารถบรรทุกน้ำได้ ตัวละ ๑๐ ลิตร มาพ่นเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง” สงสัยเป็นเพราะไอเดียเฮียป้อมจะขึ้นไปพ่นบนยอดตึกใบหยก แล้วคนร้องฮ้า พ่นผิดที่เลยเงียบไป

นัยว่าพ่นด้วยโดรนครั้งนี้จะวิเศษกว่าเดิมเพราะน้ำที่พ่นไม่ใช่น้ำเฉยๆ แต่จะผสมน้ำหวาน กากน้ำตาล หรือ โมลาส เข้าไปด้วย ให้มีสมรรถภาพในการจับฝุ่น พีเอ็ม .๒๕ ได้ฉมัง วันก่อนไปลองพ่นแล้วเหนือบึงอะไรเนี่ย พลเมืองไซเบอร์ร้องเฮ้ย ปลาตายหมด

แต่ว่า กทม. เตรียมเลี่ยงภัยไว้แล้ว ในการพ่นวันพรุ่งนี้ ๓๑ มกรา “ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรถน้ำไว้ล้างถนนและล้างรถยนต์ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการในวันพรุ่งนี้”


มาตรการอื่นแก้ผลกระทบข้างเคียงของ เวรวิธีกำจัดฝุ่นโดย กทม. ก็คือ “ผู้ว่าฯ กทม. แถลง สั่งปิดโรงเรียนสังกัด กทม. ๔๓๗ แห่ง เพื่อป้องกันผลกระทบกับเด็กนักเรียนจากปัญหาฝุ่นจิ๋ว ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ น. วันนี้ ถึงวันศุกร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒”

คนเห็นด้วยก็มี ยิ่งชีพ (เป๋า) @yingcheep ขานรับ “เห็นด้วยครับ ให้หยุดเถอะ ให้น้องๆ พักผ่อนอยู่บ้าน พ่อแม่ก็ไม่ต้องขับรถ ลองดูเผื่อจะบรรเทาลงบ้างนะ” แต่คนที่ด่าก็ยังไม่หายไปไหน Brian♥ @brian_the_lover ย้อนให้

สั่งปิดโรงเรียนหนีฝุ่น คือ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แถมสั่งปิดเฉพาะโรงเรียนในสังกัด กทม. แล้ว โรงเรียนอื่น ๆ ที่ไม่ได้สังกัด กทม. ไม่สั่งปิด ไม่เป็นห่วงสุขภาพเด็กหรือไง” จะว่าเป็น นานาจิตตังตามประสาประชาธิปไตยก็ไม่ถนัด

เพราะ “นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ชี้สั่งปิด รร.แก้ปัญหาปลายเหตุ แนะเร่งหาต้นต่อฝุ่นจิ๋ว-เข้มงวดใช้ กม.” JS100 @js100radio รายงานไว้ที่นี่ http://www.js100.com/en/site/news/view/68136

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อย่างที่ Weeranan Kanhar @weeranan ชี้ชัดว่า “หนักจริง แถลงข่าวยังต้องใส่ 'หน้ากาก N95'

แล้วก็มันไม่ใช่แค่นั้น ตอนนี้ประชากรออนไลน์ทั้งเม้าท์ ทั้งก่น จนจะเป็นดราม่าชุดใหม่ เช่นกรณี โหน่งวงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ที่ย้ายสำมโนจาก อะเดย์ มาเป็นหน้าตาของ เดอะสแตนดาร์ดขณะนี้ เกิดมีข้อคิดสุดเก๋าขึ้นมา

เขาแนะนำว่าพวกคนรุ่นใหม่ เด็กจบใหม่น่าจะออกไปหางานทำในต่างจังหวัด จะได้พ้นจากปัญหาเมืองกรุง ไหนจะรถติด แล้วมาเจอฝุ่นละอองมลพิษกันอีก ก็เลยเจอขาโต้อย่าง ณรรธราวุธ เมืองสุข ว่า “คูลแค่เปลือกนอกครับ แต่เนื้อในค่อนข้าง idiot มากๆ” 
แรงส์ เขาเขียนยาวลงเนื้อหาเรื่องค่าฝุ่นจิ๋วตามตัวเลขของกรีนพี้ช โต้แย้งหักล้างกลางแสกหน้า “ค่าฝุ่นละอองและจำนวนวันที่เผชิญค่าเกินมาตรฐาน พบว่า ๗ อันดับแรกไม่ได้อยู่ใน กทม. เลย”

ลงท้ายกลายเป็น ‘character assassination’ สังหารกันที่บุคคลิกภาพ ไปเสียฉิบว่า “ทวี้ตนั้นของวงศ์ทนงแค่สะท้อนความรู้สึกลึกๆ ว่าอยากไล่ให้คนรุ่นใหม่ๆ กระจายออกไปใช้ชีวิตตามยถากรรมในเมืองอื่น โดยไม่ต้องมาแย่งอากาศหายใจ แย่งถนน แย่งอยู่แย่งกินกันในกรุงเทพฯ เพื่อให้คนชั้นกลางค่อนข้างสูงอยู่ปลอดโปร่งโล่งสบายขึ้น ต่างหาก”

จากดร่าม่าธรรมดากลายเป็นฟัดเหวี่ยงทางชนชั้นไปแล้ว แต่ในละแวกการสนทนาปัญหาสังคมโดยคนรุ่นใหม่ (ถึงจะอายุเก่าๆ อย่างวงศ์ทนง) ก็ยังมีแบบที่ ‘delighted’ ซาบซ่าในอารมณ์อยู่บ้าง อย่างเช่นการสนทนาต่อโพสต์ของ Athikhom Khoms Khunawut (น่าจะรุ่นใหม่วัยก้ำเหมือนกัน) หัวใจของ เวย์แม็กกาซีน

เขาว่า “การส่งเสริมให้ชาวกรุงเทพฯ ปลูกกล้วยทุกครัวเรือน อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 มากนัก แต่อย่างน้อย มันน่าจะมีส่วนช่วยเยียวยาจิตใจ เวลารับทราบข่าวคราวมาตรการแก้ไขปัญหา เราจะได้รู้ว่าควรนำผลผลิตที่ได้ไปแจกจ่ายให้ใครบ้าง”

คนไกลปืนเที่ยงอย่างเราๆ ฟังอาจไม่เข้าใจลึกซึ้งซึมซับ ต้องไปดูเพื่อนพ้องของเขาคอมเม้นต์แล้วจึงร้องอ๋อ ถึงบางอ้อ โดยเฉพาะ Kitthanate Kullasethwattana นี่ยิงกลางเป้า

“อะไรคือปัญหา ปัญหาฝุ่น PM 2.5 หรือ ปัญหา PM 4.O...เอ๊ะ! PM ย่อมาจาก Prime Minister เปล่าครับ” นั่นไง ใครล่ะ “บานาน่า รีพับลิก ไหมล่ะมึง” โจ่งแจ้ง 

ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก ๔.๐ เปลี่ยนเป็น ๐.๔ อย่างที่ กานดา นาคน้อย recommended ด้วยละก็เจ๋ง