‘สามัคคีก่อนเลือกตั้ง’ แบบไหนเนี่ย
จัดม็อบมาชนม็อบแล้วเสือกอ้าง “เพื่อแสดงพลังว่าประชาชนต้องการยุติความวุ่นวาย”
ยุติความวุ่นวายด้วย ‘พลัง’ มันคือจุดไฟ
ลงวันตรงกับกลุ่มคน #อยากเลือกตั้ง พอดี ๑๙ มกรา ๖๒ เวลาบ่ายสาม
ก็อย่างที่ ‘จ่านิว’ สิรวิชญ์
เสรีธิวัฒน์ ว่า “ทำไมจึงประกาศชุมนุมในที่ซึ่งมีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งประกาศชุมนุมอยู่แล้ว
สถานที่อื่นมีร้อยแปดพันเก้า เพียงเท่านี้ก็รู้เจตนาแล้ว สุดท้ายก็เตะหมูเข้าปาก
คสช.”
ดูท่าแล้วคงม็อบจัดตั้งโดย คสช.นั่นละ บอก “เพื่อหยุดความวุ่นวาย”
ที่ยังไม่มีเค้าจะเกิด เว้นแต่เจ้าหน้าที่ออกมาทำ ‘เกินกว่าเหตุ’ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียแก่เจ้าหน้าที่ คสช. ก็ใช้ม็อบ ‘พลังประชาชน...ยุติความวุ่นวาย’ แทน
“ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 ม.ค.
ในการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้มีการประกาศเงื่อนไขว่า หากภายในวันที่ 18
ม.ค. 2562 ยังไม่มีการประกาศ
พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ลงในราชกิจจานุเบกษา และยังไม่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนจะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่
19 ม.ค. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”
ทางผู้จัด อานนท์
นำภา บอก ชุมนุมอย่างสงบ สันติ
เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ “ความสำคัญจึงอยู่ที่ต้องมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง
จึงจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งได้”
แต่นี่ “วันที่ ๑๙ เราจะถูกท้าทายโดยฝ่ายตรงข้าม
อาจมีการยั่วยุ สร้างสถานการณ์ต่างๆ
แต่ผมเชื่อว่าพวกเราผ่านการชุมนุมและมีประสบการณ์แล้ว เราสามารถผ่านมันไปได้แน่นอน”
กระนั้นก็ดี Bow Nuttaa Mahattana แถลงการณ์ส่วนตัวว่า “โบว์ตัดสินใจไม่เข้าร่วมการชุมนุมวันเสาร์นี้นะคะ
เพราะพิจารณาสถานการณ์ประกอบกับข้อมูล IO ที่ได้รับแล้ว” น่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
“ตัวเองในฐานะหนึ่งในแกนนำอาจจะไม่มีศักยภาพพอจะรับรองความปลอดภัยของทุกคนได้
หากเกิดเหตุการณ์ ‘ม็อบชนม็อบ’
ตามที่มีผู้ไม่หวังดีกำลังพยายามจัดการให้เกิดขึ้น” ถึงแม้ก่อนหน้านี้
“กกต.กับรัฐบาลแถลงสอดรับกันว่ามีแผนจะประกาศวันเลือกตั้ง
๒๔ มี.ค. และร่นวันประกาศผลให้ทัน ๙ พ.ค.ได้
เมื่อวันเลือกตั้งประกาศแล้ว
การรณรงค์เพื่อสนามเลือกตั้งที่เสรีเป็นธรรมและมีผลในทางปฏิบัติจะดำเนินต่อไป
แต่หากมีการบิดพลิ้วเป็นครั้งที่หก ประชาชนทุกภาคส่วนคงหมดความอดทนต่อรัฐบาล คสช.
และการเรียกร้องหลังจากนั้นคงไม่จำกัดเพียงการได้มาซึ่งวันเลือกตั้งที่เลื่อนลอยอีกต่อไป”
อย่างนี้ ถ้าจะไม่มีเลื่อนเลือกตั้งกันอีก
ดังที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ‘บิ๊กกบ’
(คงไม่ใช่ในกะลา) ออกมายันว่า “สภาวะของประเทศก็เป็นปกติ ไม่มีการเดินขบวน
ไม่มีการยับยั้งหรือการระงับเลือกตั้ง
การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงน่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่น ตอนนี้รอเพียงพระราชกฤษฎีกาลงมาเท่านั้น”
อย่างนั้นก็ไม่เห็นจะมีอะไร
ไฉนต้องทำตนเป็นกำลังพลสาย howl พล่ามอีกว่า “ฝากไปถึงกลุ่มต่างๆ ขอให้เคลื่อนไหวในกรอบ ในเส้น
ต้องทำตามกติกาเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อย...ไม่อยากให้เราไปหมกมุ่นหรือสังคมสนใจแต่เรื่องการให้ร้าย”
นั่นสิ
ก็ใครไม่รู้ทำ ที่มีภาพส่วนตัวในโรงแรมพิมพ์เป็นแผ่นปลิวโปรยที่ราชประสงค์
โดยเป้าหมายอยู่ที่แกนนำของฝ่ายอยากเลือกตั้ง ล่ะ ตรงกับคำของพลเอกพรพิพัฒน์
เบญญศรี พ่นไว่พอดีว่าเป็น “การมองโลกในแง่ร้าย