วันเสาร์, มกราคม 19, 2562

ไทยจะเป็นประเทศรายได้สูง ต้องเร่งเสริมต้นทุนมนุษย์ ธนาคารโลกชี้


ธนาคารโลกบอกให้ไทยเร่งเสริมเติม ต้นทุนมนุษย์ กับ ปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อก้าวไปสู่การเป็น “ชาติที่มีรายได้สูง” ในอนาคต

รายงานการเฝ้าดูเศรษฐกิจไทยของธนาคารโลกออกมาเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคมชี้ว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตรา ๓.๘% และจะเพิ่มขึ้นเป็น ๓.๙% ในปี ๒๕๖๓ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังจะเติบโตช้าและมีปัญหาตึงเครียดทางการค้าอยู่

“ทั้งๆ ที่มีเหตุกระแทกกระทั้นจากปัจจัยภายนอกทางการค้าและการท่องเที่ยว เมื่อปีที่แล้ว (๒๕๖๑) เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตถึง ๔.๑%” ตามการประเมินของธนาคารโลก

รายงานเน้นว่าการลงทุนทางด้านต้นทุนมนุษย์ หรือทักษะของประชาชน กับให้บริการสาธารณะเพื่อสนับสนุนพลเมือง ประกอบกับการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในอันที่จะทำให้ประเทศไทยยกระดับขึ้นไปเป็นชาติที่มีรายได้สูงได้

ไทยได้เป็นชาติที่มีรายได้ปานกลางขั้นสูงเมื่อปี ๒๕๕๔ หลังจากที่มีการรุดพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษ ไทยยังต้องใช้ความพยายามต่อไปอีกในการปรับปรุงบริการสาธารณะและการศึกษา เพื่อที่จะขยับขึ้นไปเป็นชาติรายได้สูง

เบอร์กิต แฮนเซิล ผู้จัดการฝ่ายกิจการประเทศไทยของธนาคารโลกระบุว่า “การรักษากระแสและคุณภาพของการปฏิรูปทางโครงสร้าง จะเป็นปัจจัยอันขาดไม่ได้ในการลดระดับความยากจน และยกระดับการเจริญเติบโตระยะยาวให้สูงกว่า ๔% ในภาวะการณ์อันท้าทายที่มีประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

การจะสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้แก่คนไทยทุกคนได้ กุญแจสำคัญอยู่ที่จะต้องเน้นการลงทุนทางต้นทุนมนุษย์ เข้าไปจัดการด้านการศึกษาและสุขภาพเป็นเรื่องแรก จะทำให้เกิดการสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมแก่คนรุ่นใหม่ได้ยาวนาน”

ธนาคารโลกเน้นว่าประเทศไทยควรจะให้ความสำคัญต่อปัญหาที่เผชิญหน้าบรรดาโรงเรียนขนาดย่อม เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กยากจนได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาระบบการบริหารในโรงเรียนและงบประมาณการศึกษาสาธารณะ

รายงานย้ำด้วยว่ารัฐบาลไทยควรจะใส่ใจเรื่องบริการสุขภาพ เพื่อทำให้อัตราการอยู่รอดของประชากรในวัยที่เติบใหญ่ต่อโรคภัยชนิดไม่ติดต่อและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนถนนดีขึ้น ทั้งสองอย่างนั้นไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของอัตราเฉลี่ยโลก