วันจันทร์, มิถุนายน 13, 2559

แถลงการณ์ของ จตุพร พรหมพันธุ์ 12 มิ.ย. 2559 เตรียมใจพีซทีวี ศูนย์ปราบโกงจะถูกปิด





https://www.youtube.com/watch?v=XzXVnEFJK58

ถอดคำแถลงการณ์ของ จตุพร พรหมพันธุ์ 12 มิ.ย. 2559

ที่มา FB

Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์


พี่น้องที่เคารพรักทุกท่าน ผมเองต้องขออนุญาตท่านทั้งหลายนะครับ ว่าช่วยนั่งนิ่งๆสักนิดหนึ่งนะครับ ให้เป็นอีกบรรยากาศหนึ่ง เดี๋ยวตอนร้องรำทำเพลงเราก็จะได้สนุกกันเหมือนเดิม เพราะว่าต่อไปนี้ผมต้องการจะสื่อสารไปยังผู้มีอำนาจ ขอเรียนพี่น้องนะครับ ช่วยนั่งกันนิดหนึ่ง เลิกเดินขวั่กไขว่กันไปกันมา เพราะว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดกับพีซทีวีในวันพรุ่งนี้นั้น ผมเชื่อโดยทันทีว่ามีการปิดสถานีฯ 100 %

คือสุภิญญา กลางณรงค์ เนี่ย ซึ่งก็เป็นรุ่นน้องที่เห็นตัวกันมายาวนาน เขาเองต้องการจะสื่อสารกับสังคมว่าพรุ่งนี้กำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น ความจริงเรื่องราวของพีซทีวีเนี่ยนะครับได้มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณา คือรายการเข้าใจตรงกันนะ ของณัฐวุฒิ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม และวันที่ 21 มีนาคม เนี่ยนะครับ และก็เข้มข่าวดึก วันที่ 24 มีนาคม รายการห้องข่าวเล่าเรื่องวันที่ 28 มีนาคม มีเนื้อหาต้องห้ามไม่ให้ออกอากาศ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97 ฉบับ 103 และเป็นการขัดต่อเงื่อนไขในการออกอากาศตามบันทึกข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกับสำนักงาน กสทช.

นอกจากนี้มีเรื่องของสถานีฯวอยซ์ นะครับ แต่ผมขออนุญาตข้ามมาที่พีซทีวีว่า สุพิญญา นี่นะครับกล่าวว่า นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเสนอให้เพิกถอนใบอนุญาตช่องพีซทีวี เพราะมีการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของร่างรัฐธรรมนูญ และลงประชามติซึ่งทางอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการได้วิเคราะห์เองว่า ไม่สามารถเอาผิดตามฐานมาตรา 37 ได้ ตามปกติของ กสทช. จึงต้องใช้ฐานอำนาจพิเศษคือประกาศ คสช. ซึ่งเสียงเนี่ยนะครับในอนุกรรมการฯก็ไม่เป็นเอกฉันท์ คือ 7 ต่อ 4 โดยเฉพาะความเห็นของนักวิชาการและนักกฎหมายมองว่าไม่ได้ผิดถึงขนาดนั้น
โดยเฉพาะถ้าถึงขั้นต้องเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนตัวก็เห็นต่างจากมติอนุเนื้อหา แต่เห็นด้วยกับอนุกรรมการเสียงข้างน้อย และคิดว่าตนเองจะเป็นเสียงข้างน้อยใน กสทช.

อีกครั้งที่เห็นต่างเรื่องการจะเพิกถอนใบอนุญาตช่องพีซทีวี เพราะเห็นว่าในสถานการณ์ปัจจุบันฝ่ายอำนาจรัฐก็ควบคุมการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายค้านได้ค่อนข้างเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว ถ้าจะปิดทีวีดาวเทียมฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนี้ก็โดนลดโทนลงมากแล้ว จะยิ่งทำให้สถานภาพด้านสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมืองของไทยลดลงอีก จนเป็นที่จับตาของทุกฝ่ายและตอกย้ำบรรยากาศความหวาดกลัว ตึงเครียดในการลงประชามติที่กำลังจะมาถึงนี้

รอบก่อนหลังจากมติส่วนใหญ่เสนอให้เพิกถอนใบอนุญาต ทางช่องพีซทีวี ไปฟ้องศาลปกครอง จนมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รอบนี้รอดูว่าจะออกมาอย่างไร แต่ส่วนตัวเห็นว่าการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์โดยฐานกฎหมายพิเศษ จะเข้าข่ายการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุได้ เพราะจะกระทบกับรายการอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง
รวมถึงพนักงานและลูกจ้างทั้งหมดจะตกงานกะทันหันด้วย

ความจริงเนี่ยนะครับ พวกเราก็ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อนว่าเรื่องราวเหล่านี้จะมีการพิจารณากันในวันพรุ่งนี้ เพราะเรื่องราวเนี่ยนะครับ ในรายการของณัฐวุฒิ ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 21 มีนาคม เดือนนี้เดือนมิถุนายนนะครับ 4 เดือนมาแล้ว รายการเข้มข่าวดึกวันที่ 24 มีนาคม และ ห้องข่าวเล่าเรื่อง 28 มีนาคม

แต่ทั้งหมดนี่นะครับ ผมก็เชื่อว่ามาจากศูนย์ปราบโกงประชามติเนี่ยแหละ เอากันจริงๆแล้ว เพราะว่าเรื่องราวเนี่ยนะครับ ตอนแรก กสทช. หรือจะ กสท. ก็ตาม เมื่อตอนแรกทำตัวเป็นไม้บรรทัด เรียกช่องการเมืองต่างๆไปพูด แต่ตอนหลังก็เหลือช่องพีซนี่แหละครับที่ถูกลงโทษช่องเดียว ช่องทีนิวส์อย่างมากก็แค่ปรับ ฟ้าวันใหม่อย่างมากก็แค่ปรับ แต่ของพีซทีวีเนี่ยนะครับ ขนาดเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้วนะครับ แล้วศาลปกครองก็คุ้มครองชั่วคราว วันนี้มันจะเพิกถอนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง คือมันถอนได้ 2 รอบนะครับกับพวกเราเนี่ย 

เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ ถ้าคิดว่าเอาฝ่ามือปิดแผ่นฟ้ากันได้ ผมเองเนี่ยนะครับ เมื่อคราวปิดช่องพีซทีวี เพิกถอนใบอนุญาตครั้งแรก ไม่มีการเรียงลำดับจากเบาไปหาหนัก แล้วก็ไปถอดข้อความที่ผมพูดในรายการมองไกลว่า “อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู บรรยากาศของบ้านเมืองจะน่ารักมากกว่านี้” คำนี้เป็นภัยคุกคามของประเทศ เข้าข่ายยุยงปลุกปั่นจนกระทั่งกระทบกระเทือนต่อราชอาณาจักรไทย “อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู บรรยากาศของบ้านเมืองจะน่ารักมากกว่านี้” เนี่ยครับ เหตุผลที่เพิกถอนใบอนุญาต ผมยกส้นตีนให้เลยเวลานั้น

แล้วอีกข้อกรณีระเบิดเกาะสมุย ก็ถอดเทปนะครับ สรุปเอาเอง ไม่ได้เป็นไปตามความที่ผมพูด ศาลปกครองก็จึงให้การคุ้มครองชั่วคราว ผมเองเนี่ยนะครับ ในวันที่ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว ผมก็ร้องกับศาลว่าท่านช่วยนั่งเป็นพยานหน่อย และก็บอกตัวแทน กสทช.ว่า เมื่อคุณร้องผมรายการเดียว ผมไม่ต้องการให้คุณกลับไปเนี่ยนะครับว่าคุณแพ้ผม ผมชนะคุณ คุณก็จะมีที่ยืน พีซทีวีก็จะมีที่ยืน เพราะคุณมีปัญหากับผมคนเดียว เพราะฉะนั้นผมก็จะไม่จัดรายการในทางช่องพีซ และเข้ามาจัดทางยูทูป ไม่มีใครคาดคิดว่า กสทช.จะยื่นอุทธรณ์นะครับ แต่ปรากฏว่า กสทช.ไปยื่นอุทธรณ์ และผลของการยื่นอุทธรณ์ก็รอการอ่านของศาลปกครองสูงสุดเท่านั้นน่ะ

ปัญหาก็คือว่า ประเทศนี้ไม่กฎหมายไหนครับ ที่เพิกถอนใบอนุญาตได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกก็เพิกถอนแล้ว มันเลยหน้าที่คุณไปแล้ว กสทช. คุณเพิกถอนสถานีพีซฯไปแล้ว วันนี้เป็นอำนาจของศาลปกครอง พีซทีวีอยู่ในการคุ้มครองของศาลปกครอง ไม่ใช่อยู่ภายใต้ กสทช.อีกต่อไป ได้ยินมั้ย กสทช. คุณฟังผมไว้
แสดงว่าโทรทัศน์ช่องพีซ ถูกถอนได้ 2 ครั้งเหรอ แล้วมันจะถอนได้ 2 ครั้ง ได้ยังไงล่ะครับคนเราเนี่ย เหมือนคนตายไปแล้ว 2 ครั้งเนี่ย มันมีที่ไหน คนเรามันตายครั้งเดียวกันทั้งนั้น ตอนปี 2548 ต่อ 2549 ศาลปกครองนี่ล่ะครับ กรณีช่อง ASTV รัฐบาลเวลานั้นดำเนินการอะไรไม่ได้ เพราะศาลปกครองให้การคุ้มครองชั่วคราว ASTV ไม่มีการเพิกถอนซ้ำ ไม่มีการยกเลิกซ้ำ แต่ไม่ใช่เกี่ยวกับช่องพีซทีวี นี่ไงครับ เรื่องประชามติ ตอนแรกนี่นะครับ บอกว่าเปิดไปสิ อย่าลืมจับตัวเองก็แล้วกัน อยากจะเปิดก็เปิดไป พอเปิดแล้วไง ปิดพีซทีวีเลย

เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ ผมอยากจะเรียนว่า ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรนะครับ เพราะศูนย์ปราบโกงนั้น มีภารกิจเพื่อการปราบโกงการทำประชามติ ไม่ใช่ว่าปิดพีซทีวีแล้วจะจับโกงไม่ได้ ปิดพีซทีวี ปิดศูนย์ปราบโกง แล้วทุกอย่างเรียบร้อยเหรอครับ เพราะฉะนั้น ปิดพีซทีวี ปิดศูนย์ปราบโกง แต่ทั้งพีซทีวีและศูนย์ปราบโกงนั้นจะไปเปิดกลางหัวใจของพี่น้องประชาชนทั้งแผ่นดิน 

ผมนี่เอะใจอยู่แล้ว เมื่อวานนี้เห็นไก่อูสัมภาษณ์ จุ๊กจิ๊กๆๆ ว่าคนมีคดีจะมาตรวจสอบได้ยังไง ผมก็บอกว่าก็ตรวจสอบคนที่มีคดีแต่นิรโทษกรรมให้กับตัวเองไง บางคนเนี่ยนะครับไม่รู้ไก่อูรู้จักมั้ย วิ่งโต๊ดเถื่อนสนามม้านางเลิ้ง ยังเป็นใหญ่เป็นโตปัจจุบันนี้ได้ ทำจั๊บๆๆ เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ หลักใหญ่ใจความ ณ วันนี้ ผมก็รู้มาแบบเดิมนั่นแหละครับ เถียงสู้ไม่ได้ก็ปิดทีวีอีก แต่ลืมไปว่านายจตุพร นี่ล่วงหน้าทางยูทูป เฟสบุคไปไกลแล้ว แตกไลน์กันพรึ่บ แชร์กันพรั่บ เอากันไม่อยู่หรอกครับ ผมนี่นะครับซื้อหวยไม่ถูกอย่างเดียว มันคิดว่าชาวบ้านดูทีวีไม่ได้แล้วนะครับ เปิดดูทางอื่นไม่ได้ ไม่มีปัญหาเลย

แต่มันจะสะท้อนอะไรครับ มันจะสะท้อนให้เห็นเลยว่า ที่สุภิญญาได้พูด มันจะเห็นซึ่งบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว มันไม่ใช่ประชาชนหวาดกลัวนะผมจะบอกให้ ผู้มีอำนาจนะครับต่างหากที่หวาดกลัวประชาชนจนเกินเหตุ

เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับ เราระดมต่อลมหายใจให้กับพีซทีวี ไอ้พวกนี้จะมาดึงสายอ๊อกซิเจนซะอย่างนั้น แล้วช่องอื่นๆมีปัญหาก็ปรับ พักก็ไม่พัก ตอนแรกว่า พักใบอนุญาตก็ไม่พัก แต่พอช่องพีซเพิกถอนเลย ทั้งที่มันลืมว่ามึงเพิกถอนกูไปก่อนแล้ว มึงเพิกถอนซ้ำได้ยังไงว่า เพราะคำว่ามึงเป็นคำสุภาพตามความหมายของสมชัย ศรีสุทธิยากร

เราเองเดินท่ามกลางความยากลำบาก 2 ปี ที่ผ่านมา ความจริงถอยไป 10 กว่าปีนั้น ที่ผมบอกกับพี่น้องว่า แต่ละวันเนี่ยนะครับไม่ติดคุก แต่ละวันยังหายใจอยู่ก็ได้กำไรมากอยู่แล้ว เพราะเนี่ยนะครับหนทางของการต่อสู้ ไม่ตายก็ติดคุก เพราะฉะนั้นเนี่ยนะครับก็จึงทำใจกันมาตั้งแต่ต้น แต่ผมเองต้องการรบกับคนที่มีเกียรติ ต้องการจะต่อสู้กับคนที่เป็นลูกผู้ชาย ต้องการต่อสู้กับคนที่เป็นหน้าตัวผู้ ไม่ใช่หน้าตัวเมียแบบนี้ ต้องการต่อสู้คนปากกับใจตรงกัน ไม่ต้องการต่อสู้กับไอ้หมาลอบกันส้นตีนแบบนี้ ไม่ชอบเลยจริงๆ 

เพราะว่าหลักใหญ่ใจความคืออะไรครับ มันไม่มีเหตุอะไรเลย เราก็พยายามประคับประคองสถานการณ์ แล้วก็ศูนย์ปราบโกงนั้นเนี่ย มีเอาไว้เพื่อการปราบโกง ไม่โกงก็ไม่ต้องเดือดร้อน ยกเว้นว่าต้องการจะโกง ถ้าต้องจะโกงก็ปิดศูนย์ปราบโกง ปิดพีซทีวี แล้วก็โกงกันไปเอากันเต็มที่เลยพี่ เอาไป แต่ถ้าไม่ต้องการจะโกงเนี่ยนะครับ เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร

ทั้งหมดทั้งปวงนั้น ทำให้เราได้เตรียมการ เตรียมความรู้สึกกันไว้ เพราะผมเองก็ไม่คาดคิดว่า สู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้เนี่ย แล้วก็ไปล้วงเอาเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเอามา แล้วเรื่องที่พิจารณา ไม่ว่าเป็นรายการเข้าใจตรงกันนะ เข้มข่าวดึก ห้องข่าวเล่าเรื่อง มันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันอีกน่ะ แต่เพียงแต่ว่าข้าพเจ้าต้องการจะเอากันแบบนี้ 

พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะที่เป็นหัวหน้า คสช. องค์รัฐาธิปัตย์ กับผมจะชอบหน้าหรือไม่ชอบหน้าก็ตาม ท่านไม่ชอบหน้าผมอย่างไร ผมก็ไม่ชอบหน้าท่านอย่างนั้น แต่เราควรจะมีความเป็นลูกผู้ชายกันอยู่ ถ้าจะต่อสู้ก็ตรงไปตรงมา อย่ามารังแกคนอื่น ไปรังแกพีซทีวีทำไมครับ ผมก็ออกมาจัดทางยูทูปแล้ว อยากจะมีปัญหากับผม ก็มีปัญหากับผม ไม่ต้องไปหากับคนอื่น แต่เมื่อท่านเผลอพูด จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามนั้น ว่าให้เปิดศูนย์ปราบโกงได้ จะเปลี่ยนคำพูดก็ไม่ได้ เพราะน้ำลายที่ถ่มไปแล้ว คุกเข่าเลียแพล่บๆเอากลับคืนมานั้น เสียความเป็นรัฐาธิปัตย์หมด

ดังนั้น ก็จึงให้บรรดาพวกกระจ๊อกทั้งหลายมาใช้มาตรการกันแบบนี้ เพราะฉะนั้นผมเองต้องขอบคุณสุภิญญา กลางณรงค์ อย่างน้อยที่สุดนะครับ คุณพ้นวาระจาก กสทช. คุณมีถนนเดินอย่างมีเกียรติ แม้คุณจะเป็นเสียงข้างน้อยใน กสทช. แต่คุณจะเป็นเสียงข้างมากในหัวใจประชาชน ผมจะบอกเอาไว้

นี่ถ้าสุภิญญาไม่ออกมาพูดเนี่ย พรุ่งนี้จะไม่รู้เลย พรึ่บ จอดำๆ จอดำไม่พอ ใจมันยังดำยิ่งกว่าจออีก บางคนน่ะ แต่เอาเถอะครับพี่น้องครับ เราต้องตั้งหลักใจเย็นกันอย่างถึงที่สุด เพราะว่าอะไรครับ เรามีภาระมีหน้าที่ แต่การสื่อสารไม่มีปัญหาครับ สมัยก่อนนะครับมีแค่นกพิราบมันยังสื่อสารกันได้ เดี๋ยวนี้มีทั้งเฟสบุค ยูทูป อินสตราแกรม เยอะแยะไปหมด

เพราะฉะนั้น การปิดทีวีช่องหนึ่งแล้วคิดว่าจะชนะ ผมจะบอกว่าจะยิ่งแพ้หนักกว่าเดิม เพราะฉะนั้นถึงไหนก็ถึงไหน อยากจะปิดพีซ อยากจะปิดศูนย์ปราบโกง เชิญลงมือได้ตามสบาย ไม่ใช่ว่ากลัวว่าจะถูกปิด ที่อยู่กันทุกวันก็ไม่ได้อยู่กันด้วยความกลัวกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่านึกไม่ถึงไง ว่าเถียงสู้ไม่ได้ คือหมายความว่าเอาสารพัดโฆษกมาเจื้อยแจ้ว แล้วเถียงสู้เขาไม่ได้ ปราบโกงก็หมดความชอบธรรมที่จะพูด ปรากฏว่าเถียงสู้ไม่ได้ก็ใช้วิธีการแบบเดิมๆ เมื่อเถียงสู้มันไม่ได้ ก็อย่าให้มันเถียง ด้วยการปิดทีวี มันไม่มีวาระอะไรเร่งด่วนหรอกครับ

สุภิญญาพูดถึงขนาดว่ามันเป็นบรรยากาศประชามติแบบนี้มันสร้างบรรยากาศความหวาดกลัว เพราะทุกคนต่างมองเห็นเหมือนกันว่า นี่เป็นวิธีการกดดัน อยากเปิดศูนย์ปราบโกงก็ต้องปิดพีซ แล้วก็ใช้วิธีไปกดดันบรรดาศูนย์ต่างจังหวัด ผมก็พูดชัดเลยว่า ไม่ต้องไปกดดันศูนย์ต่างจังหวัดเลย มาที่กรุงเทพมหานคร ปิดศูนย์กรุงเทพได้ ที่อื่นก็เปิดไม่ได้อยู่แล้ว

ผมเองก็พูดความชัดเจนว่าผมไม่ได้วิตก ว่าปิดศูนย์ไปแล้วจะจับโกงไม่ได้ พวกนั้นก็จะ ชนะขาดลอยเพราะว่าปิดพีซได้แล้ว ปิดศูนย์ปราบโกงได้แล้ว จำปากผมไว้นะครับ ถ้าใจถึงถึงวันที่ 7 สิงหาคม จะแพ้หนักยิ่งกว่าประเทศพม่าอีก จำปากผมไว้

เพราะไอ้ความลักลั่นไงครับ ไอ้ความลนลาน เพลงฉ่อยออกมาก็ผิดรัฐธรรมนูญตัวเอง ออกมาเพลงแต่ละภาคเนี่ยนะครับ ว่าคนเหนือคนอิสานเนี่ยนะครับ ว่าถูกหลอกได้ง่าย มีภาคใต้ภาคเดียวที่ฉลาด ฉลาดแบบสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ฉลาดไปเถอะ ผมเป็นคนใต้ยังอายเลยครับ

บรรยากาศงานลมหายใจวันนี้เนี่ยนะครับ มันก็ฟึดฟัดกันบ้าง แต่เอากันว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หัวใจเราก็เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าถูกปิดแล้วใจจะถูกปิดไปด้วย ปิดทีวีแต่หัวใจเราจะเปิด และจะเปิดกว้าง และจะกว้างมากกว่าเดิม เพราะฉะนั้นนะครับ ก็บอกกล่าวกับพี่น้องว่า ถ้าพรุ่งนี้ปิดนะครับ อาทิตย์นี้ก็เป็นอาทิตย์สุดท้าย ถือว่าได้ออกรายการสั่งเสียเหมือนกัน แต่เอากันเป็นว่า หลักใหญ่ใจความว่า กสทช.ใช้อำนาจอะไรมาปิดซ้ำ เพราะมันปิดไปแล้ว แล้วมีไอ้บ้าที่ไหนมาปิดได้ ผมสงสัยจริง เพราะก่อนหน้านี้ครับ ร้องไปยังศาลปกครองเป็นระยะๆๆๆตลอด แต่ประเภทนะครับ ผมก็พอทายกันได้ว่าร้องอย่างไร พอต่อสู้กันมามันไม่มีเหตุผลไง ก็เลยใช้วิธีทางลัดกันอีก

เพราะฉะนั้น ก็แจ้งกับพี่น้องว่าถ้าจอดำพรุ่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เราก็จะต้องสู้ต่อไปนะครับ แต่ผมเองก็อยากจะบอกว่า ใครก็ตามที่ใช้อำนาจโดยมิชอบ จงนึกถึงวันที่ไม่มีอำนาจบ้าง ให้จำหน้าคนอย่างนี้ไว้ด้วย วันที่คุณไม่มีอำนาจน่ะ เพราะคุณจะรู้ว่าวันนั้นนะครับ สิ่งที่คุณคิดว่าคุณชนะเนี่ย ความจริงมันเริ่มแพ้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณนับเวลาถอยหลังคุณได้เลยผมจะบอกให้ เมื่อต่อยไร้กติกา ต่อยใต้เข็มขัด ไม่ใช่วิสัยของนักกีฬาแล้ว คุณไม่มีเกียรติพอที่จะอยู่ในสนามนี้อีกต่อไป ถ้าเป็นภาษามวยเขาก็ไล่ลงจากเวที ถ้าเป็นในงานเขาก็บอกว่า get out ออกไปได้แล้ว คุณไม่อยู่ในฐานะนักกีฬาอีกต่อไป

คนที่มีเกียรติเท่านั้นที่จะอยู่ในสนามได้ ถ้าไร้เกียรติ ไม่ใช่เป็นนักกีฬา get out ออกไป เพราะฉะนั้นนะครับทั้งหมดทั้งปวงก็ขอบคุณพี่น้องทั้งหลาย เราต่อลมหายใจกันหลายสัปดาห์ แต่ว่าพวกผมนั้น ไม่ว่าจะปิดหรือไม่ปิดอย่างไรก็ตามก็จะอยู่กันที่นี่ พนักงานก็จะอยู่ครบกันทุกคน ไม่ว่าจะทำหน้าที่ออกทางช่องทางไหนก็ตามนะครับ ไม่มีช่องทางก็ให้มันรู้ไปว่าอับจนปัญหา แต่บอกสักคำว่า ปิดก็ไม่มีความหมาย

เพราะกูไม่ยอมมึงอยู่แล้วก็จะต้องต่อสู้ต่อไป!
ขอบพระคุณมากครับพี่น้องที่เคารพ!

https://www.youtube.com/watch?v=XzXVnEFJK58