วันศุกร์, มิถุนายน 17, 2559

‘จ่าเฉย’





ตกลงอีกที หนที่ ๑๑ รถไฟไทย-จีนสร้างแน่ แต่ว่าเอาแค่ ๓ โลครึ่งก่อนนะ จะบ้าตาย

ตีตราจองทั้งเส้นทาง ยังไม่รู้เอาเงินที่ไหน “เบื้องต้นอาจใช้เงินกู้ในประเทศ ส่วนเท่าไหร่ต้องรอแบบก่อสร้างก่อนจึงจะประเมินราคาได้”

“คาดว่าจีนจะใช้เวลาออกแบบประมาณ ๑ เดือน และฝ่ายไทยจะเปิดประมูลได้เดือน ส.ค. เริ่มก่อสร้างในเดือน ก.ย.นี้” เรียกได้ว่าเฉพาะหัวคิว

สำหรับการก่อสร้างเฟสที่สองขยับอีกนิดเข้าไปที่คอคิว มีระยะทาง ๑๐ กิโลเมตร ออกแบบรายละเอียดเสร็จเดือน ต.ค. นี้

เฟสที่สามจึงจะของจริง ระยะทาง ๑๒๐.๕ กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จเดือน ธ.ค. นี้ เฟสที่สี่ ระยะ ๑๑๙ กิโลเมตร ออกแบบเสร็จเดือน ก.พ. ๒๕๖๐

ส่วนจุดที่จะสร้างเลือกเอากลางปล้อง บริเวณสถานีกลางดง โคราช “เพราะไม่ต้องเวนคืน เนื่องจากเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังเป็นช่วงที่เป็นทางระดับพื้นราบที่ไม่ต้องผ่านภูเขาสามารถเริ่มก่อสร้างได้เลย”

(http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php…)

นั่นเป็นข้ออ้าง แต่มีคนเขาตีความอีกอย่าง (จากโพสต์เฟชบุ๊ค อธึกกิต แสวงสุข) “ทำน่าเกลียดมาก สร้างแค่ ๓.๕ ก.ม. จองสิทธิ หวงก้าง เอาหางแช่น้ำไว้ก่อน...

สมมุติยืดเยื้อไปอีก ๕ ปี ๑๐ ปียังสร้างไม่ได้ ยังไงก็เป็นของจีน...ผูกมัดทั้งสาย ไปถึงโคราช ไปถึงหนองคาย มัดมือมัดตีนไว้กับจีน ทั้งสเป็ค ทั้งราคา”





นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือรถไฟไทย-จีนด้วยว่า “วงเงินลงทุนโครงการขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ฝ่ายไทยขอให้ปรับลดลงอีกแต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและความปลอดภัย” และ

“แต่สำหรับมูลค่าโครงการยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าบริหารโครงการ ค่าฝึกอบรมพนักงาน...”

คืออะไรๆ ก็ยังไม่แน่นอน แต่จองเอาไว้ก่อน ให้แน่ ได้แน่ “เพื่อให้ทันตามที่ผู้นำสองฝ่ายตั้งเป้าไว้”

อย่างนี้จะกลัวอะไร ใช้มาตรา ๔๔ มันเสียเลย แน่นอนที่สุด จะให้ดีขึ้นไปอีก ใช้ยึดทรัพย์ด้วยก็ได้ ยิ่งลักษณ์น่ะ มัวแต่เอาไปขึ้นศาลเสียเวลายึกยักยืดเยื้อ

ซ้ำเวลาเธอไปศาลแต่ละที คนไปห้อมล้อมเซลฟี่กันตรึม เสียภาพลักษณ์ คสช. หมด กลายเป็นที่ติฉินของพวกปฏิรูปพลังงานว่าทั่นตู่ซูเอี๋ย ทำน้ำยาหก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี

แต่อย่าไปใช้ยึดทรัพย์พวกซื้อ จีที-๒๐๐ เข้าล่ะ เสียหน้าคุณหญิงพรดริฟท์หมด กับพวกที่เคยออกมาบอกเป็นของดีใช้งานได้ ทั้งอดีตนายกฯ และอดีตผู้บัญชาการฯ รูปหล่อทั้งนั้น ถึงจะมีตัวอย่างอังกฤษก็ชั่งมัน ที่นี่ประเทศไทยต้องชั่งมัน

อย่าถามว่าตัวอย่างไรล่ะ อ้าวไม่รู้เหรอ ‘บีบีซีไทย’ เขารายงานเอาไว้ มัวแต่ไปประชุมอินเดีย งานยุ่งดิ ไม่เป็นไร เราเก็บมาเล่าเอาใจ





“เมื่อวันที่ ๑๕ มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลประเทศอังกฤษ ตัดสินยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า ๗.๙ ล้านปอนด์ (ราว ๓๙๕ ล้านบาท) จาก เจมส์ แมคคอร์มิค ผู้ต้องหาในคดีจำหน่ายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของแมคคอร์มิคและพรรคพวกซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว”





นายแม็คคอร์มิคคนนี้ถูกตัดสินความผิดให้จำคุก ๑๐ ปีไปแล้วตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ ฐานย้อมแมวขาย เอาเครื่องตรวจหาลูกกอล์ฟราคา ๑๔ ปอนด์ (๗๐๐ บาท) มาดัดแปลงเป็นเครื่องตรวจระเบิดรุ่น ADE-651, GT200 และ Alpha 6 ให้แก่ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย

คราวนี้เป็นคำสั่งยึดทรัพย์เพื่อนำไปชดใช้บรรดาผู้เสียหายต่างๆ โดยประเทศอิรักเป็นรายใหญ่ที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหาย ๒.๓ ล้านปอนด์ หรือ ๑๑๕ ล้านบาท

(http://prachatai.org/journal/2016/06/66358)

ไม่ว่าคดีที่อังกฤษจะครึกโครมแค่ไหน ทั้งเมื่อตอนตัดสินจำคุกจำเลยเมื่อปี ๕๖ และตอนนี้ให้ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินไปชดใช้ผู้เสียหาย ในประเทศไทยเงียบกริบ รัฐบาลเป็นสุภาพบุรุษมาก ไม่คิดจะร้องขอให้มีการชดใช้ใดๆ

กระทรวงกลาโหมที่พี่เอื้อย คสช. บิ๊กตือคุมอยู่ “ไม่มีหน้าที่หาเงิน มีแต่ใช้เงิน” ก็เลยสวมวิญญาณ ‘จ่าเฉย’

ไอ้พวกแท่งวิเศษที่หน่วยงานรัฐไทยจัดซื้อกันมาเป็นมูลค่าทั้งสิ้น ๑,๑๓๐ ล้านบาทนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกเมื่อปี ๕๖ ที่ในอังกฤษนายแม็คคอร์มิคถูกตัดสินจำคุก

“มีคำสั่งให้ระงับการใช้จนกว่าจะมีการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ ต่อมาเมื่อผลการพิสูจน์ออกมาว่าไม่สามารถใช้การได้ ทางกองทัพก็ยอมรับ” ไปแล้ว

(http://www.posttoday.com/crime/218088)

นอกจากจะไม่มีเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้จัดขาย ไม่มีใครต้องรับผิดสักคน และเก็บอุปกรณ์เข้าคลังดองไว้เฉยๆ เหมือนกับเรือเหาะของกองทัพอากาศ ที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีข่าวเล็ดลอดมาว่า กลาโหมกระมิดกระเมี้ยนขายเป็นของเก่าแบบคลองถม ได้ค่าตอบแทนมาต่ำกว่าราคาจริงเป็นสิบๆ เท่า

จีที ๒๐๐ นี่ก็เหมือนกัน อีกไม่นานคงได้นำออกขายเป็นเศษเหล็กแน่ๆ เรื่องค้าขายเซ็งลี้อย่างนี้ คสช. เขาถนัด