วันนี้ขออนุญาตเอามันมากหน่อย โดยไม่ต้อง ‘ชั่ง’ หลังได้ฟังคลิป จากทวี้ต Deep Blue Sea @WassanaNanuam
“นายกฯเปรยน้ำท่วม กทม.เพราะแผ่นดินต่ำ ขอช่วยกันทำ กทม.ให้สูงขึ้น เพราะถ้ามีคนไม่ดี ก็หนักแผ่นดิน แผ่นดินต่ำลง ไม่งั้นก็ต้องหนีน้ำท่วมไปอยู่ ตปท.”
ปากหนอปากสักแต่ว่าทำเสียงได้ จะพ่นอะไรออกมามันช่างส่อเสียดไม่มีปฏิสัมพัทธ์ใดๆ กับคุณภาพทางปัญญา หาไม่เจอ ‘คุณ’ สมบัติผู้นำแม้แต่นิด
นัยว่าแกฉุนที่หมู่นี้สมาชิกพรรคเพื่อไทยและ นปช. ออกมาค้านร่างรัฐธรรมนูญกันหนัก นอกจาก ๑๗ แกนนำ พท.ระดมกันใช้สื่อสังคมปฏิเสธ ‘ไม่เอา’ ร่างฯ มีชัยแล้ว นปช.ยังตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติกันเป็นเห็ดผุด ปิดที่นี่เปิดที่โน่นกันไม่เว้นแต่ละวัน
มิหนำพากันไปฟ้องยูเอ็น ๆ (ประเทศไทย) ก็แนะนำให้เขียนจดหมายถึงเลขาธิการ บัน คี มูน โดยตรง ถ้าต้องการเชิญไปสังเกตุการณ์การออกเสียงประชามติ
นอกเหนือจากนั้น เลขาฯ (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) ยังแจงว่าที่แน่ๆ นปช. จะทำหนังสือเชิญสหภาพยุโรปมาเป็นผู้สังเกตุการณ์ในวันที่ ๗ สิงหาคม
(http://prachatai.org/journal/2016/06/66427)
ทั่นหัวหน้าคณะฯ เลยเอาบ้าง ต่อสายตรงฟ้องบัน คี มูน “ได้เล่าให้ทางเลขาฯ ยูเอ็นฟัง คือความเคลื่อนไหวของคนที่ไม่หวังดี...
ในส่วนของความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนที่มีความพยายามจะไปร้องกับทางตัวแทนยูเอ็นนั้น ผมก็ได้บอกกับท่านว่ายังมีการเคลื่อนไหวลักษณะนี้อยู่ ก็ได้เล่ารายละเอียดให้ฟังท่านก็รับทราบ...
แต่ปัญหาคือว่าบางพรรคการเมืองไม่ร่วมมือ ซึ่งท่านก็เข้าใจ คือบางพรรคเข้ามามีส่วนร่วมแล้วมาอ้างทีหลังว่าไม่เห็นด้วย มันถูกต้องหรือไม่ ผมก็ถามท่านฯ ท่านฯก็เงียบไป...
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรกับพวกหนักแผ่นดินที่พูดบนเวทีสานพลังประชารัฐด้านการศึกษา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดหมายถึงใคร ไม่รู้ ไม่ได้ว่าใคร สื่อก็ไปหากันเอง...
เดี๋ยวคอยดูแล้วกันถ้าถึงเวลากระบวนการยุติธรรมเขาเรียกตัวแล้วก็หน้าซีดกันทุกตัว ทีอย่างนี้เก่งกันทุกคน”
(http://www.matichon.co.th/news/181230)
อีกอย่างหนึ่งจากข่าวเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า อดีตนายกรัฐมนตรีและ ‘นายใหญ่’ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร กำลังจัดตั้งธุรกิจไฮเทคบุกเบิก (Startup) มูลค่ามากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์ ในประเทศอังกฤษ น่าจะเป็นที่มาแห่งความฉุนเฉียวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยก็ได้
ฉุนเพราะ “บางพรรคเข้ามามีส่วนร่วมแล้วมาอ้างทีหลังว่าไม่เห็นด้วย” อันนี้ตกลงร่วมมืออะไรไว้แล้วกลับตัวเปลี่ยนใจกัน ไม่รู้ได้
แต่ว่าธุรกิจที่ข่าวจาก น.ส.พ. เดอะเทเลกร๊าฟ เปิดเผยว่าอดีตนายกฯ เป็นผู้จัดตั้งร่วมกับมหาเศรษฐีน้ำมัน เอียน เทย์เลอร์ เป็นผลงานทางธุรกิจส่วนตัวล้วนๆ ที่ไม่ควรนำไปอ้างเหมารวมกับ ‘ระบอบทักษิณ’ ที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองยังก้าวไม่พ้น
บริษัทไฮเทคชื่อว่า Scentrics ของทักษิณนี้มีพื้นฐานการดำเนินงานจากการค้นคว้าวิทยาการคอมพิวเตอร์ด้านระบบป้องกันภัยทางโทรคมนาคมของ ‘ยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน’ โดยอ้างสรรพคุณว่าเป็นระบบปกป้องการสื่อสารไม่ให้ถูกดักฟังโดย ‘คนที่อยู่ตรงกลาง’ ได้ดี ในขณะที่เปิดช่องให้ทางการสามารถเข้าไปสอบสวนได้อย่างถูกกฎหมาย
บริษัทมีข้อตกลงเบื้องต้นในการทำธุรกิจแล้วกับข่ายงานยุทธศาสตร์ดิจิทอลของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยมีบรรษัทยักษ์ใหญ่ เทมาเส็ก เป็นผู้ระดมทุนและประสานงานที่นั่น
(http://www.telegraph.co.uk/…/british-internet-security-sta…/)
รู้แล้วอย่างนี้ ไอ้ที่ทำฉุนอาจเป็นเพียง ‘แบบบทหยดย้อย’ ตามเคยก็ได้
ถ้าอย่างนั้น ข้อสังเกตให้ไว้ที่นี่ก็ต้อง ‘ชั่งมัน’ กันละ